2025-07-26

พี่บอน นพดล ฐาปนเกรียงไกร




 

{mosimage}กรรไกรมือทอง “พี่บอน” นพดล ฐาปนเกรียงไกร Artist Hair Stylist ผู้มากความสามารถ และสามารถเนรมิตคุณให้สวยขึ้นมาได้ ด้วยทรงผมที่ดูดี

เพื่อนใหม่วัยออสคนล่าสุด มาพร้อมกับความรู้ ความลับ และเทคนิคของการดูแลเส้นผม ซึ่งเป็น 1 ในอวัยวะที่ทำให้เรามีบุคลิกภาพที่โดดเด่นได้ทันที ก็อย่างที่เค้ากล่าวว่า ไก่งามเพราะ(ผม)ขน คนงามเพราะแต่ง นั้นเป็นเรื่องจริง เชื่อไม่เชื่อ หลังจากที่อ่านบทความของ “พี่บอน” นพดล ฐาปนเกรียงไกร Artist Hair Stylist มากว่า 20 ปีแล้ว ไม่แน่คุณอาจจะอยากวิ่งแจ้นไปให้พี่แกตัดผมให้เลยก็ได้ (จริงนะจะบอกให้...)


 

ความจริง ผมเรียนจบ marketing มาครับหลังจากนั้นก็ชอบเรื่องการขาย เป็นพนักงานขายมากก่อน แต่อาจจะเป็นเพราะว่าได้มาทำงานที่บริษัท L’OREAL (ลอริอัล)ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับเส้นผม ก็เลยได้เริ่มเรียนรู้ว่าอาชีพทำผมต้องทำอะไรบ้าง

จุดประกาย พอเป็นพนักงานขายของบริษัทผลิตภัณฑ์เส้นผม และเวลานำสินค้าไปเสนอขาย มักจะได้รับคำถามที่ว่า คุณรู้ได้อย่างไรว่าตัวไหนใช้ดีไม่ใช้ดี หรือว่าคุณเคยใช้เหรอ คุณเป็นช่างทำผมเหรอ ซึ่งนั้นทำให้ผมรู้สึกว่าผมโกหกลูกค้าเพราะว่าเราไม่เคยใช้มาก่อน ซึ่งเราไม่อยากหลอกลวงเค้า อยากให้ข้อมูลที่ถูกต้องตามผลิตภัณฑ์ของสินค้า ไม่ใช่ว่าทำตามหน้าที่อย่างเดียว แต่เราต้องมีจรรยาบรรณด้วย ว่าผลิตภัณฑ์อะไรดีไม่ดี หรือเหมาะแก่ลูกค้าหรือไม่ โดยเราไม่อยากโกหกเพื่อที่จะขายของอย่างเดียวแก่ลูกค้า ซึ่งนั้นก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ผมสนใจเกี่ยวกับอาชีพช่างตัดผม


 

เรียนรู้เพื่อรู้รอบ L’OREAL ส่งเราไปเรียนทำผม ตามที่ประเทศต่างๆ โดยเค้าจะส่งพนักงานขายไปศึกษาและเรียนรู้ สินค้าของผลิตภัณฑ์เค้า ซี่งผมเองก็เป็นคนที่ชอบที่จะเรียนรู้ ผมก็เลยเรียนและกอบโกยได้มากกว่าคนอื่นเค้า แล้วเค้าจะส่งเราไปเรียนรู้กับช่างทำผมจริงๆเลย โดยที่ทางบริษัทเปิดโอกาสให้พนักงานบริษัท อย่างพนักงานขายของผมเนี่ยได้ไปเรียนรู้ด้วย จะได้รู้ว่าปัญหาที่เกิดขึ้นของลูกค้าเป็นอะไร และในระหว่างนั้น ทางบริษัทก็ส่งทีมงานอย่างเราไปดูงาน Academy ที่ฮ่องกง สิงค์โปร์ เกาหลี ตามแต่ล่ะประเทศ เพื่อไปดูตลาดแฟช่น และตลาดของการทำผม โดยพี่ว่าฮ่องกงในยุคนั้น แฟชั่นไปได้ไกลที่สุด อย่างเกาหลีเนี่ยสู้ไม่ได้ เพราะส่วนใหญ่จะได้รับอิทธิพลมากจากญี่ปุ่น


