เจ้าของห้องเช่าใน Sydney บางรายเอาเปรียบผู้ที่ลี้ภัยเข้ามาอยู่ในประเทศออสเตรเลียที่ไม่มีประสบการณ์การเช่าบ้านมาก่อนโดยให้เซ็นสัญญาที่ให้ผลประโยชน์กับทางเจ้าของห้องมากกว่าหรือให้ออกจากสัญญาการเช่าเพราะต้องการผู้เช่ารายใหม่ที่มีเงินมากกว่า
เจ้าหน้าที่หน่วยช่วยเหลือสังคมออกมากล่าวว่าผู้ลี้ภัยบางรายนั้นถึงขนาดกลายเป็นผู้ไร้ที่อยู่อาศัยก็มีหรือต้องกลับไปอยู่ในค่ายลี้ภัยตามเดิม
กลุ่มผู้พิทักษ์ผู้ลี้ภัยด้านที่อยู่อาศัยและการทำงานจาก West Sydney ได้ให้สัมภาษณ์แก่ นสพ Sydney Morning Herald ว่าในปัจจุบันนี้ไม่มีที่อยู่อาศัยที่มีราคาเช่าย่อมเยาในเมืองสำหรับผู้ลี้ภัยกว่า 2,500 คนและผู้จะต้องได้รับการสงเคราะห์จากประเทศในตะวันออกกลางและทวีปอัฟฟริกาจากประเทศออสเตรเลียในแต่ละปี
กลุ่มผู้พิทักษ์กล่าวอีกว่า ผู้ลี้ภัยนั้นมักจะถูกให้จัดไปอยู่ที่อยู่อาศัยของเอกชนโดยไม่มีความเข้าใจถึงสิทธิของตนและความรับผิดชอบที่มี และในที่สุดหากประสบปัญหาการเงินผู้ลี้ภัยเหล่านี้ยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เงินมา
สมาชิกจาก Campbelltown-Wollondilly ซึ่งเป็นหนึ่งในองค์กรพิทักษ์และช่วยเหลือผู้ลี้ภัยในด้านที่อยู่อาศัย Brij Datt กล่าวว่าจำนวนผู้ลี้ภัยนั้นได้เข้ามาขอความช่วยเหลือเป็นจำนวนมากขึ้น 30% ตั้งแต่ในปี 2005 เนื่องมาจากค่าเช่าที่เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากและกลายมาเป็นปัญหาหลักของผู้ลี้ภัย
Brij กล่าวต่อไปอีกว่าเจ้าของห้องเช่าบางรายนั้นถึงกับเก็บค่า bond ล่วงหน้าเป็นเงินค่าเช่าล่วงหน้าตั้งแต่ 1-6 เดือนก็มี และเก็บค่าเช่าล่วงหน้า 4 ล่วงหน้าอีกต่างหาก และหากที่อยู่อาศัยมีรอยเพียงแค่นิดเดียวเงิน bond ทั้งหมดนั้นจะถูกยึดไปโดยปริยาย Brij กล่าวต่อไปว่าครอบครัวชาวลี้ภัยนั้นมักจะย้ายเข้ามาอยู่ในห้องเช่าที่ไม่ได้มีการเก็บกวาดทำความสะอาดให้เรียบร้อยและมีร่องรอยสกปรกและผู้ลี้ภัยนั้นมักจะไม่กล้าที่จะไปแจ้งกับทางเจ้าของห้อง
ในพื้นที่ๆอยู่ในความดูแลของ Fairfield ที่มีจำนวนผู้ลี้ภัยกว่า 8,106 คนเข้ามาพำนักอาศัยระหว่างปี 2002 ถึง 2007 พบว่าจำนวนห้องว่างนั้นมีมากขึ้นจาก 1% ไปเป็น 7%