เทศกาลวันแห่งความรักกำลังใกล้เข้ามาแล้ว เราทีมงาน natui.com.au ขอยกเดือนกุมภาพันธ์ให้เป็นเดือนแห่งความรักไปทั้งเดือนเลยก็แล้วกันค่ะ และสำหรับคอลัมน์ เพื่อนใหม่อ๊อดๆ ในเดือนนี้ เป็นโอกาสดีที่จะได้ไปทำความรู้จักกับคู่รักคู่หนึ่ง ซึ่งก่อนหน้านี้ทั้งคู่ต่างอยู่กันคนละมุมโลก แต่ในที่สุดก็ได้มาพบรักกันที่ประเทศออสเตรเลีย คุณต๊ะ และ คุณแจ็ค คู่รักต่างเชื้อชาติ ที่บ่มรักกันมานานถึง 5 ปีครึ่ง ทั้งสองคนนี้มีเรื่องราวความรักที่น่าสนใจ และวันนี้เขาและเธอพร้อมจะมาแชร์เรื่องราวความรักอันแสนหวานให้เราได้อิจฉากันแล้วค่ะ
เล่าตอนที่เจอกันครั้งแรกให้ฟังหน่อยได้มั้ยคะ?
Taz: เจอกันในผับเมื่อ 6 ปีที่แล้ว ตอนนั้นแจ็คมาเป็น working visa ส่วนต๊ะมาเป็นนักเรียน มาอยู่ได้ประมาณ 6 เดือน ตอนนั้นต๊ะอายุ 25 ส่วนแจ็คก็อายุประมาณ 19 เอง ยังเด็กๆ อยู่เลย เค้าก็เข้ามาจีบ มาเต้น มาชวนคุย มาขอเบอร์ ตอนนั้นต๊ะก็ไม่ได้ชอบเค้านะ เพราะรู้สึกว่าเค้าเด็กเกินไป แจ็คยังผอมมมม... (ลากเสียงยาว ) อยู่เลยตอนนั้น ก็เลยบอกเค้าไปว่าไม่มีเบอร์โทร จำไม่ได้ แต่เพื่อนต๊ะคนนึงดึงแจ๊คกลับมา แล้วแอบเอาเบอร์เราให้เค้าไป
ตอนคุณแจ๊คเจอคุณต๊ะครั้งแรกรู้สึกยังไงคะ?
Jack: ก็ชอบมากเลยนะ สวย… คนนี้ก็โอเคนะ
Taz: สวยสำหรับ 6 ปีที่แล้ว (คุณต๊ะแทรกเข้ามา)
Jack: ตอนนั้นก็คิดว่าสวยที่สุดในผับนะ น่ารักด้วย ผมก็คิดไว้ว่าอยากรู้จักคนนี้นะ แต่ก็ไม่ได้จีบ คุยกันเฉยๆ ก็เป็นเพื่อนกันไปเรื่อยๆ นะ (คุณแจ็คตอบเรากลับมาเป็นภาษาไทยซะด้วย ต้องขอบอกว่าพูดได้เก่งมากจริงๆ ค่ะ)
แล้วหลังจากนั้นดำเนินความสัมพันธ์ยังไง?
Jack: The next day she went to thailand for 1 month and then I couldn't remember her e-mail right? She gave it to me but my phone was in the washing machine. I lost all the information so i just guess and i sent the e-mail like 20 address like Tana,Ta Tamoo, Tamoo etc. And one of them went through to her and then she mail back and we said in touch. I think she e-mails me twice when she's in thailand and the day she came back here on Holiday, I sent her a text message. And that was the first message she got from me when she came back to Australia. And then after 1-2 weeks we met up and went to Loft Bar near by Darling Harbour. At that time I asked her "Do you have a husband? Do you have any children?" and she said no.
