คุณหมอวีซ่า Issue 7 – คุณหมอวีซ่า by Pip Panasbodi (CP International Education & Migration Service)
Canada ยังให้โอกาส PR กับชาวโลกอยู่
Canadian Experience Class
วีซ่าสำหรับผู้ที่ต้องการเป็นพลเมืองถาวรที่ประเทศแคนาดา
"Vancouver, Canada - เมืองอันสวยงามที่ได้ครองตำแหน่งเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลก
มาเป็นเวลา 10 ปีซ้อน เพิ่งจะมาแพ้ให้นคร Melbourne ในปีนี้เอง แต่ก็ยังติด 3 อันดับแรกของโลก"
สำหรับหลายๆคนแล้ว แคนาดาอาจจะถือว่าเป็นประเทศใหม่โดยเฉพาะสำหรับนักเรียนไทย และหลายๆคนก็คงสงสัยว่าทำไมคุณหมอวีซ่าถึงจะต้องมาโปรโมทวีซ่า Canada ให้กับท่านผู้อ่านทั้งหลายที่อาศัยอยู่ในประเทศออสเตรเลีย ทั้งๆที่ออสเตรเลียเองก็มีสภาพสังคม เศรษฐกิจ ระบบการศึกษาที่ไม่น้อยหน้าไปกว่าประเทศแคนาดา ทั้งนี้และทั้งนั้น หากท่านผู้อ่านลองหมุนนาฬิกากลับไปช่วงปี 2007-2009 ตอนที่ออสเตรเลียยัง boom เอามากๆ โดยในช่วงนั้นมีนักเรียนต่างชาติจากทั่วโลกทะลักหลั่งไหลกันเข้ามาเรียนหลักสูตรสายอาชีพในหลายๆหลักสูตร ไม่ว่าจะเป็น cook, hairdresser, accountant เป็นต้น พอจบ 2 ปี ก็สามารถยื่นขอ PR ได้อย่างง่ายๆ แต่เนื่องจากกฎของอิมมิเกรชั่นของประเทศออสเตรเลียมีการเปลี่ยนแปลงอย่างชนิดที่ผู้คนมักทักว่า “จะพลิกแผ่นดินกันหรือไงเนี๊ยะ” โดยเฉพาะช่องทางการขอ พีอาร์ประเภทวีซ่าทักษะ (General S killed Migration) ในประเทศออสเตรเลียนั้นยากขึ้นมาก และหลายๆคนก็ถอดใจที่จะขอพีอาร์ และเดินทางกลับประเทศไทยในที่สุด สำหรับหลายๆคน อุตส่าห์ลงทุนเรียนหนังสือมา 2-3 ปีแล้ว แต่ก็ไม่มีโอกาสที่จะขอพีอาร์ เพราะอาชีพหรือสาขาที่ตัวเรียนมานั้นถูกถอดออกจาก SOL List โดยไม่รู้ตัว และไม่มีการประกาศให้มีการเตรียมตัวทราบล่วงหน้า เช่นบางคนเรียนเชฟมา แต่สุดท้ายก็เกิดการเปลี่ยนกฎขึ้นทำให้ต้องตัดสินใจกลับบ้าน หรือต้องมาเรียนปริญญาอีกใบเพื่อใช้สมัครพีอาร์ หรือบางคนถือ 457 มาเป็นเวลานานแล้ว แต่ก็ไม่มีโอกาสที่จะขอพีอาร์ เพราะว่าอาชีพไม่อยู่ในลิสต์อีกต่อไป และถ้าหากนายจ้างไม่สนับสนุนที่จะสปอนเซอร์ให้ได้พีอาร์ (ENS) ก็คงจะต้องกลับบ้านเช่นเดียวกัน ดังนั้นจะเห็นว่าการขอพีอาร์ประเภททักษะเพื่อขอยู่ทำงานต่ออย่างถาวรหลังเรียนจบในปัจจุบันในออสเตรเลียนั้นค่อนข้างยุ่งยาก คุณหมอวีซ่าจึงขอนำเสนอโอกาสใหม่ๆในประเทศดีๆระดับเดียวกับออสเตรเลีย เพื่อให้น้องๆรุ่นหลังได้ไปอยู่กัน และมีโอกาสสมัครเป็นพลเมืองถาวรที่นั่น เป็นโอกาสครั้งหนึ่งในชีวิตเรา
