ครูน้ำ เมธิณี มณีภาค

ครูน้ำ เมธิณี มณีภาค
The Voice Within

สวัสดีพี่น้องและแฟนๆชาว Natui.com กลับมาพบกับคอลัมน์เพื่อนใหม่วัยออส หลังจากที่หายหน้าหายตาไปนาน คิดว่าหลายๆท่านยังคอยติดตามกันอยู่ ก็แหม…กว่าจะเฟ้นหาบุคคลคุณภาพแต่ละท่าน มานำเสนอกันได้ ต้องใช้เวลานิสนึงครับ 55…เพราะเราไม่ได้เน้นที่รูปร่างหน้าตาแต่เพียงอย่างเดียว และในที่สุด โอกาสก็ประจวบเหมาะ กับช่วงที่กำลังมีการจัดงานประกวดเฟ้นหาดาวรุ่งดวงใหม่ของซิดนีย์ อย่างงานประกวดร้องเพลง K&O Star Challenge และหนึ่งในทีมงานผู้อยู่เบื้องหลังงานใหญ่ครั้งนี้ ได้ให้เกียรติเรา มาแนะนำให้ชาวเว็บได้รู้จักกัน นั่นคือ ครูน้ำ เมธิณี มณีภาค นั่นเอง….ที่จั่วหัวไว้ว่า The Voice Within ก็เพราะว่า เธอคนนี้ เดินตามเส้นทางความฝันของตัวเอง และเสียงเรียกร้องจากภายในมาตลอดจริงๆครับ

เส้นทางสายเสียงเพลงของครูน้ำ เริ่มมาตั้งแต่สมัยเรียนอยู่ที่ไทยแล้วครับ ตั้งแต่ตอนเรียนอยู่ที่วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล ในระหว่างนั้น เพียงแค่ขึ้นชั้นปี 2 ก็ได้มีโอกาสได้สอนดนตรีและการร้องเพลงให้กับเด็กๆแล้ว เรียกว่าเรียนไปด้วยสอนไปด้วย พอปีต่อๆมาก็เริ่มสอนให้เด็กโต สอนไปถึงจนกระทั่งเรียนจบเลยทีเดียว

“ตอนนั้น น้ำเรียนด้านการร้องเพลงและดนตรีควบคู่ไปด้วย ทางมหาวิทยาลัยเค้าก็มีการให้เราฝึกสอนบุคคลอื่นไปพร้อมๆกันระหว่างเรียน ก็เลยทำให้เราเคยชินกับการสอนร้องเพลงมาก่อนที่จะเรียนจบซะอีกค่ะ” ครูน้ำเล่าถึงจุดเริ่มต้น “สถาบันที่ได้มีโอกาสเข้าไปสอนในช่วงตั้งแต่เริ่มเรียนจนกระทั่งจบก็ได้แก่ Peterson, Yamaha, KPN, โรงเรียนดนตรีมีฟ้า ของแกรมมี่ แล้วก็รับสอนแบบอิสระตามบ้านด้วยค่ะ ล่าสุดก่อนมาก็ได้สอนเป็นอาจารย์พิเศษสอนขับร้องที่โครงการศึกษาดนตรีสำหรับบุคคลภายนอก ของวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล ตรงสยามพารากอน”

ในเมื่อชีวิตกำลังไปได้สวยแบบนั้น เพราะอะไรครูน้ำถึงตัดสินใจมาใช้ชีวิตที่ซิดนีย์ล่ะครับเนี่ย?

“พอถึงจุดๆนึง เรารู้สึกว่าเริ่มอิ่มตัวแล้ว เพราะสอนร้องเพลงและดนตรีมานานมากตั้งแต่สมัยเรียน พอดีมีเพื่อนมาชวนให้เรียนต่อที่ออสเตรเลีย ตอนแรกๆก็ไม่อยากมา แต่ถามเพื่อนว่าเขามีสอนสาขาดนตรีบำบัดมั้ย ถ้ามีเราก็อยากจะลองเรียนดู เพราะเป็นเรื่องใหม่ที่ยังไม่ค่อยมีใครในบ้านเรารู้จัก”