 

{mosimage}จับกรรไกรเปลี่ยนชีวิต เริ่มตัดผมตั้งแต่ตอนอยู่ที่บริษัท ตัดตั้งแต่พนักงานของเราเอง ทำสีผม ตัดด้วย หรือบางทีไปเยี่ยมลูกค้าก็ไปดูงานด้วย พอเรียนรู้ได้สักพัก ก็เลยรู้สึกว่าเราจำเป็นที่จะต้องเรียนรู้ตั้งแต่เริ่มต้นเลย โดยผมไปลงเรียนหลักสูตรเบื้องต้นเลยจาก วิทยาลัยสารพัดช่าง ฝึกฝนและอดทน หลักสูตร 3 เดือน ซึ่งจะเรียนทุกวันหลังเลิกงาน ในช่วงเรียนก็เข้าแข่งด้วย ได้อันดับที่ 2 ของโรงเรียน โดยพอเรียนจบก็เอาความรู้ที่ได้จาก L’OREAL ที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เคมีทั้งหมด ก็เอามาผสมผสานกัน บางทีที่ทำงานก็ให้เรามาตัดผมซะอย่างนั้น ไม่ต้องขายของแล้ว เราเองก็ยังไม่เชื่อเลย แต่นั้นก็เป็นแรงบันดาลใจทำให้เรามั่นใจในระดับนึง เลยเริ่มต้นหุ้นกับเพื่อนเปิดร้านทำผมครั้งแรกขึ้นแถวซอยอโศก ชื่อร้านว่า Momento และอีกสาเหตุที่เปิดร้านทำผมเพราะว่าเราอยากที่จะพิสูจน์ และเรียนรู้ตัวเองว่าเราชอบทำผมจริงๆหรือไม่ ซึ่งสุดท้ายก็สรุปว่าเราชอบเป็นช่างทำผมจริงๆ แต่โดยความฝันลึกๆเลยเนี่ยผมอยากจะเป็นครู เลยทำให้อาชีพช่างทำผม หรือความที่เป็น Technical Advisor ให้กับแบนด์ต่างๆ เป็นผลดีทำให้เราได้สอนเด็กรุ่นใหม่ๆไปในตัวด้วย อย่างปีหน้าจะมีหนังสือที่เกี่ยวกับเส้นผมที่ผมจะเขียนเอง เป็นเทคนิค และสาระความรู้ ให้กับคนรุ่นใหม่ๆ ให้กับช่างทำผม และเด็กๆที่จะเอาไปศึกษา


 

อย่าหยุดที่จะเรียนรู้ ระหว่างที่เรียนที่สารพัดช่าง ผมก็ยังไปเรียนหลักสูตรเพื่อเติมที่ต่างประเทศตลอด อย่างฮ่องกงนี่ไปไม่ต่ำหว่า 15 ครั้ง ทำให้เห็นความแตกต่างระหว่างช่างทำผมเอเชีย และยุโรป โดยสภาพของเส้นผมของคนเอเชียจะเส้นใหญ่กว่า และมีน้ำหนักมากกว่า แต่มันขึ้นอยู่กับเทคนิคของช่างที่จะทำอย่างไรที่จะทำให้ลูกค้าพอใจที่สุดและดูแลรักษาได้ แต่ถ้าถามว่าว่าตัดผมคนชาติไหนง่ายกว่ากับก็ต้องบอกว่ายุโรปตัดง่ายกว่าคนเอเชียเยอะ เพียงแต่ช่างแต่ละคนจะต้องรู้เทคนิคที่ถูกต้องเท่านั้นเอง อย่างคนที่มีขวัญผมเยอะๆเนี่ย ก็จะตัดยากกว่า เพราะว่าผมจะตีกัน มันจะย้อนไปย้อยมาชนกัน เซตกลำบาก ตัดก็ลำบาก แต่เรื่องของการออกแบบเนี่ยขึ้นอยู่กับฝีมือของช่างล่ะ