วันนี้คุณหมอวีซ่าจึงอยากนำเรื่องของวีซ่าถาวร (PR) ของแคนาดาที่เรียนว่า Canadian Experience Class มาเล่าสู่กันฟังนะคะ โดยเฉพาะช่วงนี้ที่ CP International ที่กรุงเท พฯขอ งเรามีวีซ่าไปเรียนต่อ Canada ผ่านกันเข้ามาเรื่อยๆอย่างง่ายๆ จึงคิดว่าน้องๆน่าลองให้โอกาสกับตนเอง หรือคุณพ่อคุณแม่ให้โอกาสลูกๆเป็นอย่างยิ่ง เพราะเราก็ไม่ทราบว่ารัฐบาลแคนาดาจะเปิดประตูเมืองเหมือนอย่างที่ออสเตรเลียเคยเปิดไปอีกกี่นาน จะมีการปิดช่องทางอย่างกระทันหันอย่างที่ออสเตรเลียทำมาแล้วหรือไม่ เมื่อไร แต่ตอนนี้ถ้าทำได้ ก็ขอให้รีบตัดสินใจทำ เข้าทำนอง “น้ำขึ้นให้รีบตัก” ค่ะ
The Canadian Experience Class (CEC) - โดยรวมแล้วก็คล้ายๆกับ Graduated Skilled Visa (sc485) ของออสเตรเลียนั่นแหละค่ะ เพียงแต่ว่าของออสเตรเลียนั้นอนุญาตใ ห้นักศึกษาที่เรียนจบสามารถขออยู่ต่อหาประสบการณ์การทำงานได้ 18 เดือนนับจากสำเร็จการศึกษา แต่ Canadian Experience Class หรือ CEC นั้นต่างกันตรงที่เปิดโอกาสให้นักศึกษาที่ศึกษาอยู่ต่อทำงานที่แคนาดาได้เป็นเวลาเท่ากับจำนวนเวลาที่ลงให้กับการศึกษา เช่นเรียนภาษา 6 เดือน - ขอวีซ่าทำงานต่อในแคนาดาได้ 6 เดือน เรียน หลักสูตร 2 ปี ขอทำงานหลังจบได้ 2 ปี เป็นต้น แต่สูงสุดให้ได้เพียง 3 ปีในกรณีหลักสูตรที่เรียนนานเกิน 3 ปีเช่นหลักสูตรปริญญาบางหลักสูตรที่ใช้เวลาเรียนถึง 4-5 ปีเป็นต้น และหลังสะสมประสบการณ์ทำงานในแคนาดาได้ 1 ปีด้วย CEC วีซ่า นักศึกษาก็จะมีโอกาสข้ามฝั่งไปขอวีซ่าทำงานและอาศัยอยู่ในแคนาดาได้อย่างถาวร ตรงตามนโยบายที่เรียนว่า “Dual Intention” ของทางรัฐบาลแคนาดา คนไทยเราก็ว่า “ยิงนัดเดียว ได้นก 2 ตัว” อะไรทำนองนั้น ในขณะเดียวกัน นอกจากช่องทางการทำวีซ่าถาวรโดยผ่านช่องทางของการศึกษาแล้ว โอกาสการทำวีซ่า CEC นั้น ยังมีการเปิดให้กับคนอีกกลุ่มหนึ่ง ก็คือ พวก foreign workers ซึ่งในที่นี้ขอเรียกว่า “ลูกจ้างต่างชาติ” ทั้งหลายที่ทำงานอยู่แล้วในประเทศแคนาดา ก็มีโอกาสที่จะทำเรื่องขออยู่ต่อที่แคนาดาได้อย่างถาวรเช่นกัน เนื่องจากรัฐบาลของประเทศแคนาดาตระหนักดีว่า บุคคลเหล่านั้นล้วนมีความคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อม และสังคมในประเทศแคนาดาอยู่แล้วนั่นเอง
