
จากการศึกษาวิจัยในสหรัฐอเมริกาพบว่าเด็กที่อาศัยอยู่ในบ้านห่างจากถนนเป็นระยะทาง 500 เมตรนั้นจะมีโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นโรคหืดหอบ ส่วนผู้ใหญ่จะมีโอกาสเป็นโรคที่เกี่ยวกับปอดและหัวใจได้มากขึ้น
ในการศึกษาผลกระทบของสภาพอากาศมลพิษจากรถยนต์ต่อสุขภาพของมนุษย์จาก 700 แห่งทั่วโลกพบว่า มลพิษในระยะรัศมี 500 เมตรจากการจราจรสามารถทำให้เกิดโรคหืดหอบแก่ประชาชนได้ทุกช่วงอายุ ทำลายระบบปอด ในผู้ใหญ่และทำให้เกิดโรคหัวใจและอาจทำให้เสียชีวิตในที่สุด
ประชาชนในรัฐ New South Wales จำนวนกว่าหลายพันคนอาศัยอยู่ภายในรัศมี 500 จากแหล่งมลพิษบนถนน
#news#
ในประเทศออสเตรเลียเอง ทางสภา National Environment Protection Council ซึ่งประกอบไปด้วยรัฐมนตรีที่ดูแลด้านสิ่งแวดล้อม จะหารือในการกำหนดมาตรฐานคุณภาพอากาศขึ้นในเดือนหน้า หลังจากที่ได้มีการศึกษาผลกระทบต่อสุขภาพเป็นเวลากว่า 10 ปีที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตามตามมาตรฐานโลก คุณภาพอากาศในรัฐ New South Wales นั้นอยู่ในเกณฑ์ดี แต่ปริมาณโอโซนบนภาคพื้นแสดงให้เห็นว่าอากาศไม่ได้ดีขึ้นกว่าเก่าตั้งแต่ในปี 1990s ที่ผ่านมา เนื่องจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้นและจำนวนรถยนต์บนท้องถนนที่มีมากขึ้น
ในปี 2005 ทาง Bureau of Infrastructure, Transport and Regional Economics พบว่าผลกระทบของมลพิษทางอากาศต่อสุขภาพประชาชนมีค่าความเสียหายคิดเป็นเงินได้จำนวนมากกว่า 2.7 พันล้านเหรียญ
อย่างไรก็ตามทางหัวหน้าผู้บริหาร Australian Federal Chamber of Automotive Industries, Andrew McKeller กล่าวว่าทางหน่วยงานนั้นสนับสนุนการลดมลพิษจากรถยนต์อยู่แล้วแต่คุณภาพอากาศในประเทศออสเตรเลียดีอยู่แล้วและไม่ควรที่จำนำผลการศึกษาจากสหรัฐอเมริกามาเปรียบเทียบ