อืม…เป็นอย่างนี้นี่เอง และเมื่อคุณเพื่อนผู้หวังดี ลองหาข้อมูลดูแล้ว ปรากฏว่า ที่มหาวิทยาลัยในออสเตรเลียมีการสอนในสาขาดังกล่าวจริงๆ ครูน้ำก็ไม่รอช้า ที่จะบินมาตามหาเป้าหมายของตัวเอง แต่ทุกอย่างก็ไม่ได้เป็นไปอย่างที่วางแผนไว้

“ตอนนั้น เริ่มแรกทางมหาวิทยาลัยเค้าให้เราออดิชันการร้องและเล่นเปียโนอิมโพรไวซ์ก่อน ซึ่งเราก็ทดสอบผ่านแต่ติดคอนดิชั่นเรื่องของภาษา ประกอบกับคณะที่ว่านั้นอย่างที่ UTS มันเปิดสองปีครั้ง ซึ่งก็หมายถึงต้องรอ 2 ปีค่ะ กับอีกที่ที่ UWS รับแต่เด็ก local เลยเป็นอันว่าต้องรอไปอีกสองปี ก็เลยตัดสินใจหางานทำ เรียนอย่างอื่นรอไปก่อน ซึ่งก็ได้เรียนร้องเพลงที่ JMC แทนค่ะ”

เอาเป็นว่า ยังไงซะครูน้ำก็ต้องหาโอกาสไปเรียนจนได้น่า เรื่องนั้นพักเอาไว้ก่อน…ว่าแต่ ก่อนที่จะมาเปิดบริษัทของตัวเองเนี่ย ครูน้ำผ่านงานอะไรที่ซิดนีย์มาบ้างแล้วเนี่ย จะเหมือนวัยรุ่นไทยส่วนใหญ่ที่นี่รึป่าว?

“เริ่มแรกเลย ตอนนั้นได้งานร้องเพลงที่ร้านเจ้าพระยา คือตอนนั้นทางร้านเค้ามีร้องเพลงช่วงกลางคืน ทำไปได้สักพักก็ตัดสินใจออกไป และก็ไปได้งานที่ร้านขายเสื้อของฝรั่ง กับร้านขายเสื้อของรุ่นพี่คนไทยคนหนึ่ง ก็ทำอยู่พักนึง พอดีได้มีโอกาสเจอผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง ให้โอกาส ” ครูน้ำรำลึกความหลังอันซาบซึ้ง “เราก็เสนอว่า อยากจะเปิดคอร์สสอนร้องเพลงให้คนไทยที่นี่ พี่เค้าก็ตอบตกลง ให้การสนับสนุนเลย ถือว่าเป็นผู้ที่ทำให้น้ำได้มีโอกาสมายืนอยู่ ณ จุดนี้เลยก็ว่าได้”

หลังจากมีโอกาสเปิดคอร์ส และเขียนคอลัมน์สอนร้องเพลง จนมีชื่อเสียงในระดับหนึ่งแล้ว ความโชคดีในหน้าที่การงานยังคงดำเนินต่อไปอีก กล่าวคือในช่วงนั้น มีร้านอาหารชื่อดัง 2 ร้าน ที่กำลังประกาศหานักร้องประจำอยู่ ก็ไม่พลาดที่ครูน้ำจะเข้าไปสมัครและร้องเพลงอยู่ที่ร้านดังกล่าวมาจนถึงปัจจุบันนี้

ที่สำคัญที่สุด ตอนที่นักร้องดังอย่าง ดา เอ็นโดฟิน มาแสดงคอนเสิร์ตที่ซิดนีย์นั้น ครูน้ำก็ได้มีโอกาสขึ้นไปเป็นนักร้องเปิดเวทีให้ด้วย จนเสียงร้องและความสามารถไปเข้าตาผู้บริหารของบริษัทเพลงแห่งหนึ่ง ขอทาบทามครูน้ำไปเป็น Vocalist ประจำบริษัทในเวลาต่อมา

