|
สวัสดีพี่น้องและแฟนๆชาว Natui.com กลับมาพบกับคอลัมน์เพื่อนใหม่วัยออส หลังจากที่เว้นช่วงมาพอสมควร เพื่อให้ได้มีเวลาทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่แต่ละคนกันอย่างทั่วถึง และในครั้งนี้ เพื่อนคนต่อไปที่ทีมงานภูมิใจนำมาเสนอให้ชาววเว็บรู้จักกัน ก็เป็นเพื่อนใหม่ ที่ใหม่ถอดด้ามจริงๆ เพราะเพิ่งจะมาเยือนซิดนีย์เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ต้นปีนี้เอง และในฐานะนักศึกษาแลกเปลี่ยน ซึ่งหลังจากการสัมภาษณ์พูดคุยครั้งนี้ ก็เหลือเพียงไม่กี่สัปดาห์ก่อนที่น้องวาวจะต้องกลับไปเรียนต่อที่อเมริกาดังเดิม
“วาวมาอยู่ที่ซิดนีย์ได้แค่เกือบครึ่งปีเท่านั้นค่ะ และก็กำลังจะต้องกลับไปแล้ว คงจะคิดถึงซิดนีย์มากแน่ๆ เพราะวาวมีกลุ่มเพื่อนดีๆที่สนิทกันอยู่ที่นี่หลายคนเลยค่ะ แล้วช่วงที่อยู่ด้วยกันนี้ก็รู้สึกผูกพันธ์กันมากด้วย” น้องวาวเล่าให้ฟังด้วยความเสียดาย โดยที่จริง ตอนคุยกับทีมงาน น้องวาวเรียกกลุ่มเพื่อนและคนรู้จักเหล่านั้นว่าเป็น ‘Super people’ ซึ่งแทนความรู้สึกได้ลึกซึ้งทีเดียว
ด้วยวัยเพียง 21 ปี น้องวาว วรญา สถิตพัฒนพันธ์ ก็ผ่านการศึกษามาแล้วทั้งจาก ประเทศไทยเอง อเมริกา และล่าสุด คือ ออสเตรเลีย ด้วยประสบการณ์มากมายในวัยเพียงเท่านี้ ซึ่งฝรั่งอาจเรียกว่า too much too soon ทีมงานคิดว่าน้องวาวน่าจะมาแบ่งปันให้เพื่อนๆน้องๆฟังกันได้ ถึงการใช้ชีวิตแบบแตกต่างในแต่ละสิ่งแวดล้อม รวมถึงข้อคิดดีๆด้านการศึกษา การทำงาน และการร่วมกิจกรรมต่างๆ เพื่อนำไปปรับใช้และเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ตัวเราเอง….. เอ้า! ด้วยระยะเวลาอันจำกัด ก่อนที่น้องวาวจะต้องรีบแพคกระเป๋า say goodbye to Sydney ไป เราไปฟังเรื่องราวของเธอต่อเลยดีกว่า
เริ่มตั้งแต่วัยเด็ก เข้าเรียนชั้นอนุบาลและประถมที่โรงเรียนเซนโยเซฟคอนแวนต์ 6 ปีต่อมาก็ศึกษาจนจบชั้นมัธยมปลายจากร่วมฤดี Internationnal school หลังจากนั้น การเดินทางที่แท้จริงของผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่งก็เริ่มขึ้น (และเป็นการเดินทางที่ไกลมากๆๆ)
