2025-07-27

น้องแก้ม นิจชนา วราวงศ์




 

{mosimage}“น้องแก้ม นิจชนา 5 ครั้งกับโอกาสดี ๆ ในการเรียน”

โอกาสทางการเรียน เป็นสิ่งที่หลายๆ คนอยากได้ บางคนอยากเรียนแทบตาย แต่ไม่มีโอกาสได้เรียน บางคนมีโอกาสแต่ไม่เรียนก็เยอะ แล้วคุณเป็นแบบไหนละค่ะ


 

แต่สำหรับเธอเพื่อนใหม่วัยออสคนล่าสุด น้องแก้ม นิจชนา วราวงศ์ ปัจจุบันกำลังศึกษาในระดับปริญญาโท University of Wollongong


 

เธอเป็นคนหนึ่งที่ได้รับโอกาสที่ดีทางการเรียนมาตลอด แต่โอกาสนั้นทำให้เธอต้องมี 2 ทางเลือกหรือต้องทำบางอย่าง 2 ครั้งมาตลอดในชีวิตการเรียน 2 ทางที่ว่านั้นเป็นอย่างไร ดีหรือไม่ เธอชอบหรือเปล่า ไปรู้จักประวัติของเธอกันก่อนค่ะ


เธอเริ่มเรียนอนุบาลโรงเรียนเอกชน เรียนประถมโรงเรียนอนุบาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ณ นครอุทิศ เรียนมัธยมต้น-ปลายโรงเรียนกัลยาณีศรีธรรมราชแผนวิทย์-คณิต จากนั้นต่อปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คณะเศรษฐศาสตร์ และปัจจุบันกำลังศึกษาระดับ Master degree of International Business, University of Wollongong

 

 

ดูเหมือนชีวิตการเรียนของเธอก็เป็น step ทั่วไปไม่น่าจะมีปัญหาอะไรใช่ไหมค่ะ แต่ไม่เลยค่ะทุกครั้งของช่วงรอยต่อของการเรียน ต้องมีอะไรเข้ามาให้เธอต้องเลือกทุกครั้ง แต่ทุกครั้งเธอบอกว่ามันคือโอกาสที่ดีที่เข้ามาในชีวิตเธอ แต่โอกาสที่ว่าถึงขนาดที่ต้องเรียน ซ้ำชั้นก็ทำมาแล้ว สอบเข้าโรงเรียนและมหาลัยชื่อดังได้ แต่ไม่ได้เรียนก็เคยเกิดกับเธอมาแล้วเช่นกัน หนักไปกว่านั้นเรียนมาถึงวันนี้ 25 ปีเต็มยังหาตัวเองไม่เจอ


{mosimage}น้องแก้มเธอเล่าว่า เธอเข้าโรงเรียนครั้งแรกอายุ1ขวบ8 เดือน เธอเรียนเร็วเพราะที่บ้านไม่มีคนเลี้ยง พ่อแม่ต้องทำงาน จะฝากพี่เลี้ยงแม่ก็ไม่ไว้ใจ เลยให้ไปเรียนอนุบาลที่โรงเรียนของป้าก่อน “ไปเรียนก็ไม่ได้เรียนหรอกค่ะ คอยเอาดินน้ำมันปาใส่คนอื่นตลอด เพราะเราเด็กที่สุดไม่รู้เรื่องรู้ราว เหมือนไปเรียนเตรียมอนุบาล แต่หนูรู้ตัวว่าเป็นเด็กชอบไปโรงเรียน”

 


สอบได้ที่ 1 เกรด 3 เกรด 4 get A get B เกรดเฉลี่ย 4.00 เธอเคยได้มาหมดแล้ว น้องแก้มเธอเป็นคนขยัน เรียนดีและตั้งใจเรียนมาตลอดตั้งแต่เด็ก เธอได้รับโอกาสดีๆ หลายๆ ครั้งในเรื่องของการเรียน แต่ไม่รู้ทำไมต้องมีอุปสรรคแทบทุกครั้ง


 

“5 ครั้งในชีวิตการเรียนของหนูค่ะ ที่หนูได้รับโอกาสดีๆมาตลอดแต่ไม่รู้ ทำไมต้องทำอะไรสองครั้ง หรือมีทางเลือกมากว่าหนึ่งให้ต้องเลือกอยู่ตลอดเวลา”


