ตาล สิรีธร เทพสุนทร

ตาล สิรีธร เทพสุนทร

Life by design

สวัสดีพี่น้องและแฟนๆชาว Natui.com กลับมาพบกับคอลัมน์เพื่อนใหม่วัยออส ในช่วงเทศกาลลอยกระทงที่เพิ่งผ่านพ้นไป คิดว่าหลายๆท่าน คงได้ไปร่วมงานลอยกระทงไทย ที่จัดขึ้นร่วมกับงาน Riverbeat ที่ Paramatta เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมานี้เอง วันนี้ทีมงานNatui.com จึงได้โอกาสนำสาวเก่ง สาวติสท์แตกคนนี้ ผู้ที่เป็นหนึ่งในทีมงานเบื้องหลังความสำเร็จ มาแนะนำให้ชาวเว็บได้รู้จักกัน นั่นคือ น้องตาล สิรีธร เทพสุนทร นั่นเอง….ที่จั่วหัวไว้ว่า Life by design ก็เพราะว่า เธอคนนี้ ออกแบบได้ทั้งงานและวิถีชีวิตของตัวเองจริงๆครับ!

นอกจากจะใช้ชีวิตส่วนใหญ่ในวัยเด็ก ที่ประเทศไทยแล้ว ด้วยวัยเพียง 23 ปี น้องตาล สิรีธร เทพสุนทร ก็ผ่านการใช้ชีวิตและท่องเที่ยวมาแล้วในหลายประเทศ รวมถึง อเมริกา และล่าสุด คือ ออสเตรเลีย ด้วยชั่วโมงบินมากมายในวัยเพียงเท่านี้ ทีมงานคิดว่า เรื่องราวของน้องตาล น่าจะมาแบ่งปันให้เป็นประโยชน์แก่เพื่อนๆน้องๆฟังกันได้ ถึงการใช้ชีวิตแบบแตกต่างในแต่ละสิ่งแวดล้อม รวมถึงข้อคิดดีๆด้านการศึกษา การทำงาน และการร่วมกิจกรรมต่างๆ เพื่อนำไปปรับใช้และเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ตัวเราเอง….. เอ้า! ไปเริ่มกันเลย!!

“ครั้งนี้อยู่มาได้ประมาณห้าเดือนแล้วค่ะ ก็วางแผนไว้ว่าจะอยู่ถึงประมาณปีหน้า เพราะตาลชอบเดินทางไปเรื่อยๆ อยากไปเรียนรู้ศิลปวัฒนธรรม แล้วก็ไลฟสไตล์ของคนในประเทศอื่นด้วย โดยเฉพาะทางแถบๆยุโรปค่ะ”

เริ่มจากชีวิตช่วงมัธยม น้องตาลเลือกเรียนสายวิทย์และได้คะแนนดีมาโดยตลอด จนกระทั่งสอบเอ็นทร๊านซ์เข้ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในสาขาเทคโนโลยีชีวภาพ ด้านการตัดต่อพันธุกรรมเชียวนะครับ แต่แล้วไม่นานนัก เธอก็ได้ค้นพบตัวเอง ว่าชีวิตนี้ เกิดมาเพื่อเป็นนักออกแบบเท่านั้น จึงตัดสินใจเบนเข็มชีวิตอย่างเด็ดเดี่ยวและเชื่อมั่น

“ตอนนั้นตาลเรียนอยู่ได้แค่ปีเดียว ก็รู้สึกว่านี่มันไม่ใช่ตัวเราเลย เราชอบการออกแบบมากกว่า ก็เลยเปลี่ยนไปเรียนที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี(บางมด) คณะสถาปัตยกรรมและการออกแบบค่ะ ตอนที่คุณพ่อรู้ว่าตาลเลือกเรียนคณะนี้ ท่านโกรธมากเลยค่ะ เพราะท่านคิดว่าการเป็นดีไซเนอร์ จะต้องออกแนวๆศิลปินไส้แห้งอะไรแบบนั้น(หัวเราะ)” น้องตาลเล่าถึงจุดเริ่มต้นในโลกของการออกแบบ “แต่พอเวลาผ่านไป ตาลก็พิสูจน์ให้คนรอบข้างเห็นว่า การเป็นนักออกแบบนั้นมีทางเลือกมากมาย รวมถึงมีโอกาสที่จะก้าวหน้าได้เหมือนกัน”

พอได้เรียนในสิ่งที่ตนเองชอบ น้องตาลก็สามารถดึงศักยภาพในตัวออกมาได้อย่างเต็มที่ จนสามารถคว้าเหรียญทองเกียรตินิยมอันดับหนึ่งมาประดับบ้านได้ทุกปี จนกระทั่งจบการศึกษา และในเทอมสุดท้าย ยังได้โอกาสบินมาเรียนต่อที่ UTS ในสาขา DAB Bachelor of Design in Visual Communication ในนครซิดนีย์อีกด้วย

“ที่จริงก่อนหน้านั้น ประมาณ 8 ปีที่แล้ว ตาลเคยมาเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่ออสเตรเลีนย ตอนเรียนอยู่ไฮสคูลแล้วคร้งนึง พอได้กลับมาอีกครั้ง ก็รู้สึกชอบ เพราะตอนมาเรียนในมหาลัยปีที่แล้วได้มีโอกาสทำงานด้วย จนมีฐานลูกค้ามาจนถึงทุกวันนี้เลยค่ะ"

