การวิจัยที่ได้กลายมาเป็นข้อวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางว่า โลชั่นแบบมอยเจอร์ไรเซอร์นั้นเพิ่มอัตราการเสี่ยงการเกิดมะเร็งผิวหนังให้แก่ผุ้ที่ใช้เวลาในแสงแดดเป็นเวลานาน
แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคต่างๆได้ออกมากล่าวการวิจัยดังกล่าวนั้นได้ใช้หนูไร้ขนเป็นตัวทดลองอย่างเดียวนั้นไม่สามารถบ่งชี้ได้อย่างแน่นอนว่าการใช้โลชั่นทำให้เกิดมะเร็งผิวหนัง หรือการทดลองดังกล่าวนั้นจะมีผลกับมนุษย์เช่นเดียวกัน
การวิจัยดังกล่าวจากประเทศสหรัฐอเมริกาพบวามอยเจอร์ไรเซอร์มีสารเคมีที่มีคุณสมบัติทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนังเหมือนกับ Sodium lauryl sulphate หรือ น้ำมันที่มากจากแร่ธาตุ นั้นทำให้อัตราการเกิดเนื้องอกในหนูทดลองที่สัมผัสกับรังสี UV มีมากขึ้น แต่โลชั่นที่ผลิตโดยปราศจากสารดังกล่าวนั้นไม่ได้ไปกระตุ้นการเกิดเนื้องอกแต่อย่างใด
ผู้นำการวิจัย Allan Conney ศาสตราจารย์จากภาควิชาเคมีชีววิทยาจากมหาวิทยาลัย Rutgers University จากประเทศสหรัฐอเมริกา กล่าวว่าการค้นพบของตนนั้นช่วยอธิบายสาเหตุของการเกิดมะเร็งผิวหนังของผู้ป่วยในรายที่ต้องอยู่กลางแจ้งเป็นเวลานานได้ อย่างไรก็ตาม Allan เองนั้นยังได้กล่าวในตอนท้ายอีกว่าผลการทดลองนั้นมาจากหนูเท่านั้นและจำเป็นที่จะต้องมีการศึกษาและทำการวิจัยเพิ่มเติมมากออกไปอีก
ส่วนผู้เชี่ยวชาญโรคผิวหนังในประเทศออสเตรเลียออกมากล่าวว่าการออกมาสรุปสาเหตุในตอนนี้นับว่ายังเร็วไปและไม่สามารถบ่งบอกอะไรได้เลย
ศาสตราจารย์ Rod Sinclair ผู้อำนวยการจาก Department of Dermatology จากโรงพยาบาล St Vincent’s Hospital ใน Melbourne กล่าวว่าการใช้มอยเจอร์ไรเซอร์นั้นจะพบมากในกลุ่มสตรี อย่างไรก็ตาม มะเร็งผิวหนังที่เกิดขึ้นกลับเกิดขึ้นกับผู้ชายไม่น้อยไปกว่ากัน และการป้องกันโรคมะเร็งผิวหนังในประเทศออสเตรเลียนั้นจะต้องมีการออกมารณรงค์กันอย่างต่อเนื่องเพราะมะเร็งผิวหนังนั้นเป็นโรคมะเร็งที่เกิดขึ้นมากและมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มขึ้นต่อไปอีก 50% ภายในปี 2020 เมื่อประชากรนั้นเริ่มมีอายุมากขึ้น
