2024-04-20

รัฐบาลออสซี่รับรองหลักสูตร 'นวดเพื่อการรักษา' แล้ว



คนไทยในออสเตรเลีย พัฒนาวิชาชีพนวดแผนไทยมาเป็นนวดเพื่อการรักษา (Remedial) เปิดหลักสูตรสอนเป็นทางการในซิดนีย์ รัฐบาลออสซี่รับรองหลักสูตรแล้ว...
 

 

เป็นที่ทราบกันดีว่าอาชีพนวดแผนไทย นับเป็นอาชีพยอดนิยมอันดับหนึ่งและคงจะปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นอาชีพที่ทำเงินสามารถสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนวดแผนไทยในต่างแดนที่สร้างทั้งเงินทองและชื่อเสียง  อย่างเช่น ที่นครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ที่เหล่านักศึกษาไทยหลายคนใช้อาชีพนี้เป็นช่องทางหารายได้จ่ายเป็นค่าเทอมระหว่างเรียนหนังสือและเลี้ยงตัวเอง โดยไม่ต้องรบกวนเงินทางบ้าน โดยเป็นการนวดแผนไทยจริงๆ ไม่มีเรื่องอื่นแอบแฝง หรือคนไทยในซิดนีย์บางรายทำกิจการร้านนวดที่มีฝีมือและคุณภาพที่ดี เป็นที่ติดอกติดใจของลูกค้า จนสามารถขยับขยายไปหลายสาขาและสร้างฐานะได้เป็นอย่างดี ทำให้มีคนไทยในนครซิดนีย์ เปิดโรงเรียนสอนนวดแผนไทยอย่างเป็นทางการ เพื่อให้การนวดเป็นไปอย่างมีมาตรฐานและถูกต้องตามหลักกายภาพ มีคนไทยและชาวต่างชาติแห่มาเรียนกันอย่างมากมาย

 

โดยผู้ที่เปิดหลักสูตรสอนนวดแผนไทยดังกล่าว คือนายสมสกุล ป้อมมงกุฏ หรืออาจารย์เล็ก ผู้อำนวยการหลักสูตรการนวดเพื่อการบำบัดรักษา โรงเรียน NSW Business College เปิดเผยกับนายประสิทธิ์ นิเวศน์ทอง ผู้สื่อข่าวไทยรัฐประจำนครซิดนีย์ว่า ขณะนี้มีคนไทยและต่างชาติมาเรียนหลักสูตรการนวดเพื่อการบำบัดรักษากับทางโรงเรียนเกือบ 100 คนแล้ว หลังเพิ่งเปิดหลักสูตรนี้ได้ไม่ถึง 1 ปี ส่วนใหญ่เป็นเจ้าของร้านนวดและพนักงานนวดทั้งชายทั้งหญิง เนื่องจากนวดแผนไทยในออสเตรเลียมีชื่อเสียงอย่างมาก

 

 

นายสมสกุล เปิดเผยอีกว่า ก่อนหน้านี้วิชาชีพนี้ ยังไม่เป็นที่ยอมรับของรัฐบาลที่นี่ จึงคิดกันว่าทำอย่างไรจึงจะให้เป็นที่ยอมรับของที่นี่ให้ได้ เลยคิดหลักสูตรนี้ขึ้นมา โดยเอานวดแผนไทยเข้ามารวมกับการนวดแบบกายภาพบำบัด หรือผสมผสานกับทางด้านวิทยาศาสตร์ เพื่อให้เกิดจุดแข็งและไปสู่สากล แล้วนำเสนอต่อผู้บริหารโรงเรียน ซึ่งผู้บริหารก็เห็นดีด้วย จากนั้นจึงเสนอต่อรัฐบาลออสเตเลีย ใช้เวลากว่า 2 ปี จนรัฐบาลเห็นว่าเป็นหลักสูตรที่มีการเรียนการสอนอย่างถูกต้องและความต้องการของตลาดมีมาก จึงรับรองหลักสูตรนี้
 

 