 

ครั้งแรกตอนป.1 “ตอนนั้นอายุ 6 ขวบแม่อยากให้เรียนป.1 ได้แล้วเลยไปสมัครเข้าโรงเรียนอนุบาลจังหวัด ไปสมัครเค้าไม่รับหนูเพราะอายุไม่ถึง เลยไปเรียนป.1 โรงเรียนอื่นก่อน แต่ด้วยความที่แม่อยากให้เรียนโรงเรียนนี้มาก เพราะเป็นโรงเรียนที่ดีและมีชื่อเสียง ทำให้อายุ 7 ขวบแม่พาไปสมัครอีกครั้ง เค้ามีให้จับสลาก ก็อย่างที่บอกเป็นคนไม่เคยมีดวงเลย ให้จับสลากยังไงก็ไม่เคยได้ สุดท้ายก็ใช้วิธีสอบเข้า หนูก็สอบได้ค่ะ ก็เข้าไปเรียนพอเข้าไปเรียน หนูก็สอบได้ที่ 1 เลย ก็จะไม่ให้ได้ที่1 ได้ไงก็หนูเรียนมาแล้วนี่ค่ะ !! นี่ก็เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ได้โอกาสดีๆ เรียนโรงเรียนดีๆ แต่ต้องมีครั้งที่ 2 หนูเรียนป.1 สองครั้งค่ะ!!”


 

{mosimage}


 

ครั้งที่สองตอนจะเข้าม.1 “หนูมีเพื่อนสนิท 2 คนที่ตั้งใจไว้กันว่าจะสอบเข้าโรงเรียนประจำจังหวัด ให้ได้ด้วยกัน หนูกับเพื่อนอ่านหนังสือติวให้กันตลอดทุกวัน ที่จังหวัดหนูมีโรงเรียนประจำจังหวัด 2 โรงเรียน พวกหนูไปสอบทั้งสองโรงเรียนกะว่าต้องได้ซักโรงเรียนล่ะงานนี้ ก็ไปสอบกันปรากฏว่า หนูกับเพื่อนคนนึงสอบติดอีกคนสอบไม่ติด ความฝันสลายเลยตอนนั้น เพราะความเป็นเด็กไงอยากเรียนกับเพื่อน พอเป็นอย่างนี้จะทำยังได้ดี!! โอกาสเข้ามาอีกละหนูสอบได้สองโรงเรียนแต่ก็ต้องเลือกอีกแล้วว่าจะเรียนที่ไหน จะเรียนกับเพื่อนก็ไม่อยากให้อีกคนน้อยใจ ตอนนั้นคิดหนัก สุดท้ายเลยตัดสินใจ ไหนๆเราสามคนถ้าไม่ได้เรียนที่เดียวกันก็แยกกันไปเลยดีกว่า เพื่อนอีกคนจะได้ไม่น้อยใจด้วย ก็เอาเป็นว่าแยกกันไปเลย แต่เราสัญญากันว่าม.4 มาสอบเข้าโรงเรียนเดียวกันใหม่ หนูสอบติดสองโรงเรียนแต่ก็ไม่ได้เรียนกับเพื่อนสนิท”


ครั้งที่สามตอนเข้าม.4 “เพื่อนชวนไปสอบเข้าโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา เตรียมฯเป็นโรงเรียนในฝันของเด็กต่างจังหวัดเลยนะคะ หนูอ่านหนังสืออย่างหนัก วันสอบถึงกับนั่งรถไฟเข้ากรุงเทพไปกันกับเพื่อน 3 คน ผลสอบออกมา หนูสอบติดค่ะ !!ดีใจมากๆเลย แต่ไม่ได้เรียนค่ะ หนูไม่ได้เรียนเตรียมอุดมฯ เพราะเหตุผลว่าเป็นลูกผู้หญิง ไม่มีญาติในกทม.จะอยู่ยังไง พ่อแม่เป็นห่วง จบค่ะความฝันของหนู สุดท้ายมาสอบเข้าโรงเรียนประจำจังหวัด 2 โรงเรียนอีกครั้ง หนูสอบได้ทั้งสองโรงเรียนแต่เลือกเรียนโรงเรียนเก่าในแผนวิทย์-คณิตค่ะ หนูสอบติดโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา แต่ก็ไม่ได้เรียนอีกแล้ว”

