คุณหมอวีซ่า Issue 12 by Pip Panasbodi (CP International Education & Migration Service), RMA 9896337
ออสเตรเลียปิดท้ายปีเก่าด้วยการต้อนรับยุคของมหาวิทยาลัย
กับการยกเลิกวีซ่านักเรียนดิพฯ เป็นแถวๆ
ข่าวสดๆร้อนๆเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา รัฐสภาออสเตรเลียได้ผ่านร่างพระราชบัญญัติแก้ไขงบประมาณสนับสนุนในระดับอุดมศึกษา (หมายเลข 2) ซึ่งพระราชบัญญัติงบประมาณประจำปี 2011 – 2012 อนุมัติงบประมาณจำนวนก้อนใหญ่ให้กับภาคมหาวิทยาลัยไม่ว่าจะเป็นการสนับสนุนทางด้านการศึกษา หรือแหล่งทรัพยากรการเรียนรู้ในมหาวิทยาลัยโดยเฉพาะในเขตชนบทและภูมิภาค ซึ่งการอนุมัติเพิ่มงบประมาณในครั้งนี้จะทำให้ภาคอุดมศึกษามีรายได้รวมกันเพิ่มขึ้นถึง 3.15 พันล้านเหรียญ ตามแผนภูมิข้างล่างนี้
Additional university revenue – improved indexation
(from: http://www.ministers.deewr.gov.au/evans/increased-support-universities-budget-bill-passes#)
จากแผนภูมิจะเห็นว่าภายในระยะเวลา 4 ปี มหาวิทยาลัยจะได้รับเงินสนับสนุนจากทางภาครัฐเพิ่มขึ้นๆ ทุกปี เมื่อเทียบกับปี 2011 และ 2015 ท่านผู้อ่านจะเห็นได้ว่าตัวเลขนั้นสูงลิ่วขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจน แผนภูมินี้ก็แสดงให้เห็นถึงนโยบายของรัฐบาลชุดนี้ได้ว่า ต่อไปนี้รัฐบาลออสเตรเลียจะให้ความสำคัญกับการศึกษาในระดับมหาวิทยาลัย ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพื่อผลักดันให้เด็กออสเตรเลียเองได้รับโอกาสในการศึกษาระดับมหาวิทยาลัย และพัฒนาภาคอุดมศึกษาให้ทัดเทียมกับคู่แข่งประเทศต่างๆ ทั่วโลก
นอกจากนี้ท่านรัฐมนตรี Chris Evans ยังกล่าวอีกว่าในปี 2012 จะเป็นปีที่ดีขึ้นของตลาดอุดมศึกษา เพราะนับแต่ระบบ streamlined visa arrangements ที่เริ่มนำมาใช้ มหาวิทยาลัยจะได้รับผลประโยชน์จากระบบวีซ่านักเรียนรูปโฉมใหม่นี้ ซึ่งร่างพระราชบัญญัตินี้จะช่วยให้รัฐบาลออสเตรเลียพัฒนาระบบการศึกษาในระดับมหาวิทยาลัยให้เป็นไปอย่างยั่งยืนและอย่างต่อเนื่องในอนาคตข้างหน้า
จากข่าวข้างต้นก็แสดงให้เห็นแนวโน้มของรัฐบาลออสเตรเลียว่าจะหันมาให้การสนับสนุนในระดับอุดมศึกษา ทั้งสำหรับชาวออสเตรเลีย และชาวต่างชาติให้เข้ามาเรียนในระดับมหาวิทยาลัย คุณหมอวีซ่าจำได้ว่าสมัยที่เริ่มเปิด CP Inter ใหม่ๆในช่วงปี 1997 ตลาดนักเรียนไทยที่มาทำการศึกษาต่อในออสเตรเลีย เกิน 80% ก็ว่าได้ ล้วนมาต่อระดับอุดมศึกษาโดยเฉพาะปริญญาโท จนมาถึงปี 2007- 2009 แถวๆนั้นที่รัฐบาลพรรค Liberal ต้องการส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจของออสเตรเลีย จึงได้เปิดลู่ทางให้นักศึกษานานาชาติสามารถทำเรื่องมาเรียนสาขาวิชาอาชีพ เช่น Cookery