“ตอนนั้นวาวลองสอบเข้ามหาวิทยาลัยในต่างประเทศดู แล้วก็ปรากฏว่าสอบติด Cornell University ตอนที่ทราบผลประกาศก็รู้สึกภูมิใจมาก เพราะที่นั่นเค้าเป็น Ivy League หรือมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลกเลยค่ะ” น้องวาวเล่าถึงจุดเริ่มต้นของชีวิตในต่างแดน “ตอนเรียนอยู่ที่นั่น การแข่งขันค่อนข้างสูง ทุกคนต้องเรียนแบบคร่ำเคร่งกันมาก พอเรียนที่นั่นได้สองปี วาวก็รู้สึกว่าอยากจะให้ตัวเองได้พักผ่อนบ้าง จึงตัดสินใจมาเรียนแลกเปลี่ยนที่ UNSW ในออสเตรเลียนี่แหละค่ะ ส่วนหนึ่งที่เลือกออสเตรเลีย เพราะวาวมีเพื่อนที่ซี้กันมากที่สุดอยู่ที่นี่ด้วย”
แล้วที่นั่นกับที่นี่ ระบบการศึกษาและชีวิตในรั้วมหาลัยต่างกันอย่างไรบ้างล่ะ? คิดว่าหลายๆคนคงอยากรู้
“วาวว่าcornell เป็นอะไรที่ดันให้ถึงลิมิตจริงๆ คนที่นั้นเรียนกันแบบสุดสุดเลย แต่ว่าเค้าทั้ง play hard and study hard อ่ะค่ะ ที่ UNSW ระบบมันต่างกัน แบบที่นั่นจะเก็บคะแนนเรื่อยๆ แต่ที่นี่จะเป็นศพตอนช่วงปลายเทอมทีเดียว(หัวเราะ) วาวว่ามันแตกต่างมากในทุกแง่มุมเลยก็ว่าได้ อยู่ที่อเมริกาก็ได้ใช้ชีวิตอีกแบบ อยู่ที่ซิดนีย์ก็ได้อะไรที่แปลกใหม่สุดๆ อาจจะเพราะที่นู่นอยู่กลางป่าเขา เลยค่อยได้ชีวิตแบบสีสันแบบที่นี่” น้องวาวอธิบายให้ฟังอย่างละเอียด “เพื่อนก็ต่างกัน ทีนี่ทำกิจกรรมมากกว่าเยอะ แบบ ท่องเที่ยว จัดงาน ไทยไนท์ นั่งเล่น ทำ TSA คือได้ทำอะไรเยอะมากๆ รู้สึกว่าไม่เคยได้อยู่นิ่ง ทั้งๆที่พึ่งมาแป็ปเดียว แต่ไม่อยากเชื่อว่าจะรู้สึกผูกพันได้มากขนาดนี้ …. ก็คงเพราะโชคดีได้เจอแต่คนดีๆที่นี่ด้วย”
อ้อ! เมื่อพูดถึง TSA หรือ Thai Student Association แล้ว เราก็ลืมบอกไปว่าน้องวาวเค้าเคยเป็นประธานชมรมนักเรียนไทยตอนอยู่ที่ Cornell ด้วย แถมตอนมาอยู่ที่ UNSW ก็ไม่พลาดที่จะเข้าไปช่วยงานของสมาคมฯที่นี่อีก (เอาพลังงานมาจากไหนกันนี่)
“กิจกรรมอันนึงที่วาวทำอยู่ทั้งที่นั่นและที่นี่ ก็สมาคมนักเรียนไทยอะค่ะ ที่จริงวาวก็เป็นประธานสมาคมนักเรียนไทยที่ Cornell แต่ตอนนี้ดันแอบหนีมาซิดนีย์ (หัวเราะ)” น้องวาวเล่าให้ฟังแบบเฮฮา “ที่นั่นมีคนไทยประมาณเจ็ดสิบคน เทียบกันซิดนีย์ คือ ตอนมาใหม่ๆนี่แอบสุดสุดเลย พอได้ยินเสียงคนไทย มันแบบหันขวับออโตมาติก แต่ที่นี่ หันจนเลิกหันแล้ว (หัวเราะ) ยิ่งตอนคอนเสิร์ท เป็นครั้งแรกที่คิดในใจว่า ‘…โอ ยังกับอยู่ไทยแลนด์เลย….”