(แปล: หลังจากที่เจอกันวั้นแรก วันถัดมาคุณต๊ะก็ต้องกลับไทย เพราะเรียนจบภาษา 6 เดือนพอดี และโชคก็ไม่เข้าข้างคุณแจ็คเอาซะเลย เพราะว่าเขาดันจำอีเมลล์ของคุณต๊ะไม่ได้ เนื่องจากเผลอเอาโทรศัพท์มือถือที่บันทึกอีเมลล์คุณต๊ะไว้ ใส่ลงไปซักในเครื่องซักผ้าซะงั้น แต่ความที่คุ้นๆ จากตอนที่ได้ถาม ก็เลยลองสุ่มส่งอีเมลล์ไปร่วม 20 อีเมลล์เลยทีเดียว แล้วก็โชคดีเพราะว่าอีเมลล์หนึ่งในนั้น ได้ส่งไปถึงคุณต๊ะค่ะ หลังจากนั้น คุณต๊ะก็เมลล์กลับมาคุยกับคุณแจ็คอยู่ 2 ครั้ง จนวันที่คุณต๊ะกลับมาออสเตรเลียอีกครั้ง คุณแจ็คก็ได้ส่งแมสเสจไปหาเธอ และหลังจากนั้นประมาณ 1-2 สัปดาห์ ทั้งคู่ก็ไปออกเดทกันที่ Darling Harbour ค่ะ และในครั้งนั้น คุณแจ็คก็ได้ยิงคำถามที่โดนใจมากๆ คือ คุณมีสามีหรือยัง คุณมีลูกมั้ย?)
Taz: ใช่ๆๆ คำถามแรกนี่แหละ ที่เรารู้สึกว่าผู้ชายคนนี้แปลก คือคำถามแรกที่เค้ายิงมา คุณมีสามีรึยัง? คุณมีลูกมั้ย? เป็นคำถามที่แปลกมากเลยอ่ะ แล้วตอนนั้นแจ็คอายุ 19 เองด้วย
แล้วตอนนั้นคุณแจ็ครู้หรือเปล่าว่าคุณต๊ะอายุมากกว่า?
Taz: รู้แล้วค่ะ คือก่อนที่จะนัดออกมาเดทกันครั้งแรก เค้าก็ส่งแมสเสจมาถาม How old are you? ต๊ะก็ตอบกลับไปเลยว่า 25 แล้วเค้าก็หายไปเลยชั่วโมงนึง (หัวเราะ) เราก็คิดว่าเค้าคงชิ่งไปแล้ว แน่ๆ เลย
ตอนนั้นคุณแจ็คตกใจมั้ย รู้สึกยังไงคะ?
Jack: ก็ตกใจ ตกใจนะ ตอนแรกก็คิดว่าจะโกหกดีมั้ยให้อายุดูใกล้ๆ กัน ไม่ห่างกันมาก แต่สุดท้ายก็ส่งแมสเสจกลับไปว่า i'm 19
Taz: พอต๊ะรู้ว่าเค้า 19 เราก็เซ็งเป็ดไปเลยอ่ะ (หัวเราะ) เด็กเกิน... ตอนนั้นก็คิดด้วยว่า เค้าคงมาหลอก มาจีบเล่นๆ เสือผู้หญิงรึป่าว...
Jack: I don't know why u like me that time นะ I look ตลกนะ (คุณแจ็คเสริมเข้ามา)
Taz: โอ้ย ไม่ ตอนนั้นก็ไม่ได้ชอบ แล้วต๊ะก็แบบว่าตอนนั้นก็ยังเปรี้ยวๆ ก็เลยคิดว่าคบเค้าไว้เป็นเพื่อนคุยเล่นๆ ก็ได้ ไม่ได้คิดจริงจัง
แล้วคุณแจ็คจริงจังมั้ยคะตอนนั้น?
Jack: When i first met her I didn't think like about the future about getting married or having children or anything. Just day by day. But I like her. I was serious about her.
เล่าเรื่องน่ารักๆ ในเดทปีแรกให้ฟังได้มั้ยคะ?
Taz: ตอนที่เดทครั้งแรก แจ็คเค้าชวนไปดูหนัง ซึ่งต่างคนต่างดูไม่รู้เรื่อง เพราะต่างคนต่างเกร็ง (หัวเราะ) แต่ต๊ะเป็นคนดูหนังแล้วจะแบบว่า concentrate กับหนัง แต่แจ็คนี่ดูไม่รู้เรื่องเลย พยายามที่จะจับมือเราให้ได้ (หัวเราะ) (คุณแจ็คยิ้มเขินพร้อมทำท่าทางประกอบเหตุการณ์วันนั้นให้เราดู น่ารักมากๆ)
แล้วสรุปเป็นยังไงคะ ได้จับมือคุณต๊ะมั้ย?