 

 

ครั้งที่สี่ตอนเข้ามหาลัย “ไว้เจอกันที่คณะเศรษฐศาสตร์ ธรรมศาสตร์นะ” นี่เป็นคำพูดที่น้องแก้มเขียนในเฟรนชิพให้เพื่อนก่อนจบม.6 “แน่นอนค่ะหนูอยากเรียนคณะนี้มาก เพราะตอนม.6 หนูได้เรียนวิชาของเศรษฐศาสตร์ที่โรงเรียนหนูชอบมากและคิดว่าโตขึ้นไปอยากเป็นนักเศรษฐศาสตร์ หนูตั้งใจอ่านหนังสืออย่างหนักอีกครั้งก่อนจะเลือกคณะ คะแนนหนูมากกว่าคะแนนต่ำสุดปีที่แล้ว15 คะแนน และคิดว่าน่าจะติดนะ หนูเลือกเศรษฐศาสตร์ทั้งสามอันดับเลยก็เป็นมหาวิทยาลัยที่ทุกคนรู้จักดี แต่อันดับหนึ่งคือ ธรรมศาสตร์ ผลสอบออกมา “หนูเอนท์ติดค่ะ แต่ไม่ใช่ธรรมศาสตร์ คงไม่ต้องบอกว่าหนูเสียใจแค่ไหน จริง ๆ ทุกมหาลัยดีหมดแล้วมหาลัยที่หนูติดก็ถือว่าดีมากด้วย แต่คนที่เอนท์ทุกคนคงเข้าใจเชื่อว่าทุกคนตอนสอบเข้าต้องมีคณะในฝันกันอยู่แล้วหนูก็แค่เสียใจมากเท่านั้น วันเปิดเทอมมาถึงหนูเข้าไปเรียนคณะเศรษฐศาสตร์ในมหาลัยที่สอบได้ หนูไม่มีความสุขเลย ถึงขนาดรวบรวมความกล้าโทรบอกแม่ว่าหนูขอเอนท์ใหม่ ตอนนั้นหนูกลัวแม่เสียใจว่าทำไมหนูถึงไม่เรียน กลัวไปหมดตอนนั้นแต่ปรากฏว่ามันง่ายกว่าที่คิด


“แม่พูดมาคำนึงว่าแม่ไม่เคยเห็นลูกไม่มีความสุขในการเรียนเลย ถ้าเป็นอย่างนี้ไปทำเรื่องลาออกซะแล้วก็ตั้งใจเอนท์ใหม่”

หนูดีใจมาก 1ปีเต็ม ที่หนูอ่านหนังสืออย่างเต็มที่และแน่นอนปีนี้หนูทำได้ หนูติดคณะเศรษฐศาสตร์ ธรรมศาสตร์ ดีไปกว่านั้นหนูสอบได้คะแนนสูงสุดเป็นที่อันดับสองของคณะในปีนั้น แต่หนูเอนท์สองครั้งค่ะ”

 

 

ครั้งที่ห้า คือที่นี่แหละค่ะ ที่คณะ International Business ต้องบอกก่อนว่าความฝัน ที่อยากเป็นนักเศรษฐศาสตร์ของหนูหายไปตั้งแต่เรียนป.ตรี คือหนูมารู้ตัวว่าเกลียดเศรษฐศาสตร์ ก็ตอนที่เรียนป.ตรีนั่นแหละ แต่เรียนได้ก็เรียนมาจนจบแค่นั้น แต่ระหว่างตอนเรียนป.ตรีหนูไปลงเรียนโทคณะบริหารหนูสอบได้ A ทุกตัว เลยทำให้หนูเปลี่ยนความฝันอีกครั้ง สงสัยว่าหนูจะถนัดทางบริหารมากกว่า ทำให้วันนี้หนูมาเรียนต่อโทที่นี่ไงค่ะ วันแรกเข้าไปเรียน เอาอีกละ หนูต้องเจอปัญหาแบบนี้ไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง วิชาที่หนูเจอมันเป็นวิชาเศรษฐศาสตร์อีกแล้ว ก็หนูเกลียดจะตายมาเจออีกแล้ว เรียนได้แค่สองครั้ง หนูไม่เอาแล้วไม่มีความสุขในการเรียนอีกแล้ว ทำไงดี..ก็โทรบอกแม่ไงค่ะ