นอกจากการเรียนและหน้าที่ในมหาวิทยาลัยแล้ว น้องวาวยังร่วมกิจกรรมต่างๆมากมายกับชุมชนคนไทยเราในซิดนีย์ เพื่อเก็บเกี่ยวและใช้เวลาที่มีอยู่ให้คุ้มค่าที่สุด หนึ่งในนั้นก็คือเรื่องของกีฬา ที่ล่าสุดเราอาจเคยผ่านตากันมาบ้างแล้วในหนังสือพิมพ์ไทยเพรส กับภาพบรรยากาศการแข่งขันแชร์บอลหญิง ที่หลายฝ่ายร่วมมือกันจัดขึ้น และน้องวาวได้นำทีม TSA (สมาคมนักเรียนไทยฯ) ไปคว้ารางวัลชนะเลิศอันดับสองมาครอง เห็นแบบนี้อะ เป็น Sport Girl ตัวจริงนะ เพราะตอนอยู่ที่อเมริกา น้องวาวก็ออกกำลังกายกับกีฬาโปรดอย่างสกีอยู่เป็นประจำ
“ตอนอยู่อเมริกา เมืองที่วาวพักอยู่ อุณภูมิจะอยู่ที่ประมาณติดลบ 20 องศาเลยค่ะ เรียกว่าหนาวแบบสุดๆ แต่ก็ดีตรงที่มีหิมะตกให้เล่นได้เกือบตลอดปีเลย ซึ่งวาวชอบเล่นสกีเป็นพิเศษค่ะ”
การกีฬา มันก็ต้องมาควบคู่กับการดนตรี จึงจะครบสูตรเด็กสมัยใหม่ จิตใจใฝ่ดี ซึ่งเห็นภาพลักษณ์เป็นสาวเก๋ เท่ห์ เฉี่ยว และเปรี้ยวขนาดนี้ หารู้ไม่ว่าน้องวาวเป็นนักเปียโนระดับชั้นครูคนนึงนะครับ เพราะน้องเค้าได้เรียนจากสถาบันดนตรีที่มีชื่อเสียงระดับโลกเลยทีเดียว
“วาวเรียนเปียโนมาตั้งแต่เด็กๆ ถึงตอนนี้ก็สิบกว่าปีมาแล้วค่ะ ตอนที่เรียนก็ได้ประกาศนียบัตรจากสถาบัน Trinity ในระดับแปด ปัจจุบันวาวก็ยังฝึกซ้อมอยู่เรื่อยๆ และเล่นทุกครั้งที่มีเวลาว่าง” น้องวาวเล่าถึงที่มาของความสามารถทางด้านดนตรี “แล้ววาวก็เคยรับจ้างสอนเปียโนให้เด็ก รวมถึงมีโอกาสได้ขึ้นไปเล่นบนเวทีคอนเสิร์ตประมาณสองสามครั้งด้วยค่ะ”
นอกจากนี้ ในส่วนของการทำงาน อย่างที่เกริ่นไปข้างต้นแล้วว่า ถึงแม้ว่าจะมาเยือนซิดนีย์เป็นช่วงเวลาสั้น น้องวาวก็ยังอุตส่าห์รวมกลุ่มกับเพื่อนๆ เพื่อทำหน้าที่ออร์กาไนเซอร์จัดงาน Thainight Party ‘นั่งเล่น’ อันเลื่องชื่อ ที่เพิ่งผ่านพ้นไปเมื่อประมาณเดือนที่แล้ว ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามจากบรรดานักสังสรรค์ อันเนื่องมาจากการตลาดที่มีประสิทธิภาพและทุ่มเท (ถ้าใครจำได้ ก็จะพอนึกออกว่ามีในช่วงนั้นคนกลุ่มนึง ใส่เสื้อ ‘นั่งเล่น’ และออกไปแปะโปสเตอร์ตามย่านไทยทาวน์ หนึ่งในนั้นก็คือน้องวาวนี่เองครับ ฮา) โดยทุกคนในทีมช่วยงานแต่ละส่วนกันคนละไม้ละมือ รวมถึงตัวน้องวาวเอง ซึ่งจะเน้นหนักหน่อยในเรื่องการประสานงานกับผู้คนที่เกี่ยวข้องในด้านต่างๆ