ผู้สนใจจะสมัครวีซ่า CEC ได้จะต้องมีคุณสมบัติขั้นพื้นฐานตามที่กฎหมายกำหนดคร่าวๆและง่ายๆ ดังนี้
1. ไม่มีความตั้งใจที่จะไปอาศัยอยู่ในรัฐควิเบก (Quebec)
2. หากทำงาน จะต้องทำงานอย่างเต็มเวลา หรือถ้าหากเพิ่งจบการศึกษา ก็จะต้องผ่านการศึกษาเต็มเวลาในหลักสูตรขั้น
ต่ำ 2 ปีการศึกษา
3. มีประสบการณ์การทำงานในตำแหน่งหรืออาชีพที่เป็นที่ต้องการในทักษะประเภท Skill Type 0, Skill Level A,
Skill Level B ที่มีรายการอาชีพลงไว้ใน National Occupation Classification (NOC) ซึ่งรายการนี้ ก็ทำ
หน้านี้คล้ายๆกับ ANZSOL List ของออสเตรเลียที่ระบุถึงคุณสมบัติขั้นพื้นฐานของอาชีพที่ประเทศต้องการโดย:
Skill Type 0 – จะเป็นอาชีพในแนว managerial occupations
Skill Level A – จะเป็นอาชีพในแนว professional occupations
Skill Level B – จะเป็นอาชีพในแนว technical occupations and skilled trades
(สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่http://www5.hrsdc.gc.ca/NOC/English/NOC/2006/Welcome.aspx )
4. จะต้องมีคุณสมบัติ และประสบการณ์การทำงานตามที่กฎหมายกำหนด ณ เวลาที่ยื่นใบสมัคร
5. จะต้องถือวีซ่าอย่างถูกต้องตามกฎหมายภาย ณ เวลาที่ยื่นใบสมัคร
6. ในกรณีที่ถือวีซ่าทำงานชั่วคราว จะต้องมีประสบการณ์การทำงานเต็มเวลา 2 ปีจาก 3ปี
7. ในกรณีที่เพิ่งจบการศึกษาจะต้องมีประสบการณ์การทำงานเต็มเวลา 1 ปี และจบการศึกษาในระดับอุดมศึกษาจาก
แคนาดา
National Occupation Classification (NOC)
หลายๆคนคงจะสงสัยว่า แล้วทำยังไงเราถึงจะรู้ว่าเรามีคุณสมบัติตรงตามอาชีพที่เราต้องการจะยื่น ระบบ NOC เป็นเหมือนฐานข้อมูลที่ผู้สมัครทุกคนจะต้องตรวจสอบคุณสมบัติขั้นพื้นฐาน เช่นว่าอาชีพนี้ประกอบไปด้วยหน้าที่การงานอะไร การศึกษาขั้นพื้นฐานที่ต้องผ่าน และข้อมูลอื่นๆเพิ่มเติม เป็นต้น โดยอาชีพที่ต้องการจะยื่นจะต้องอยู่ใน Skill Type 0, Skill Level A, Skill Level B เท่านั้น ตัวอย่างเช่น
นายเก่งเพิ่งจบการศึกษาปริญญาโททางด้าน Computer Sciences จากมหาวิทยาลัยในประเทศแคนาดามาเป็นเวลา 2 ปี และมีประสบการณ์การทำงานในสายงานนี้ทางด้านนี้เป็นเวลา 1 ปี นายเก่งต้องการจะสมัคร CEC นายเก่งก็ต้องมาตรวจสอบก่อนว่าคุณสมบัติของตัวเองนั้นตรงตามที่ NOC กำหนดไว้หรือไม่ ดังนี
|
---|