“น้ำทำงานให้กับบริษัท IKS นี้ มากว่า ครึ่งปีแล้ว ตอนนี้บริษัทเพลงที่น้ำทำงานอยู่ เค้าจะสปอนเซอร์ให้น้ำด้วย เพราะเราทำงานให้เค้าออกมาดี แล้วก็ไม่เกี่ยงงาน เรียกว่ามีเพลงอะไรเข้ามา เค้าป้อนให้เราคนเดียวเลย ต้องเข้าห้องอัด ไม่เว้นแต่ละวัน (หัวเราะ)… ถึงจะเหนื่อยแต่ก็สนุกดีค่ะ เพราะเป็นงานที่เราชอบและถนัดอยู่แล้ว และเร็วๆ นี้กำลังมีแผนจะไปโปรโมทที่สิงคโปร์ค่ะ และน้ำยังได้มีโอกาสเปิดบริษัทเป็นของตัวเองอีกหนึ่งบริษัทด้วย”

บริษัทที่ว่า คือบริษัท 123singing นั่นเอง ซึ่งหลักๆเป็นตัวแทนนำเครื่องเสียง เครื่องดนตรีมาจำหน่าย แถมยังรับจัดงาน Event ด้านดนตรีทั่วไป หานักร้องนักดนตรี ดีเจ แด๊นเซอร์อีกด้วย เรียกได้ว่าครบวงจร และถึงแม้จะเพิ่งก่อตั้งมาได้ไม่นาน แต่ก็ถือเป็นฤกษ์งามยามดี ที่ครูน้ำได้มีโอกาสพบปะกับกลุ่มผู้บริหารของ K&O จนกระทั่งเกิดโปรเจ็คท์ยักษ์ เป็นงานแรกเบิกโรงให้กับตัวเอง อย่างงาน K&O Star Challenge ที่กล่าวถึงในตอนต้น อันได้รับการตอบรับอย่างดี และเพิ่งผ่านพ้นรอบคัดเลือกไปไม่นานนี้เอง

“ต้องขอชมเชยน้องๆทุกคนที่มาสมัครเข้าแข่งขันจริงๆ ทุกคนมีความสามารถและความตั้งใจเกินร้อยกันทุกคน เรามีคณะกรรมการ 4 คน ซึ่งทำงานกันอย่างหนักมาก โดยเฉพาะการคัดเลือกเด็กแต่ละคนจาก 60กว่าคน ให้เหลือเพียง 12 คน” ครูน้ำเล่าบรรยากาศในรอบคัดเลือกให้ฟัง “อย่างตอนหลังนี่ คะแนนสูสีกันมาก เลยกลายเป็นว่าต้องรับเข้ารอบสุดท้ายมา 13 คนเลย เพราะไม่สามารถตัดสินได้จริงๆ (ยิ้ม)”

ก็เอาเป็นว่า ขอแสดงความยินดีกับน้องๆทุกท่านที่ได้รับการคัดเลือกมาได้ก็แล้วกันครับ ก่อนจะจากกันไป ครูน้ำก็อยากจะฝากอะไรไว้สักหน่อยเกี่ยวกับการประกวดครั้งนี้ด้วย

“การประกวด 3 รอบย่อยในวันที่ 15, 22 กุมภาพันธ์ และ 1 มีนาคม เวลาตั้งแต่ 5 ทุ่มเป็นต้นไป และการประกวดรอบสุดท้าย จะมีขึ้นที่ Oxford Art Gallery ในวันอาทิตย์ที่ 22 มีนาคมนี้นะคะ ถ้ายังไงขอเชิญน้องๆพี่ๆคนไทยทุกคน ไปร่วมชมและเชียร์ผู้เข้าประกวดกันเยอะๆเลยนะคะ รับรองว่าสนุกและเพลิดเพลินไปกับพรสวรรค์ของผู้เข้าประกวดทุกคนแน่นอน ที่สำคัญคือเป็นกิจกรรมดีๆมีสาระที่อยากให้พวกเราคนไทยไปใช้เวลาร่วมกันด้วยค่ะ ขอบคุณค่ะ”

ส่วนใครที่สนใจ อยากทราบรายละเอียดเกี่ยวกับบริษัท กิจกรรมที่จัดขึ้น หรือคอร์สสอนร้องเพลงของครูน้ำ หรือภาพงานประกวดครั้งนี้ ก็เข้าไปดูวันและเวลาได้ที่ www.123singing.com.au เลยนะครับ สวัสดีคร๊าบบ