Jack: ได้ (ตอบอย่างฉะฉาน)
Taz: พอเค้าจับ เราก็ตกใจ คิดว่าถ้าเราดึงมือออกเค้าจะต้องหน้าแตกแน่ๆ เลย กลัวว่าเค้าจะเสียเซลฟ์ ก็เลยเกร็งอยู่อย่างนั้นจนหนังจบ พอออกมาก็ต่างคนต่างปล่อย แล้วก็บอกเค้าว่าเนี่ย มาทำอย่างนี้ข้างนอกไม่ได้นะ เพราะว่าเพิ่งจะรู้จักกัน ก็สอนวัฒนธรรมของเราให้เค้ารู้
ตอนนั้นคุณแจ็ครู้มั้ยคะว่าวัฒนธรรมไทยเป็นแบบไหน?
Jack: No, I didn't know anything that time about thailand culture. It's very different as my culture.
แล้วอะไรคือจุดเปลี่ยนที่ทำให้ทั้งสองคนตัดสินใจมาคบกันจริงจังคะ?
Taz: ก็คุยกันมาเรื่อยๆ ตอนแรกต๊ะก็คิดว่ายังไงก็ไปกันไม่ได้ เพราะว่าอายุห่างกันมาก จนวันที่แจ็คจะเดินทางกลับไปอังกฤษ เราก็เริ่มรู้สึกว่าเค้าไม่ได้มาขำๆ กับเรานะ ไม่ได้เพลย์บอยอย่างที่เราคิด เค้าก็น่ารักดี แต่ก็บอกเค้าไปว่าคงเป็นไปไม่ได้ ไหนจะเรื่องอายุ และความห่างไกลกันอีก พอเค้ากลับไปอังกฤษ เค้าก็โทรหาต๊ะทุกวัน บอกให้เรารอนะ อย่าเพิ่งมีคนอื่น อีกไม่เกินหกเดือนถึงปีนึง ยังไงเค้าก็จะกลับมาหาที่ออสเตรเลีย เราก็บอกเค้าไปว่าเราไม่รอหรอก จะรอได้ยังไง ไม่มีจุดหมาย ก็บอกเลิกเค้าไป เค้าก็เศร้า
Jack: แม่ผมก็ถามผมว่า ผู้หญิงคนนี้มีความสำคัญมากหรอ ผมก็บอกกับครอบครัวว่า ใช่ ผมเจอแล้ว...
Taz: พ่อแจ็คเลยบอกว่า งั้นกลับออสเตรเลยมาหาเราเลย พ่อก็ให้ตั๋วเครื่องบินมาอย่างเดียว แล้วแจ็คก็กลับมาโดยไม่มีเงินเลยแม้แต่ดอลล์ แล้วก็มาเหมือนกับมาตายเอาดาบหน้า พอเค้ามาถึง ต๊ะมารอรับที่แอร์พอร์ต พอเห็นหน้าเค้า ก็เลยมีความรู้สึกว่า ถ้าเค้าไม่รักเรา เค้าคงไม่ทิ้งทุกอย่างมาเพื่อเรา ก็เริ่มรู้สึกดีๆ กับเค้า แล้วพอมาอยู่ที่นี่ด้วยกัน เค้าก็ทำงานหนัก และเริ่มโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้น
ภาษา เชื้อชาติ และวัฒนธรรม ที่แตกต่างกันทำให้มีปัญหามั้ยคะ?
Jack: First time it was difficult because i didn't think anytime. Also i didn't know anything about Thai culture so in the first year our relationship got a lot of many problems. But I think it's about stupid stuff, very small thing. For example, Just the way she want to do something and the way I want to do is just different. That is very small thing, like you can't do this if u do that something bad gonna happen… like superstition.