หรือ hairdressing เป็นต้นที่เหมาะกับเด็กไทยมาก เพราะคนไทยมีความสามารถทางการทำอาหารและทำผมเป็นเลิศ แต่ขณะเดียวกัน ก็มีจำนวนนักศึกษาที่ใช้ช่องทางของวีซ่านักเรียนที่ปล่อยปะหละหลวมมากในช่วงเวลานั้นเพื่อเข้ามาทำงานหาเงินดอลล่าร์กันโดยการลงทะเบียนหลักสูตรราคาถูกๆต่อๆกันหลายคอร์ส ก่อให้เกิดโรงเรียนเอกชนราคาถูกๆที่ไม่มีคุณภาพ และเอเย่นซี่ขายคอร์สราคาถูกขึ้นมามากมาย มีการใช้เอกสารปลอม ทำเรื่องปลอม ขายดิพฯ ขาย IELTS หรือที่เห็นบ่อย คือการจดทะเบียนปลอมให้ผู้ติดตามที่ไม่ได้เป็นคู่กันจริงๆ เป็นต้น จนรัฐบาลต้องขึ้นมากวาดล้าง โดยการตั้งมาตรการวีซ่านักเรียนที่เข้มงวดขึ้นมากๆด้วยระบบที่เรียกว่า Genuine Temporary Entrant (GTE) คือการอนุมัติวีซ่าให้เฉพาะกับนักเรียนนักศึกษาที่มีเจตนาจะมาเรียนหนังสืออย่างแท้จริงเท่านั้น
นั่นเท่ากับว่าถ้าผู้อ่านท่านใดมีเพื่อนๆ หรือญาติพี่น้องที่อยากจะมาเรียนต่อยังออสเตรเลียแล้วไปเลือกลงเรียนต่อในระดับดิโพลม่าราคาถูกๆ ทั้งๆที่จบตรีมาแล้วจากไทย วีซ่าก็จะผ่านได้ยากมากๆ แทบจะไม่ผ่านเลยก็ว่าได้หากไม่สามารถพิสูจน์เจตนาที่แท้จริงของตนให้ตรงตามนโยบายของรัฐบาลชุดนี้ อีกทั้งน้องๆทั้งหลายที่ตอนนี้กำลังถือวีซ่านักเรียน sc 572 (สำหรับคนที่เรียนดิโพลม่า) ก็ต้องระวังในเรื่องของ attendance และผลการเรียนกันให้มากๆนะคะ GTE ได้เริ่มใช้แล้ว โดยเฉพาะสำหรับนักเรียนรุ่นที่ยังตกค้างอยู่ในออสเตรเลีย ลงเรียนแต่คอร์สดิโพลม่าราคาถูกๆ หลายๆ คอร์สติดต่อกัน หรืออยู่ออสเตรเลียมาหลายปีแล้วแต่ยังเรียนไม่จบสักคอร์สเลย มีสิทธิที่จะโดนปฏิเสธวีซ่าสูงถ้าหากยังเรียนในหลักสูตรเหล่านี้อยู่ แต่นั้นก็ไม่ได้หมายความว่าไม่มีหนทางแก้ไขนะคะ หากยื่นใบสมัครวีซ่าคุณภาพดีๆเข้าไปด้วยเหตุผลและเอกสารประกอบที่สมเหตุผล ก็ยังมีโอกาสได้อยู่ คุณหมอวีซ่าก็เริ่มสอนให้พี่ๆที่ปรึกษาที่ CP Inter ทุกคนเริ่มใช้มาตรการใหม่ในการทำวีซ่านักเรียนให้น้องๆแล้ว ถ้าหากใครต้องการที่จะเรียนต่อเพื่อที่จะให้ได้พีอาร์ (PR) ที่นี่ ก็ยังมีช่องทางทำได้อยู่ เพียงแค่ต้องมีการเปลี่ยนแนวการเรียน ประกอบกับการวางแผนการเรียนที่ดีให้ถูกแนวทาง และหลักสูตรนั้นจะต้องได้รับการรับรองทางกฎหมาย เพียงเท่านี้โอกาสในการได้พีอาร์ก็ไม่ไกลเกินเอื้อมค่ะ การทำวีซ่านักเรียนสมัยนี้ ต่างจากแต่ก่อนที่มีคอร์สลง ได้ COEแล้ว วีซ่าก็สามารถผ่านได้ ปัจจุบันด้วยระบบ GTE หากเดินผิดเอกสาร วีซ่าก็ปลิ๋วไปด้วยค่ะ ทางที่ดีที่สุดเข้ามาคุยกับทีมงานซีพี อินเตอร์ฯ ดีกว่าเพื่อวางแผนการเรียนและการทำวีซ่า ต่อวีซ่าที่ถูกวิธีนะคะ การโดนปฏิเสธวีซ่าสร้างประวัติเสียให้กับตนเอง พึงดำเนินด้วยความรอบคอบค่ะ