ปัญหาที่พบบ่อยที่สุดจากลูกค้า คือเรื่องผมบางซึ่งไม่รู้ว่าทำไมเค้าไม่ปรึกษาหมอ แต่ก็เพราะว่าเค้าไม่รู้จะคุยกับใคร เพราะเค้าเจอเวลาเราตัดผม อีกอย่างเค้ามาเจอช่างทำผมก่อน แต่เราก็จะให้คำปรึกษาเบื้องต้น เราจะมาดูต้นเหตุว่าเกิดจากอะไร กรรมพันธุ์ การสระผมด้วยน้ำร้อนจนทำให้รากผมมีการเสื่อมตัว หรืออาจจะเพราะว่าผมขาด ก็เป็นไปได้ แต่ปัญหาทั้งหมดต้องดูตั้งแต่ต้นเหตุ ซึ่งการพักผ่อนไม่เพียงพอ หรือฮอร์โมน ความเครียด ทุกอย่างเกี่ยวกันหมด ยกตัวอย่างเช่นเวลาเราไม่สบาย ตัวเรายังหมองคล้ำก็ยังเป็นไปได้ เพราะว่าเส้นผมก็สามารถเปลี่ยนไปตามสุขภาพของเราเช่นกัน ซึ่งเราสามารถวิเคราห์ลูกค้าได้เลยว่าเป็นไข้มารึเปล่าโดยเราดูได้จากเส้นผมก็บ่งบอกได้เช่นกัน

วิธีฝึกฝน เคยได้ฝึกตัดผมจริงๆ หลังจากเรียนตัดผมที่สารพัดช่าง และกับโรงเรียนเสริมสวยอาจารย์ทรัพย์ ตอนนั้นเรียนแค่ 2 เดือน อาจารย์ให้จบก่อนเลย เพราะเค้าว่าเราตัดได้แล้ว เค้าเลยให้เราไปฝึกเป็นอาสาตัดฟรีที่ลานพระรูป ตัดฟรี คนมาเข้าแถวตัดเยอะมาก แต่ก็ทำเราได้ฝึกช่วงโมงบินได้อย่างดี

 

 

{mosimage}ค้นหาสไตล์ของตัวเอง จุดเปลี่ยนเรื่องการตัดผมของผมเนี่ยหลังจากมาเจออาจารย์ท่านนึงที่เค้าทำงานให้กับ Vidal Sassoon เค้ามาบอกว่า ทรงผมจริงๆเราจะต้องคิดเอง จะต้องรู้ว่าแต่ล่ะทรงมาได้อย่างไร ฝึกให้เราได้คิด เพราะอย่างเช่นลูกค้าที่ตัดจากช่างคนอื่นมา เราจะต้องรู้ว่าเค้าตัดอย่างไรมา เพื่อที่เราจะตัดต่อไปให้ลูกค้า หรือแก้ไขอย่างไรให้เค้าพอใจ


 

ย้อนมองต้นเหตุเพื่อแก้ปัญหา เมื่อเราเกิดปัญหา เราจะต้อง Back to basic ซึ่งจะทำให้รู้ว่าปัญหาเกิดจากอะไร เช่น สระด้วยน้ำร้อนไปมั้ย เกาหัวแรงไปมั้ย เช็ดผมแห้งก่อนนอนมั้ย สระเร็วไปมั้ย เพราะว่าน้ำยายังไม่แทรกซึมเลย แต่ที่สำคัญต้องล้างให้เกลี้ยง เช่นพวกครีมนวดจะต้องล้างให้ดี ยาสระผมเป็นตัวเปิดเกล็ดผม และครีมนวดจะเป็นตัวปิดและกระชับเล็ดผม ทำให้ผมถูกบำรุงได้ดีขึ้น แต่ที่สำคัญจะต้องล้างให้หมด


 

