ประชาชนชาวออสเตรเลียกว่า 600,000 เป็นโรคกระดุกพรุน และมีอีกหลายคนที่ไม่ทราบว่าตนนั้นมีปัญหาเรื่องกระดูกจนกระทั่งกระดูกของตนเองนั้นหัก
จากการรายงานของรัฐมนตรีที่ดูแลความเป็นอยู่ของผู้สูงอายุ Justine Elliot กล่าวว่าโรคกระดูกพรุนนั้นส่วนมากจะเกิดขึ้นกับวัยกลางคนไปจนถึงวัยสูงอายุ โดยจำนวนประชากรผู้หญิงในวัยดังกล่าวกว่าครึ่งและผู้ชายอายุ 60 ขึ้นไป 1 ใน 4 คนนั้นมีปัญหาโรคกระดูกพรุน
จากบทความใน A Picture Of Osteoporosis in Australia โดย Australian Institute of Health and Welfare and Osteoporosis Australia และ The Department of Health and Ageing ได้ระบุว่าผลกระทบของโรคกระดูกพรุนนั้นมีผลทำให้ร่างกายนั้นอ่อนแอลงหรือร้ายแรงที่สุดอาจจะทำให้เป็นอันตรายถึงชีวิตได้
รอยแตกของกระดูกนั้นจะทำให้เกิดอาการปวดเรื้อรัง และทำให้ผู้ป่วยนั้นไม่สามารถเคลื่อนไหวได้มาก และอาจทำให้มีความจำเป็นต้องพึ่งพาผู้อื่นในการเคลื่อนไหว และในกรณีที่แย่ที่สุดนั้นอาจถึงแก่ชีวิต
กระดูกที่หักง่ายนั้นประกอบไปด้วยกระดูกบริเวณสันหลัง สะโพก กระดูกแขนและข้อมือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาหากใช้แขนและมือทรงตัวเวลาล้มลงกับพื้น และหากกระดูกสันหลังเกิดมีรอยแตกก็สามารถทำให้เกิดรอยแตกกว้างขึ้นไปอีกได้หากเป็นโรคกระดูกพรุนอยู่แล้ว แต่ปัญหาที่กระดูกสันหลังนั้นสามารถเกิดขึ้นได้ปราศจากความเจ็บปวด หรือส่วนใหญ่นั้นเข้าใจว่าเป็นปัญหาที่กล้ามเนื้อหลัง ซึ่งหากปล่อยไว้นานจะทำให้กระดูกสันหลังนั้นโค้งมากขึ้นและทำให้กลายเป็นคนหลังค่อมได้และสูญเสียความสูงไปในทีสุด อย่างไรก็ตามก็ยังพอจะมีทางแก้ปัญหาอยู่บ้าง
ผู้อำนวยการการแพทย์ศาสตราจารย์ Peter Ebeling กล่าวว่าผู้ที่กำลังประสบปัญหาเกี่ยวกับกระดูกนั้นสามารถเปลี่ยนนิสัยการรับประทานอาหารของตนได้โดยการทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายและรับประทานวิตามิน D ให้เพียงพอ การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และงดสูบบุหรี่ ประชากรชาวออสเตรเลียกว่า 43% ที่เป็นโรคกระดูกพรุนนั้นได้ปรึกษาเภสัชกรในการแก้ปัญหาดังกล่าวและอีก 40% นั้นได้ใช้รับประทานวิตามินและแร่ธาตุเป็นอาหารเสริมไม่ว่าจะเป็นแคลเซียมและวิตามิน D