 

{mosimage}


 

ตัดสินใจโทบอกแม่อีกครั้งแต่ครั้งนี้มันกลัวยิ่งกว่าตอนเอนท์เพราะ แม่เสียเงินค่าเทอมไปแล้วครึ่งนึงมันก็หลายบาทอยู่จะทำยังไงดี แต่จะให้เรียนต่อไปหนูก็ไม่เอาแล้ว ตอนนั้นมีความคิดว่าถ้าแม่ไม่ให้เปลี่ยนคณะหนูจะใช้เงินตัวเองลงเรียนละ ก็ลองบอกแม่ก่อนรวบรวมความกล้าอีกครั้ง โทรไปหาแม่ ครั้งแรกโทรไปแม่ไม่สบายเป็นคางทูม โอ๊ย!!จะบ้าตายไม่กล้าบอก วางสายไปด้วยความเศร้า อีกสองวันโทรไปใหม่แม่ดีขึ้นละตอนนั้นก็บอกแม่ไปว่าไม่ชอบไม่มีความสุขยังไง พูดไปก็ร้องไห้ไป แต่แม่พูดมาคำนึงที่ทำให้หนูหยุดร้องไห้ แม่บอกว่า


“ถ้าลูกไม่อยากเรียนจะเปลี่ยนคณะก็ได้แม่ไม่เสียดายเงินหรอก แต่ลูกรู้ไหมลูกได้โอกาสแบบนี้มากี่ครั้งแล้ว ถ้าคราวนี้ลูกตัดสินใจแบบนี้อีก ลูกจะเป็นผู้ใหญ่ได้ยังไง ลูกควรจะรับผิดชอบในสิ่งที่ลูกเลือกเองบ้าง ”

 

หนูหยุดร้องไห้อย่างไม่เหลือร่องรอยน้ำตาให้เห็นอีก “เอาล่ะ ลองดูซักตั้งว่าถ้าไปเรียนมันจะตายไหม พอตั้งใจกลับไปเรียนก็เรียนได้นี่ เลยตั้งใจว่าหนูต้องทำให้สำเร็จให้ได้ในครั้งเดียว และครั้งนี้จะเป็นครั้งแรกในชีวิตการเรียนที่จะไม่มีครั้งที่สองอีกต่อไป”

 

{mosimage}


สุดท้ายน้องแก้มได้ฝากข้อคิดให้กับเพื่อน “คนเราตัดสินใจไปแล้วก็ควรทำให้ดีที่สุดเดินหน้า อย่าท้อซะก่อน เพราะคนเราทุกคนไม่ได้มีโอกาสสองครั้งทุกคนนะ หนูเป็นคนโชคดีมากเมื่อต้องการโอกาสโอกาสก็เปิดให้ตลอด แต่ยังไงชีวิตหนูก็คงไม่ได้มีโอกาสที่จะรอหนูได้ตลอดเวลา หนูควรเริ่มที่จะตัดโอกาสตัวเองบ้างต้องเป็นผู้ใหญ่ได้แล้ว ดูเหมือนเรื่องทั้งหมดมันคงเป็นเพราะตัวหนูเองที่โลเล เจออุปสรรคนิดหน่อยก็ไม่สู้แล้วซึ่งจริงๆ มันไม่ได้ เพราะฉะนั้นอยากบอกทุกคนว่า คนเราตัดสินใจไปแล้วก็ควรตั้งใจทำให้ดีที่สุด เดินหน้าอย่าท้อและที่สำคัญทำให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งใจไว้ดีที่สุด หนูเองก็คงต้องตั้งใจเรียนที่นี่ให้จบถึงแม้จะไม่ชอบก็ตาม จนถึงวันนี้หนูยังไม่รู้เลยว่าจริง ๆ หนูชอบและอยากเป็นอะไรกันแน่ ถ้าเพื่อนๆ ที่รู้แล้วว่าตัวเองชอบอะไรอยากเป็นอะไร ทำฝันให้เป็นจริงให้ได้นะคะ หนูเอาใจช่วย สู้สู้”

NATUI Officially 2008-01-29 14:58:03 4370