จุดยืน ผมพยายามวางตัวเองและสร้างสรรค์งานให้เป็นลักษณะของ Artist มากกว่าเป็นช่างทำผมธรรมดา อย่างการแกะลายที่ศีรษะเนี่ย ผมป็น 1 ใน 3 ของคนในซิดนีย์ที่ทำได้ โดยผมพยามยามสร้างสรรค์งานให้แตกต่างเป็นแบบของตัวเอง มันเหมือนกับเป็นงานศิลปะ ตัดผมให้กับดารา นักแสดงมาตั้งแต่เมืองไทย นักการฑูตคนมีชื่อเสียงก็เคย แต่ไม่เคยคิดว่าใครพิเศษกว่าใคร ทุกๆงานที่ตัดออกไป ผมภูมิใจหมด และให้ใจทุกคนกับผลงานทุกชิ้น เมื่อก่อนตัดที่เมืองไทย คิดต่อหัว หัวล่ะ 3000 แต่ที่นี่ตัดให้เด็กไทยถูกมาก แต่จริงๆแล้วที่เมืองไทยผมไม่ค่อยที่จะตัดผมนะ ผมเป็น Specialist ก็เลยจะต้องดูแลร้าน และให้น้องที่ร้านที่เราสอนตัดมากกว่า อีกอย่างก็เพราะว่าเรามีใจเป็นครู คอยให้คำแนะนำให้กับช่างทำผมมากกว่า ดังนั้นไม่ค่อยได้ตัดผมให้ใครที่เมืองไทย คนที่นี่ถือว่าโชคดีเลยนะ เพราะว่าผมตัดแบบสนุกๆ ให้คนไทยกันเอง และพร้อมที่จะแนะนำปัญหาเกี่ยวกับเส้นผมให้กับลูกค้าไปด้วย อย่างการที่มีช่างประจำก็ทำให้ลูกค้ามั่นใจมากขึ้น ลูกค้าบางคนดูตามแบบมาอยากได้ตามแบบที่ได้ โดยวิ่งตรงมาหาเราเลย เราก็ตัดตามใจลูกค้า แต่จะเข้าหรือไม่เข้ากับลูกค้าก็จะบอกเค้าก่อน แต่เราจะตัดและเซตออกมาให้ใกล้เคียงที่สุด


{mosimage}

 


1 ในอาชีพที่รัฐบาลต้องการ สิ่งที่ประเทศออสเตรเลียต้องการช่างทำผม จนเป็น demand ที่ทำให้นักเรียนสามารถสมัครเป็น PR ได้ เพราะว่า ช่างทำผมที่สามารถเป็น Artist หรือคนที่เป็นผู้ที่สร้างงานได้แบบงานศิลปะ หรือเป็นนักออกแบบทางทรงผมจริง ๆ มันมีน้อย มันเหมือนกับว่า เดี๋ยวนี้มีแต่ช่างตัดผมที่ตัดอย่างเดียว แต่ช่างที่เป็นศิลปิน ที่มีความรู้จริงๆ มันน้อย เลยทำให้สาขาวิชาชีพนี้ยังคงเป็นที่ต้องการอยู่ ส่วนน้องๆที่อยากเรียนสาขาช่างทำผมเนี่ย ผมสนับสนุนเต็มที่ เป็นอาชีพที่สามารถสร้างรายได้ ได้อีกด้วย อย่างบ้านเราเดี๋ยวต่อไป ช่างทำผมก็จะถูกบรรจุใน ปวช ปวส แล้วเหมือนกัน ใครที่อยากเรียนอยากให้ตั้งใจเรียน เพราะมันเป็นวิชาชีพที่สามารถเอาไปใช้ประโยชน์ได้ หางานไม่ยาก แต่ก็ต้องพัฒนาฝีมืออย่างดี


{mosimage}

 


คำจำกัดความสั้นๆจากบทสัภาษณ์ที่ถูกขยายความจากช่างทำผมมืออาชีพ ทำให้เราได้รู้เรื่องราว ความสามารถของพี่บอนว่า “ความสุขของช่างทำผมก็คือ เมื่องานออกมาสมบูรณ์ แล้วมีคำชม และความพึงพอใจ ของลูกค้า บวกกับรอยยิ้มต่างๆ นั้นแหละเท่านั้นพอ”


Bon Blue Hair Beauty

Mob : 0422 566 670

NATUI Officially 2008-01-29 02:17:48 5773