ผลพวงจาก GTE กอปรกับช่วงนี้อิมมิเกรชั่นเข้มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด คอยไปไล่ตรวจตามโรงเรียนและไล่แคนเซิลวีซ่านักเรียนกันอุตลุด แต่ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาก็มีนักเรียนดิโพลม่าหลายคนเข้ามาปรึกษากับคุณหมอวีซ่าในเรื่องของจะโดนอิมมิเกรชั่นแคนเซิลวีซ่านักเรียน แต่ก็โชคดีว่าคุณหมอวีซ่าสามารถชุบชีวิตน้องๆเหล่านั้นทันท่วงที ให้กลับมามีวีซ่า และมีอนาคตที่สดใสรออยู่อีกครั้งทั้งหมด 5 รายซ้อนภายในหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา ยกตัวอย่างสัก 3 กรณีเด่น เช่น
กรณีที่ 1 - ของน้องเอ (นามสมมุติ) ที่โดนแคนเซิล CoE โดยไม่รู้ตัว ทางโรงเรียนได้ส่งจดหมาย NCN Letter (Non-compliance notification letter) มาที่บ้าน แต่น้องเอไม่เคยได้รับ คุณหมอวีซ่าก็ได้ใช้ช่องทางของกฎหมายพิสูจน์ว่าจดหมายฉบับนั้นไม่มีผลบังคับใช้ทางกฎหมาย อิมมิเกรชั่นก็ไม่สามารถที่จะแคนเซิลวีซ่าของน้องเอได้ อิมฯก็เห็นด้วยและปล่อยตัวมาให้ไปลงเรียนคอร์สใหม่
กรณีที่ 2 - เช่นเดียวกับน้องบี (นามสมมุติ) ที่มาปรึกษาปัญหาวีซ่านักเรียนกับคุณหมอวีซ่า โดยน้องบีนั้นก็โดนแคนเซิล CoE เช่นเดียวกับน้องเอ แต่ว่าทางสถาบันได้ทำการยกเลิก CoEด้วยวิธีที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมายและขาดความระมัดระวัง คุณหมอวีซ่าก็ทำการโต้แย้งกับทางอิมมิเกรชั่น แล้วก็ชนะคดีมาอีกรั้ง ซึ่งตอนนี้น้องบีก็ได้ CoE พร้อมวีซ่านักเรียนตัวใหม่คืนมาแล้ว ต้องถือว่าน้องบีนั้นโชคดีจริงๆนะคะที่ได้เจอเจ้าหน้าที่อิมมิเกรชั่นใจดี และฟังเหตุผล
กรณีที่ 3 -อีกตัวอย่างเคสที่คุณหมอวีซ่าอยากจะกล่าวถึงก็คือเรื่องของน้องซี (นามสมมุติ) โดยน้องซีเองก็มาหาคุณหมอวีซ่าเพราะว่าโดนยกเลิก CoE เช่นเดียวกัน โดยที่น้องซีเองนั้นก็ไม่ทราบว่าทำไมทางโรงเรียนถึงได้ยกเลิก CoE พอน้องซีจะไปลงทะเบียนเรียนและจ่ายค่าเทอม ก็โดนทางโรงเรียนบอกมาว่าได้ยกเลิก CoE ไปแล้ว คุณหมอวีซ่าด้วยความที่ทำงานอย่างซื่อสัตย์ตรงไปตรงมากับอิมมิเกรชั่นมาตลอด 15 ปี จึงทำจดหมายขอความร่วมมือสอบถามกับทางอิมมิเกรชั่นโดยตรงไปในเรื่องของน้องซี ทางอิมฯ ก็ใจดีให้ความร่วมมือพร้อมคำชี้แจงด้วยดีมาตลอด แล้วก็ทราบว่าน้องซีนั้นโดนยกเลิก CoE เพราะจ่ายค่าเทอมช้า ซึ่งทางทีมงาน ซีพี อินเตอร์ก็รีบจัดการหาคอร์สเรียนให้น้องซีทันที ยังดีที่อิมฯให้โอกาส น้องซีจึงไม่โดนยกเลิกวีซ่าและได้กลับไปเรียนตามเดิม
