สตรีที่เลิกสูบบุหรี่ในระยะแรกของการตั้งครรภ์ยังมีโอกาสเสี่ยงต่อการคลอดบุตรก่อนกำหนดหรือที่มีน้ำหนักตัวน้อยไป หรือแม้แต่การเลิกบุหรี่ก่อนการตั้งครรภ์บุตรคนที่สองเป็นเวลา 3 ปีทารกที่เกิดมายังมีโอกาสเสี่ยงเช่นเดียวกัน
จากการวิจัยจากสตรีที่มีบุตรกว่า 244,000 คนทั่วรัฐ New South Wales ทำให้ทราบถึงผลกระทบระยะยาวของการสูบบุหรี่และทำให้ผู้เชี่ยวชาญออกมารณรงค์สตรีที่เตรียมมีบุตรนั้นให้เลิกสูบบุหรี่
สารเคมีภายในบุหรี่เช่น carbonmonoxcide นั้นจะไปทำให้ตัวอ่อนนั้นไม่สามารถไปผังตัวยังผนังมดลูกได้ไม่ดีนัก และไปยับยั้งการไหลเวียนของเลือดไปยังตัวอ่อนและทำให้ร่างกายแม่ที่จะสร้างคอลลาเจนซึ่งจำให้ผนังเยื่อห่อหุ้มตัวอ่อนนั้นไม่แข็งแรง และอาจจะทำให้เกิดการคลอดก่อนกำหนดหรืออาจเสียชีวิตก่อนคลอดได้
การวิจัยดังกล่าวนี้ได้มีการตีพิมพ์ในนิตยสาร British Journal Of Obstetrics And Gynaecology พบว่าหากสตรีคลอดบุตรคนแรกก่อนกำหนดนั้นโอกาสที่บุตรคนที่สองจะเกิดในลักษณะเดียวกันนั้นมากขึ้นไปอีก 28% ในขณะนี้สตรีที่คลอดบุตรที่มีขนาดตัวเล็กโอกาสที่บุตรคนที่สองนั้นจะตัวเล็กเช่นเดียวกันมีโอกาสมากถึง 4.7%
ศาสตราจารย์ จากศูนย์แพทย์ตัวอ่อนจาก Liverpool Hospital, John Smoleniec กล่าวว่า นอกจากนี้การเลิกสูบบุหรี่หลังจากบุตรคนแรกนั้นจะช่วยลดวามเสี่ยงก็จริงแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะลดอัตราการเสี่ยงได้อย่างสิ้นเชิง จำนวนสตรี 1 ใน 5 คนนั้นออกมายอมรับว่าตนนั้นสูบบุหรี่ระหว่างตั้งครรภ์ ถึงแม้ว่าตัวเลขจำนวนสตรีตั้งครรภ์สูบบุหรี่นั้นจะมากกว่าจำนวนดังกล่าวในความเป็นจริง
ผู้อำนวยการจาก Sydney South West Area Health Service’s Health Promotion Unit, Chris Rissel กล่าวว่าอัตราจำนวนของสตรีตั้งครรภ์ที่สูบบุหรี่นั้นสูงมาก และการบริการของหน่วยงานสาธารณสุขมีความจำเป็นที่ออกมาช่วยเหลือในการรณรงค์ให้เลิกสูบบุหรี่