(แปล: แรกๆ ก็ค่อนข้างยาก เพราะคุณแจ็คไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับวัฒนธรรม และความเชื่อของไทยเลย ดังนั้นในปีแรกที่คบกันจึงมีปัญหาค่อนข้างมาก แต่ก็เป็นแค่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น อย่างเช่น ความต้องการทำสิ่งต่างๆ ที่แตกต่างกัน หรือความเชื่อในเรื่องทางพุทธศาสนา)
Taz: อย่างแรกๆ บอกเค้าว่าทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่วนะ เค้าก็จะแบบ... งง… ว่าอะไร ไม่เข้าใจ ก็จะมีปัญหากันในเรื่องความเชื่อเล็กๆ น้อยๆ
แล้วเรื่องอายุที่ต่างกันล่ะคะ?
Jack: It was not really much problem until u talk about the future.
ทั้งสองคนมาใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันที่ออสเตรเลีย คิดถึงบ้านกันบ้างมั้ย?
Taz: คือต๊ะคิดว่าเดี๋ยวนี้ระบบสื่อสารมันง่าย การจะติดต่อกับครอบครัวที่อยู่ไกลมันก็สะดวกมากขึ้นกว่าสมัยก่อน ปีใหม่ที่ผ่านมาก็เพิ่งพาแจ็คกลับไปเยี่ยมบ้านต๊ะที่กรุงเทพ เมื่อตอนที่คบกันได้สองปี เค้าก็พาต๊ะไปอังกฤษ ไปรู้จักกับครอบครัวเค้า ปีถัดมาคุณพ่อแจ็คก็มาเยี่ยมที่ออสเตรเลีย ก็เลยไม่เหงา รู้สึกว่ายังใกล้ชิดกับครอบครัวทั้งสองฝ่ายมาตลอด
คบกันมาน๊าน นาน ต้องมีเรื่องเซอร์ไพรซ์กันบ้างจริงมั้ยคะ?
Taz: มีวันครบรอบปีนึง ตอนนั้นต๊ะก็ทำงานร้านเสื้อผ้า แจ็คเค้ารู้ว่าเราชอบดอกกุหลาบสีแดง เค้าก็ให้คนมาส่งที่ห้าง แบบว่าดอกไม้ใหญ่มาก แล้วก็ช็อคโกแลต ก็ดีใจมาก เซอร์ไพรซ์มาก อีกครั้ง 2-3 ปีที่แล้ว ไปเกาะสมุยกัน แจ็คเซอร์ไพรซ์ต๊ะโดยการจัดโต๊ะอาหารให้ริมทะเลย พอทานเสร็จ อยู่ๆ ก็คุกเข่าลง ตอนนั้นเราก็งงๆ ทำอะไรเนี่ย ก็บอกให้เค้าลุกขึ้น อายคนอื่น แจ็คเค้าก็ร่ายยาวมาเลยว่ารู้สึกยังไงกับเรา ชีวิตที่ผ่านมา เราทำอะไรให้เค้า แล้วเค้าทำอะไรให้เราบ้าง อยากจะให้เวลาที่เหลืออยู่กับเรา แล้วก็มาจับมือ ขอแต่งงาน... หลังจากนั้น พอกลับกรุงเทพฯ ก็ไปซื้อแหวนหมั้นกัน จนป่านนี้ยังไม่ได้แต่งเลยค่ะ (หัวเราะ)
แล้วแจ็คล่ะค่ะ คุณต๊ะเคยเซอร์ไพรซ์อะไรที่ประทับใจบ้างมั้ย?
Jack: (ทำท่าคิด) Ok. Once in 5 years she cooks dinner. (หัวเราะ) That was a big surprise.
Taz: โหยยย... จำไม่ได้หรอแจ็ค ครบรอบ every year I make u surprise every year jack!!! (คุณต๊ะช่วยระลึกความจำให้คุณแจ็ค)
Jack: เออ…ใช่ (หัวเราะ) First year she got a very big photo for me. It's the photo the day when I left Australia to get back to England. And we said goodbye and I didn't know that time i'm gonna come back, so we said goodbye forever and then we on the escalator, we hug each other and her friend took a photo of us and Taz printed it for our 1st year anniversary.