มีอีกหลายกรณีที่ช่วยเด็กไว้ทัน แต่บางกรณีที่นักเรียนไปรับคำแนะนำมาผิดๆ และดำเนินไปผิดวิธีจนเคสเน่ามาสุดๆ คุณหมอวีซ่าก็อาจช่วยไว้ไม่ทันนะคะ จึงอยากแนะนำว่า มีปัญหาให้รีบมาพบ อาจช่วยได้ทันท่วงที อย่าจูงมือกันเข้าไปรายงานตัวตรงกับอิมฯโดยไม่รู้ช่องทางของกฎหมาย อย่างเคสน้องบี อิมฯยังโทรมาบอกว่ากรณีนี้เด็กไม่ได้ลงเรียนมาร่วม 6 เดือน ถ้าเด็กมารายงานตัวที่เคาน์เตอร์โดยตรง เจ้าหน้าที่จะออกใบแคนเซิลวีซ่าที่เรียกว่า Notice of Intention to Cancellation ให้ทันที นี่ดีที่เด็กมาพบก่อน คุณหมอวีซ่าจึงช่วยเขียนคำอธิบายโดยชี้ช่องทางของกฎหมายให้ทางอิมฯเห็นว่าไม่สามารถยกเลิกวีซ่าเด็กได้ เพราะไม่ใช่ความผิดของเด็กแต่ทั้งหมดเลยทีเดียว หลายกรณี โรงเรียนก็มีส่วนผิดอยู่เหมือนกัน คุณหมอวีซ่าก็ดีใจนะคะที่ทางคุณหมอวีซ่าและทีมงานได้มีโอกาสช่วยน้องๆทั้งสามคนให้กลับมามีอนาคตที่สดใสอีกครั้ง อย่างเคสน้องซีเองนั้น ยิ่งเสี่ยงมาก เพราะมีนายจ้างยินดีที่จะสปอนเซอร์ให้ทำงานทันที แต่หากโดนถอนวีซ่นักเรียนไป ก็จบอนาคตกันทั้งสามีและภรรยาเลยค่ะ เพราะถือวีซ่าพ่วงกันมาตลอด
หลายๆคนไม่เห็นความสำคัญของวีซ่านักเรียน บางคนคิดว่าแค่สมัครเรียนไว้ แล้วเอาเวลาไปทำงานเก็บตังค์ดีกว่า พอถึงเวลาก็มาจ่ายเงินค่าเรียน น้องๆต้องอย่าลืมนะคะว่าในปัจจุบันเศรษฐกิจบ้านเรานั้นไม่ดีเลย ผลจากน้ำท่วมครั้งใหญ่ทั่วประเทศ มีคนไทยเป็นแสนๆคนต้องตกงาน ครั้นจะกลับไปทำงานที่ไทยก็ไม่รู้ว่าจะหางานได้หรือเปล่า เผลอๆต้องเตะฝุ่นรองานไปพลางๆ เพราะฉะนั้นการเรียนต่อและทำงานอยู่ที่ออสเตรเลียย่อมเป็นหนทางที่ดีกว่าในยุคนี้ โดยเฉพาะน้องๆที่อยากจะได้พีอาร์ ก็ควรจะเลือกคอร์ส หรือมหาวิทยาลัยที่ได้รับการรองรับ อย่ามัวแต่ไปลงเรียนดิโพลม่าราคาถูกๆอีกต่อไป ควรจะหันมาเลือกเรียนในคอร์สที่จะช่วยให้เราได้พีอาร์ดีกว่าที่จะต่อดิพไปเรื่อยๆเพื่อเก็บเงิน เผลอๆบางครั้งเงินที่เราเสียให้กับค่าเรียนดิโพลม่า อาจจะเทียบเท่ากับเงินที่เราจ่ายเป็นค่าเรียนมหาวิทยาลัยเลยนะคะ แต่เพื่อความชัวร์ คุณหมอวีซ่าคิดว่าเข้ามาปรึกษากับทีมงานซีพีอินเตอร์ดีกว่า เพราะถ้าหากไม่รู้จริง อาจจะโดนปฏิเสธวีซ่าได้ง่ายๆนะคะ แถมถ้ายื่นเอกสารปลอมเข้าไปอาจโดนโทษแบน 3 ปีอีกต่างหาก
ตอนนี้ก็ใกล้จะคริสต์มาสและปีใหม่แล้วนะคะ คุณหมอวีซ่าก็ขออวยพรให้ท่านผู้อ่านทุกท่านจงมีแต่ความสุข และขอให้ประสบความสำเร็จ มีความสุขทั้งกายและใจตลอดปี 2012 นะคะ ใครที่รอพีอาร์ หรือซิติเซ่นอยู่ก็ขอให้ได้ไวๆนะคะ ซึ่งทางซีพี อินเตอร์เองก็ มีโปรโมชั่นพิเศษฉลองคริสต์มาสมอบให้กับน้องๆทุกคนที่ต้องการจะสมัคร Graduate Skilled Visa (sc 485) หรือ TR เพียงแค่น้องๆคนไหนที่สมัครทำ 485 กับเรา ทางเราจะมอบ Ipad 2 หรือ Gift card ให้เป็นของขวัญคริสต์มาสและของขวัญที่จบการศึกษา นับแต่วันนี้จนถึง 10 มีนาคม 2012 เท่านั้น - รีบมาพบพี่จัสตินที่ CP Inter ด่วนเลยนะคะ...โอกาสอย่างนี้ ไม่ได้มีบ่อยค่ะ
มั่นใจในคุณภาพอันเป็นเลิศของ CP International...