ปัจจุบัน น้องตาลได้กลับมาใช้ชีวิตที่ซิดนีย์แบบเต็มตัวอีกครั้ง หลังจากกลับไปฉลองรับปริญญาที่ไทยมาแล้ว และการกลับมาครั้งนี้ ถึงแม้จะเพิ่งผ่านพ้นไปได้เพียง 4-5 เดือน แต่ดูเหมือนหนทางจะโรยด้วยกลับกุหลาบ ต้อนรับสาวน้อยมากความสามารถคนนี้ไปซะแล้ว

“ตอนนี้ตาลก็ร่วมกับเพื่อนๆพี่ๆจัดตั้งชมรมนักออกแบบไทยในออสเตรเลียขึ้นมาค่ะ ก็ได้รับการตอบรับที่ดีพอสมควร มีคนมาสมัครเข้าชมรมมากขึ้นเรื่อยๆ จนตอนนี้มีสมาชิกคร่าวๆเกือบสามร้อยคนแล้วค่ะ”

และนั่นก็เป็นที่มา ของการได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่ง ของงานใหญ่ระดับนานาชาติที่เพิ่งผ่านพ้นไปไม่นานนี้ นั่นคืองานลอยกระทง

“ตอนแรกไม่คิดว่าจะได้รับงานใหญ่แบบนี้เลยค่ะ” น้องตาลเล่าด้วยความภูมิใจ “แต่อยู่มาวันนึง ทีมงานเราได้เข้าไปประชุมร่วมกับทางผู้ใหญ่ คุยกันไปคุยกันมา จากที่คิดว่าเราจะต้องจัดบูธกันเฉยๆ กลายเป็นว่าเราต้องทำในส่วนของมัลติมีเดีย แล้วก็รับผิดชอบในส่วนของการแสดงด้วย ตั้งตัวกันแทบไม่ทันเลยค่ะ (หัวเราะ)”

การทำงานดังกล่าวที่น้องตาลพูดถึง หนึ่งในนั้นก็คือการรับผิดชอบการแสดงชุดกระทงสาย 500 ดวง และโคมไฟที่มีความเป็นเอกลกษณ์สวยงาม และสร้างความฮือฮาในงานเป็นอย่างมาก ใครที่ไม่ได้ไปร่วมงาน ก็ต้องบอกคำเดียวว่าน่าเสียดายมาก ลองดูจากรูปกันได้เลยครับ

“แต่พวกเราทุกคนในชมรม โดยเฉพาะตาลเอง ก็รู้สึกดีใจ ที่ได้ทำงานตรงนี้ เพราะถือว่าเป็นประสบการณ์ทำงานที่มีค่ามาก ทำให้ได้เรียนรู้หลายๆอย่างเลยค่ะ” น้องตาลกล่าวทิ้งท้าย “ตาลขอใช้โอกาสและเนื้อที่ตรงนี้ ในการขอบคุณทุกๆฝ่าย ที่ร่วมกันจัดงานจนสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดีนะคะ โดยเฉพาะทางสถานกงสุลใหญ่ และการบินไทย ที่ให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ รวมถึงทีมงานทุกคนที่สละเวลาและลงแรงกัน จนทำให้งานนี้เป็นที่ประทับใจของแขกจำนวนมากที่มาร่วมงาน และได้รับคำชื่นชม เป็นผลดีต่อการท่องเที่ยวไทยเราเองด้วยค่ะ ขอบคุณอีกครั้งค่ะ”

นั่นก็คือเศษเสี้ยวของประสบการณ์โดยรวม ที่น้องตาลสละเวลามาถ่ายทอด เล่าสู่กันฟัง ฝากไว้ให้พวกเราชาวซิดนีย์ได้นำไปเป็นแรงบันดาลใจให้กับตัวเองบ้าง เผื่อวันใดวันหนึ่ง อาจจะค้นพบความฝันและเส้นทางของตัวเอง จนประสบความสำเร็จเช่นนี้บ้างนะครับ ทีมงานNatui.com ขอเอาใจช่วยทุกคนนะครับ!......ที่จริงแล้ว น้องตาลของเราคนนี้ มีประวัติที่น่าสนใจยาวเหยียดเป็นหางว่าว มากกว่านี้อีกเยอะ แต่ด้วยเนื้อที่หน้าเว็บอันจำกัด ทำให้ทีมงานนำบทสัมภาษณ์น้องตาล ซึ่งเป็นตัวแทนคนรุ่นใหม่ จิตใจใฝ่ดี มาลงให้ได้อ่านกันแต่เพียงหอมปากหอมคอเท่านั้น น่าเสียดายที่เธอบอกว่า มีแผนที่จะเดินทางไปประเทศแคนาดาภายในปีหน้านี้แล้ว เอ้า!ระหว่างนี้ก็ขอให้เพื่อนๆ ช่วยกันอวยพรให้น้องตาลได้พบเจอแต่ประสบการณ์ที่ดี และสร้างสรรค์ผลงานดีๆเพื่อชุมชนไทยเราต่อไปเรื่อยๆนะครับ…Cheers…!