เนื่องจากเกิดไอเดียกับเพื่อนชาวเกาหลี ไต้หวัน และ ออสซี่ อยากไปเที่ยวในเขตOutback  หรือเป็นเขตทะเลทรายอันเวิ้งว้างในตอนกลางของประเทศออสเตรเลีย ประกอบกับเพื่อนชาวออสซี่นั้นมีรถยนต์ส่วนตัวอยู่ก็ออกไอเดียกันว่าน่าจะไป ที่Coober Pedy ซึ่งเป็นเขตตอนกลางแผ่นดินออสเตรเลียที่เป็นเขตทะเลทรายอย่างที่บอกไปนั่นเอง โดยจะต้องเดินทางข้ามรัฐไปเลย รัฐที่ผมอยู่นั่นเป็นรัฐวิคตอเรีย แต่Coober Pedy นั้นอยู่ระหว่างรัฐออสเตรเลียใต้ หรือว่า South Australia กับNorthern territory ถือดูเรียกเป็นชื่อเมืองก็ Adelaide(เมืองหลวงของรัฐออสเตรเลียใต้) และ Alice Springs  ซึ่งอยู่เหนือขึ้นไปอีก เรียกว่าเดินทางกันเป็นพันกิโลเมตรเลยก็ว่าได้ ถ้าหากเป็นประเทศไทยก็คงเหนือไปใต้เลยอะไรอย่างนั้น เส้นทางนั้นค่อนข้างโหดพอสมควรเพราะข้างทางนั้นเต็มไปด้วยทะเลทรายและทุ่งหญ้าอันแห้งแล้ง แน่นอนว่ามีเพื่อนร่วมทางเยอะไปไหนก็ไปกัน

พูดถึง Coober Pedy ซักหน่อย Coober Pedy เป็นเมืองที่ อยู่ใต้ดินเนื่องจากอากาศภายนอกนั้นบางวันนั้นร้อนถึง 50 องศาเซลเซียสเลยทีเดียว แต่กลางคืนนั้นหนาวสุดขั้วเรียกว่าอากาศนั้นแตกต่างกันฟ้ากับเหวในตอนกลางวันกับกลางคืน ถ้านั่งกลางแดดในตอนกลางวัน อาจจะสุกเลยก็ว่าได้ คนเลยไปอาศัยในใต้ดินแทนโดยในใต้ดินนั้นมีทั้งโบสถ์และร้านค้าต่างมากมาย  Coober Pedy ยังเป็นเมืองที่มีการขุดเหมืองแร่ Opalซึ่งไว้ทำเป็นเครื่องประดับที่มีชื่อเสียงมาก เป็นที่ขึ้นชื่อของออสเตรเลีย  ถ้าใครหาชื่อOpal Ring ก็ต้องปรากฏชื่อออสเตรเลียอย่างแน่นอน

ขับรถเข้าสู่ตอนกลางของทวีป เห็นขอบฟ้าไกลสุดลูกหูลูกตา

อันนี้ป้ายบอกว่าระวังจะตกหลุม ไม่รู้ขุดหลุมไปทำไม

เหตุการณ์คาดไม่คิดก็เกิดขึ้น ยางรั่ว กลาง Outback คงไม่มีร้านซ่อมแน่ๆ

เลยต้องรื้อเอาสัมภาระหลังรถออกมาเพื่อค้นเอาอุปกรณ์ซ่อมรถ

ระยะทางอีกอย่างไกล จริง ๆ อยากจะไปถึง Darwin แต่ไม่ไหวครับ อีกเกือบ 2 พัน กิโล

เข้าเขตรัฐ Northen Territory แล้ว บ่งบอกว่าเราใกล้ถึงแล้ว

ถึงแล้ว Coober Pedy เมืองใต้ดิน

เป็นมุมกว้างของเมือง

ยังพอมีบ้านที่ตั้งอยู่บนดินอยู่บ้าง

อันนี้เป็นงานศิลป์ที่เอาไว้ขาย ไม่ได้แจกฟรีนะครับ ต้องจ่ายตังค์

ดิน อันนี้ก็ขายนะครับ ถ้าอยากได้ก็หยิบตังค์แล้วเอา เงินใส่ในกล่องไว้ ขายแบบไว้ใจมากๆ

มันบอกว่าจอดรถฟรี หึึหึ ลองเก็บตังค์ดูสิ ที่กว้างออกอย่างนี้ ใครจะบ้าไปจอดให้เสียตังค์

เข้าไปร้านใต้ดินแล้ว เจอลุงชาวเอเชียไม่แน่ใจว่าเชื้อชาติไหน ขาย Opal อยู่

ขอบคุณที่มา http://www.mundoyo.com/Journal/?j=750