จากการรายงานขององค์กร UNICEF พบว่าศูนย์ให้บริการดูแลเด็กเล็กในประเทศออสเตรเลียนั้นมีคุณภาพแย่พอๆกับหลายๆประเทศในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว
ในบรรดาประเทศที่พัฒนาแล้วทั้งหมด 25 ประเทศนั้นประเทศออสเตรเลียนั้นอยู่ที่อันดับสามจากอันดับสุดท้ายโดยมีมาตรฐานเข้าข่ายคุณสมบัติของการให้บริการสถานเลี้ยงดูเด็กก่อนวัยเรียนเพียงแค่ 2 ใน 10 อย่างเท่านั้น
มีแต่เพียงประเทศสวีเดนเท่านั้นที่มีคุณสมบัติตรงตามที่ทาง UNICEF นั้นได้กำหนดไว้ ส่วนประเทศออสเตรเลีย ไอร์แลนด์ และแคนาดานั้นเป็นกลุ่มประเทศสามประเทศที่มีคุณสมบัติไม่ถึง 3 ข้อ ส่วนประเทศ แม็กซิโก สโลเวเนีย โปรตุเกส และเกาหลีนั้นอยู่ในอันดับแซงหน้าประเทศออสเตรเลียทั้งนั้น
จากการวิจัยภายใต้หัวข้อ The Child Care Transition ได้ออกมาอธิบายถึงธุรกิจการดูแลเด็กเล็กซึ่งเปิดกิจการเป็นจำนวนมากและมีความเสี่ยงเนื่องจากยังไม่มีความพร้อมเท่าไรนักและไม่ได้รับการตรวจสอบอยู่เป็นระยะๆ นอกจากนี่ในบทความดังกล่าวยังได้กล่าวถึงมาตรฐานทั้งหมด 10 อย่างด้วยกันสำหรับศูนย์บริการการเลี้ยงดูเด็กก่อนวัยเรียน
ประเทศออสเตรเลียนั้นยังไม่ได้มาตรฐานที่ทางหน่วยงานสากลได้วางไว้ไม่ว่าจะเป็นเรื่องจำนวนพนักงานดูแลที่ได้กำหนดไว้ที่ 1:15 รวมไปถึงการกำหนดให้จำนวนพนักงานที่ดูแลเด็กนั้นต้องได้รับการอบรมเป็นจำนวน 80% นอกจากนี้รัฐบาลเองนั้นก็ไม่ได้สนับสนุนด้านการเงินเป็นจำนวน 1% ของรายได้ประชาชาติทั้งหมดให้กับการบริการดูแลเด็กก่อนวัยเรียน ในขณะที่ประเทศอื่นๆนั้นมีนโยบายประจำชาติในการดูแลเด็กโดยเฉพาะกับเด็กเล็กที่ร่างกายพิการให้ได้รับสิทธิพิเศษดังกล่าวนี้ก่อน
นอกจากนี้ประเทศออสเตรเลียเองนั้นก็ไม่ได้ให้บริการด้านสุขภาพที่ได้มาตรฐานสากลแก่เด็ก นอกจากนี้เด็กที่มาจากครอบครัวฐานะยากจนนั้นก็เกิน 10% ตามที่ได้ตั้งไว้อีกด้วย ส่วนการอนุญาตให้ลูกจ้างลางานเป็นเวลา 1 ปีเพื่อให้ไปดูแลบุตรเด็กเล็กพร้อมเงินเดือน 50% ของจำนวนเต็มตลอดทั้งปี ประเทศออสเตรเลียเองนั้นก็ยังไม่สามารถดำเนินการได้อย่างเต็มที่
มาตรฐานเพียงไม่กี่ข้อที่ประเทศออสเตรเลียผ่านตามคุณสมบัติของการบริการสถานเลี้ยงดูเด็กนั้นเห็นจะเป็นกฎหมายการดูแลการให้บริการการดูแลเลี้ยงดูเด็กและช่วยเหลือด้านเงินทั้งหมด 25% ของเด็กอายุต่ำกว่า 3 ปี รวมไปถึงคุณสมบัติของพนักงานในการดูแลเด็กซึ่งอยู่ในเกณฑ์ที่ 50%