จากข้อมูลในตารางข้างต้นแสดงให้เห็นว่า ถ้าหากนายเก่งแกต้องการยื่นในตำแหน่ง Computer Programmer แกก็จะต้องมีคุณสมบัติไม่ว่าจะเป็นด้าน job descriptions หรือทางด้านการศึกษาตรงตามที่อิมมิเกรชั่นกำหนด และถ้าในช่วงทำงานนายเก่งมีประสบการณ์ตรงตามที่ NOC ระบุไว้ เขาก็สามารถที่จะสมัครและยื่นในอาชีพนี้ได้ แต่ในขณะเดียวกัน นายเก่งต้องการจะยื่นอาชีพนี้แต่ไม่เคยทำงานที่เกี่ยวข้องกับสายงานนี้มาก่อน ไม่เคยเขียนโปรแกรม ไม่เคยทดสอบ ก็เท่ากับว่านายเก่งไม่มีคุณสมบัติตามที่กำหนด นายเก่งก็ต้องไปหาอาชีพใหม่ที่ตรงกับประสบการณ์ที่เราทำมา น้องๆคนไหนต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถอ่านได้ที่ลิงค์ข้างบนเลยค่ะ
ความสามารถทางภาษาก็ถือเป็นอีกหนึ่ง requirement ของการสมัครวีซ่าตัวนี้โดยเฉพาะ แคนาดาเป็นประเทศที่มีภาษาราชการ 2 ภาษา คือ ภาษาอังกฤษและฝรั่งเศส ดังนั้นถ้าหากเราสามารถสื่อสารโดยใช้ภาษาใดภาษาหนึ่งได้ ก็จะเป็นประโยชน์ต่อการปรับตัวและการทำงานที่นี่ โดยผู้ที่สนใจจะสมัครวีซ่าประเภทนี้จะต้องสอบวัดระดับภาษาก่อนที่จะยื่นใบสมัครได้ โดยในกรณีที่สมัครสอบวัดระดับภาษาอังกฤษจะต้องสอบ IELTS และได้คะแนนตามที่อิมมิเกรชั่นกำหนด ถึงจะสมัครวีซ่าตัวนี้ได้ค่ะ
ขณะที่ช่องทางของประเทศหนึ่งปิดสนิท อีกช่องทางของแคนาดาก็เปิดสว่างสดใสต้อนรับนักศึกษากันอย่างอบอุ่น CEC นับเป็นวีซ่าทางเลือกสำหรับน้องๆทั้งหลายที่ต้องการจะเปิดโอกาสใหม่ๆให้กับตัวเองไม่ว่าจะเป็นทางด้านการเรียน การทำงาน ตลอดจนการเป็นพลเมืองถาวรของประเทศแคนาดา สำหรับหลายๆท่าน การไปเรียนที่ประเทศแคนาดาแล้วสามารถหาโอกาสทำงานภายใต้วีซ่า CEC ได้ ก็จะนับเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจทีเดียวเลยล่ะค่ะ
ยังมีรายละเอียดปลีกย่อยจำนวนมากมายเกี่ยวกับวีซ่าตัวนี้ คุณหมอวีซ่าขอยกมาเฉพาะข้อมูลเบื้องต้นที่เป็นคุณสมบัติขั้นพื้นฐานของการสมัคร CEC ถ้าหากต้องการรายละเอียดเพิ่ม เติมสามารถติดตามได้ที่
http://www.cic.gc.ca/english/immigrate/cec/index.asp หรือถ้าต้องการจะเข้าร่วมโครงการ Canadian Experience Program ที่เป็นโครงการที่เปิดโอกาสให้น้องๆ นักศึกษามีโอกาสได้เรียนและทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมายที่แคนาดา ตามที่คอลัมน์ My Future My CP ได้ลงไว้ ก็สามารถติดต่อเข้ามาที่ซีพี ฯ ได้เลยค่ะ คุณหมอวีซ่าและทีมงานยินดีช่วยเหลือและให้คำแนะนำทุกท่าน
มั่นใจในคุณภาพอันเป็นเลิศของ CP International...