And on the 3rd year, she did another big photo like a collage in black & white and it's photo memory for the 3 years we'd been together. That was a big surprise. That was very nice… ชอบมาก
Taz: ต๊ะชอบรูปครั้งแรกมาก คือเพื่อนที่เป็นคนญี่ปุ่นเค้าแอบถ่ายไว้ให้วันที่เราไปส่งแจ๊คกลับอังกฤษ เราเองก็ไม่รู้ว่าเพื่อนถ่ายไว้ จนวันที่เค้ากลับญี่ปุ่นไป แล้วกลับมาอีก เค้าก็เอารูปที่แอบถ่ายวันนั้นมาให้ เราก็ตกใจมาก คิดว่ามีรูปพวกนี้ด้วยหรอ ก็เลยขอฟิล์ม เอาไปอัดเป็นรูปใหญ่มาก แล้ววันครบรอบปีแรก เราก็เอามาแปะข้างฝา ตอนแจ็คเดินกลับมาบ้าน พอเห็นเค้าก็ตกใจ แต่ก็ชอบด้วย
Jack: And after 5 years which is end of last year. She gave me the diary that she made it
Taz: ให้ก็ไม่เคยใช้เลย (แอบแซว)
Jack: And every page has a different photo of her or of us. It's like a water mark picture.
Taz: เค้าจะเซอร์ไพรซ์กับของที่ต๊ะทำให้ เพราะเค้าบอกว่าไม่เคยมีใครทำให้เค้าอย่างนี้ คือบางคนเวลาจะให้ของขวัญ อาจจะอยากซื้อเป็นของให้กัน แต่ในความรู้สึกต๊ะ ต๊ะอยากจะให้เป็นความทรงจำกับเค้าดีกว่า เวลาเค้าได้ เค้าก็จะตื่นเต้น ว่าเราทำเองหรอ... ต๊ะจะชอบทำเป็นรูปภาพ เพราะว่าเค้าบ่นว่าไม่ค่อยมีรูปเราที่ทำงานเลย อย่างปีที่ผ่านมาต๊ะก็ทำเป็นไดอารี่ให้เค้า เป็นไดอารี่ที่มีรูปที่เราไปเที่ยวกันภายใน 5 ปีที่ผ่านมา
แล้วเวลาทะเลาะกัน มีวิธีแก้ปัญหายังไงคะ?
Jack: I remember from the first year we met we had an argument about something i can't remember what's it about. It's not big one but after that P'Taz was told me if we have a fight then what she wants it from me just to hug her, so i remember this and everytime we have an argument then i will hug her but she sometime says "get off get off" ไปไกลๆๆๆ (หัวเราะ) and i just hug her… hug her… and then when she told me to go away i remind her of this. I said i remember what u told me 5 years ago and she calm down a bit. But we don't argu e very often and now i learn what to say & what to do if we have an argument. I will not say anything to make it worst. I would just let her calm down and then we'll talk about it all.
(แปล: คุณแจ็คเล่าให้เราฟังว่า ตั้งแต่ปีแรกที่คบกับคุณต๊ะ ก็มีทะเลาะกันบ้าง แต่ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร หลังจากนั้น ทั้งสองคนได้คุยปรับความเข้าใจกัน และคุณต๊ะก็มีวิธีที่บอกคุณแจ็คว่า อยากให้คุณแจ็คทำอย่างไรเพื่อให้เธอหายโกรธ หายงอน นั่นก็คือให้คุณแจ็คกอดเธอค่ะ ว้่่าวววว… และทุกครั้งที่มีปัญหากัน คุณแจ็คก็เลยใช้วิธีนี้ และเตือนคุณต๊ะเสมอๆ ว่าเค้าจำได้นะว่า 5 ปีที่แล้วคุณต๊ะบอกให้เค้าทำแบบนี้ถ้าทะเลาะกัน ซึ่งก็รู้สึกว่าวิธีนี้จะได้ผลทุกครั้งเลยนะคะเนี่ย... คุณแจ็คยังบอกอีกว่า เขาได้เรียนรู้ว่าควรพูดหรือควรทำอย่างไรเมื่อผิดใจกัน และพยายามที่จะไม่ทำอะไรก็ตามที่จะทำให้สถานการณ์แย่ลง เขามักจะรอให้คุณต๊ะใจเย็นลงก่อน แล้วถึงมานั่งคุยถึงปัญหากันทีหลัง แหม… น่ารักจริงๆ เลยนะคะ)
กิจกรรมยามว่างทำอะไรกันบ้างคะ?