การเรียนการสอนจะมี 2 หลักสูตร โดยหลักสูตรแรก เป็นใบรับรองระดับ 4 (Certificate IV) และหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ (Diploma) ทั้งหมดใช้เวลาเรียนประมาณ 1 ปีครึ่ง โดยต้องเรียนทั้งภาคทฤษฎี และภาคปฏิบัติเหมือนกัน จะต้องเรียนรู้ส่วนต่างๆ ของร่างกาย หน้าที่การทำงานของส่วนต่างๆ ในร่างกาย เรื่องของความเจ็บป่วยทางด้านร่างกาย ทั้งกระดูกและกล้ามเนื้อ โดยหลักสูตรเน้นให้ผู้ประกอบอาชีพนี้มีความรู้ความเข้าใจอย่างแท้จริง สามารถเอาสิ่งที่เรียนรู้มาบำบัดอาการเจ็บป่วยให้กับลูกค้าได้

 

อาจารย์เล็ก กล่าวต่อไปว่า อีกสิ่งหนึ่งที่โรงเรียนจะเน้นย้ำ คือ มุ่งเน้นให้ทุกคนนวดอย่างมีศีลธรรม จรรยาบรรณ มีกฎเกณฑ์และถูกกฎหมาย ไม่นวดผิดประเภทหรือที่เรียกกันว่านวดแฝงที่นี่จะสอนการนวดที่ถูกต้องให้รู้ขอบเขตว่า เวลานวดสามารถเปิดผ้าลูกค้าได้แค่ไหน นวดตรงส่วนไหนได้บ้าง อะไรห้ามนวด ซึ่งที่ผ่านมาพบเห็นการนวดที่ผิดวิธีและเสี่ยงอันตรายบ่อยมาก คือพนักงานนวดหลายคนชอบขึ้นไปเหยียบบนหลังของลูกค้า หรือการแคร็กให้กระดูกลั่นนั้น ถือเป็นการนวดที่ผิดวิธี อาจทำให้ลูกค้าเป็นอัมพาตและเสียชีวิตได้  เนื่องจากหลังของคนเราธรรมชาติสร้างมาให้รับกับแรงโน้มถ่วงในแนวตั้ง ไม่ใช่แนวนอน การขึ้นไปเหยียบบนแผ่นหลังจึงเป็นการนวดที่ผิดประเภทและอันตราย เพราะหากลูกค้าคนไหนเป็นโรคหมอนรองกระดูกพรุนแล้วเราขึ้นไปเหยียบ อาจทำให้กระดูกร้าวหรือหักได้ทันที ซึ่งมีหลายที่พนักงานนวดไม่มีความรู้อย่างแท้จริงแล้วนวดให้ลูกค้าได้รับบาดเจ็บจนถูกฟ้องร้องมาแล้วจึงต้องระมัดระวัง

 

 

ประโยชน์ของหลักสูตรนี้นอกจากจะมีความรู้ในเรื่องการนวดอย่างแท้จริงแล้ว ยังสามารถนำใบประกาศนี้ใช้แอพพลาย ทำวีซ่าทำงานให้กับตัวเองได้  หลัง จากนั้นก็ยังแอพพลายเป็นพีอาร์ได้ด้วยเช่นกัน และหากใครไปเปิดกิจการนวดก็ยังสามารถออกใบเคลมประกันเงินกองทุนสุขภาพให้กับ ลูกค้าได้อีกด้วย” อาจารย์เล็ก อธิบายประโยชน์ของหลักสูตร

 

อาจารย์เล็ก ระบุด้วยว่า ต่อไปนี้เด็กไทยที่ทำงานนวดจะเริ่มทำงานยากขึ้น เพราะขณะนี้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับเรื่องนวด กำลังเข้าไปตรวจสอบตามร้านนวดต่างๆ ว่า พนักงานนวดทุกคนมีใบรับรองอย่างถูกต้องหรือไม่ และต้องเป็นใบรับรองที่ได้รับจากประเทศออสเตรเลียเท่านั้น ใบรับรองจากเมืองไทยนำมาใช้ไม่ได้ นี่ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่เคยมีการเตือนกันตั้งแต่เมื่อปี 2557 ขณะนี้ก็เริ่มมีการดำเนินการอย่างจริงจังแล้ว ต่อไปเด็กไทยหลายคนที่อยากทำงานนวด ก็จะทำงานยากขึ้น ดังนั้นจะต้องไปอบรมตามสถาบันต่างๆ เพื่อให้ได้ใบรับรองของประเทศนี้มา