Jack: We don't have much free time but when we do we try to go away somewhere, so one long weekend we went to Port Stephens and we spend weekend there. Or we go like Blue Mountain in September. The other time we went to New Zealand or we went to the Canberra to the Flower Show, so i would try to plan something nice when we have free time together and then i was surprise where we going.
(แปล: คุณแจ็คบอกว่าทั้งคู่ไม่ค่อยมีเวลาว่างเท่าไหร่ แต่พอว่างตรงกันปุ๊บ ก็มักจะไปเที่ยวด้วยกัน อย่างที่ผ่านๆ มา ก็มีไป Port Stephens, Blue Mountain, New Zealand, Canberra etc. คุณแจ็คบอกว่าชอบที่จะวางแผนการเที่ยว แล้วก็ตื่นเต้นทุกครั้งที่ได้ไปท่องเที่ยวที่ต่างๆ ด้วย )
แล้วตอนนี้ทำอะไรกันอยู่ที่นี่บ้างคะ?
Taz: ตอนนี้ต๊ะก็มีร้านขายเสื้อผ้าชื่อ Gardia ค่ะ อยู่ตรง George St.
Jack: I work in Finance and go to clothes shop with P'Taz, Gardia นะ ทุกคนต้องมานะ ซื้อของนะ 647 George Street ตรงข้าม HSBC BANK ข้่้างร้านตัดผม ชั้น 2 นะครับ (แหม…บอกที่อยู่เสร็จสรรพ (^..^")) (หัวเราะ) แล้วก็มีทำร้านอาหารไทยด้วย ส่งโฮมครับ เป็นร้านเพื่อน ไปช่วยเค้าครับ so, i work everyday and go to Glebe Market on Saturday with P'Taz.
ว้าว... ทำงานหนักขนาดนี้ สงสัยเก็บเงินแต่งงานแน่เลย (^.^)
วางแผนอนาคตกันไว้ยังไงบ้าง?
Jack: In the future i want to expand a business, work with another business but first i want to married and have children
Taz: But he have to hurry up cause i'm older than him na (หัวเราะ)
Jack: พี่ต๊ะแก่แล้ว (แซวกันเป็นภาษาไทยซะด้วย)
สุดท้ายแล้ว อยากให้ฝากอะไรถึงกันหน่อยค่ะ
Jack: I just make sure i tell her everyday I love her.
Taz: ก็อยากจะบอกว่า เราก็รักและเป็นห่วงเค้า เราเข้าใจเค้านะ เมื่อตอนที่เราอายุเท่าเค้า เราก็มีเที่ยวบ้าง ติดเที่ยวติดเล่น แต่เมื่อเราสองคนมาพบกันอย่างนี้แล้ว ก็อยากให้เราครึ่งทาง เค้าครึ่งทาง ต๊ะไม่เคยตามเค้าไปเที่ยวเลย เพราะเราคิดว่าเราเชื่อใจกัน แต่ว่าแค่อยากให้เค้าระวังตัว ดูแลเรื่องเงิน เรื่องคบเพื่อน เรื่องสังสรรค์ เป็นห่วงเค้า
วาเลนไทน์ปีนี้มีแผนว่าจะทำอะไรกันเอ่ย?
Taz: มันเซอร์ไพรซ์ บอกได้ไงล่ะ (หัวเราะ)
Jack: Will see!!!
ฮิ้ววววว… หวานกันซะขนาดนี้ เราชาว natui.com.au ก็ขอให้ทั้งคู่รักกันไปนานๆ และสมหวังในทุกๆ ด้านนะคะ อ่านบทสัมภาษณ์ของคู่รักคู่นี้จบแล้ว ก็รู้สึกอิ่มใจ และยังรู้สึกว่าความรักดีๆ ที่คู่รักมอบให้กัน ก็ยังมีอยู่บนโลกที่วุ่นวายใบนี้อยู่ เราก็อยากให้คู่รักทุกคู่มอบสิ่งดีๆ ให้กัน มีอะไรหนักนิดเบาหน่อยก็อภัยให้กันนะคะ
Happy Valentine's Day ค่ะ...
เรียบเรียงบทความโดย natui.com.au
#news#