 


 

 

ด้วยเหตุนี้จึงคิดว่าอาจจะเปิดหลักสูตรอบรมการนวดในระยะสั้น ให้กับผู้ที่อยากทำอาชีพนี้ จะได้มีใบรับรองนำไปทำงานได้อย่างถูกต้องในเร็วๆ นี้ อย่างไรก็ดี สำหรับผู้ที่มีความรู้หรือผ่านการอบรมมาจากเมืองไทยมาบ้างแล้ว ถือเป็นเรื่องดีเพราะจะทำให้เข้าใจและผ่านการอบรมได้ง่ายขึ้น เพียงแต่ต่อไปนี้ใบรับรองจากเมืองไทยจะไม่มีผลต่อประเทศนี้เท่านั้นเอง     

 

 

ในส่วนผู้ประกอบกิจการร้านนวดไทย นางสาวพัชราภรณ์ มณีธร เจ้าของร้าน Siam Princess Thai Massage กล่าวว่า มีร้านนวดในนครซิดนีย์ทั้งหมด 4 สาขา เมื่อรู้ว่าที่โรงเรียนนี้เปิดสอนหลักสูตรดังกล่าวก็รีบมาลงทะเบียนเรียน เพราะอยากเรียนรู้วิธีการนวดอย่างถูกต้อง ที่ผ่านมาถึงแม้ว่าจะนวดเป็นและนวดได้ดี มีลูกค้าติดเป็นจำนวนมาก แต่บางอย่างก็ยังไม่รู้ลึกและรู้จริง เมื่อได้มาเรียนแล้วทำให้รู้ว่าส่วนต่างๆ ของร่างกายมนุษย์นั้นสำคัญอย่างมากควรระวังในเรื่องใดบ้าง ซึ่งได้ความรู้จริงๆ หลังจากนี้ก็จะให้พนักงานที่ร้านกว่า 60 คนมาเรียนที่นี่ด้วยเช่นกัน

 

 

ขณะที่ นายณัฐกาญจน์ อัครวงศ์วัฒนา หนึ่งในนักเรียนหลักสูตรนวดและกายภาพบำบัด กล่าวว่า เป็นสาวประเภทสองอยากเปิดร้านนวดในซิดนีย์ จึงต้องมาเรียนรู้ทุกอย่างห้เข้าใจอย่างลึกซึ้ง ก่อนหน้านี้เคยเป็นพนักงานนวด เจ้าของร้านและพี่ๆ ก็ช่วยกันสอนวิธีการนวด แต่ก็จะรู้แค่พื้นฐานการนวดเท่านั้น เมื่อได้มาเรียนตามหลักสูตรทำให้เข้าใจเลยว่า มันไม่ง่ายและไม่ใช่นึกอยากจะนวดตรงไหนก็ได้ เพราะกล้ามเนื้อแต่ละส่วนมันเกี่ยวเนื่องกัน หากนวดผิดจุดก็อาจส่งผลให้ส่วนอื่นๆ ของร่างกายได้รับผลกระทบตามไปด้วย

 

 

ดังนั้นคิดว่าหากใครอยากจะประกอบอาชีพนี้จริงๆ ก็ควรจะมาเรียนให้ถูกต้องและเข้าใจอย่างลึกซึ้งดีกว่า นอกจากจะได้ความรู้แล้ว ยังได้รับประโยชน์อื่นๆ อีกหลายอย่าง ที่สำคัญหากเรานวดถูกวิธี ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะทำให้ลูกค้าได้รับบาดเจ็บจนถูกฟ้องร้อง เหมือนที่เกิดขึ้นมาแล้วหลายราย ส่วนเรื่องนวดแฝงนั้นถูกลูกค้าถามเป็นประจำ แต่เราไม่ทำเพราะเคารพในอาชีพของเรา และที่ร้านได้ปลูกฝังให้รักอาชีพของตนเอง เพื่อทำให้อาชีพนี้ดูสูงขึ้น ไม่ให้ใครมาดูถูกอาชีพของพวกเราได้  

 

 

 

ที่มา : http://www.thairath.co.th/content/515474

Natui Website 2016-08-03 11:39:47 9454