“งานนี้เป็นวาวก็ร่วมกับเพื่อนๆจัดกัน ซึ่งถือว่าได้เรียนรู้เยอะมากเลยค่ะ เพราะต้องไปพบปะผู้คน ต้องจัดการปัญหาต่างๆ ทั้งเรื่องการวางแผนงาน ตารางเวลา การประสานงานกับเจ้าของสถานที่ และที่ยากมากที่สุดคือการหาสปอนเซอร์ แล้วก็การออกแบบรวมถึงจัดพิมพ์โปสเตอร์โฆษณา” น้องวาวเล่าให้ฟังด้วยความภาคภูมิใจ “แน่นอนว่าระหว่างการทำงานอาจจะมีความขัดแย้งที่เกิดขึ้น รวมถึงอุปสรรคต่างๆที่ทำให้รู้สึกเหนื่อยและท้อบ้าง แต่เมื่อเห็นงานสำเร็จลุล่วงมาได้ด้วยดี ทุกคนก็แฮปปี้ โดยเฉพาะวาวจะรู้สึกตื่นเต้นและสนุกกับงานนี้มาก เพราะได้ประสบการณ์ที่คุ้มค่า และได้เห็นความร่วมมือร่วมใจกันของเพื่อนๆทุกคน แค่นี้ก็ดีใจที่สุดแล้วค่ะ”
ทั้ง Cornell และ University of New South Wales ต่างก็เป็นมหาวิทยาลัยแนวหน้าแห่งโลกการศึกษา ที่หลายๆคนใฝ่ฝันจะได้เข้าไปเรียน ไหนๆก็จะต้องลาไปแล้ว ทีมงานจึงอยากจะให้น้องวาวช่วยแนะนำหรือข้อคิดแก่เพื่อนๆในซิดนีย์ ถึงเรื่องของการสอบเข้าสักหน่อย พอเป็นวิทยาทานนำมาปรับใช้กันได้บ้าง
![]() |
![]() |
“ก็ตอนนั้นก็คงแอบฟลุ๊คเยอะเลย ที่อเมริกา นอกจากพวกคะแนน SAT และ TOEFL อะไรพวกนี้ เค้าดูจาก กิจกรรม และ Essay เยอะนะค่ะ ว่าเด็กคนนี้จะสามารถเข้ากับสิ่งที่สถาบันอยากได้หรือ เพิ่มอะไรให้ได้บ้าง ซึ่งจริงๆ วาวว่าก็ควรเขียนให้เป็นตัวเองมากที่สุด ซื่อสัตย์กับสิ่งที่เขียน อีกอย่างที่อยากแนะนำคือ ถ้าอยากจะเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยชั้นนำจริงๆ ต้องรีบค้นคว้าหาข้อมูล แล้วก็ให้เวลากับมันเยอะๆ เพราะว่าเค้าดูออกง่ายมาก ว่าใครอยากเข้าไปเรียนจริงๆ หรือใครเขียนแบบขอไปที และสิ่งที่สำคัญที่สุด คือ ตัวเราเองต้องรู้ว่าทำอะไรอยู่และทำไปเพื่ออะไร การมีแรงบันดาลใจ รวมทั้งเหตุผลที่หนักแน่นพอเป็นการสร้างแรงผลักดันที่ดีที่สุดค่ะ ยังไงก็ขอให้เพื่อนๆทุกคนประสบความสำเร็จนะคะ”
ด้วยเนื้อที่หน้าเว็บอันจำกัด ทำให้ทีมงานนำบทสัมภาษณ์น้องวาว ซึ่งเป็นดาวซึ่งกำลังเจิดจรัสดวงหนึ่ง มาลงให้อ่านกันแต่เพียงหอมปากหอมคอ น่าเสียดายที่ดาวดวงนี้กำลังจะโคจรไปยังที่อื่นต่อแล้ว นี่ยังไม่ได้พูดถึงเรื่องฝีมือการทำเบเกอรี่ซึ่งคนใกล้ตัวจะรู้กันดีว่า น้องวาวทำอร่อยอย่าบอกใคร หากหนุ่มๆคนใดได้ชิม จะต้องขอจองตัวกันเป็นแถว ก็คนอะไร จะเก่งไปหมด ทั้งด้านดนตรี กีฬา การทำงาน การเรียน รวมถึงเรื่องอาหารอีก แบบนี้เค้าเรียกว่าสมบูรณ์แบบทุกอย่าง เท่าที่ผู้หญิงคนนึงจะเป็นได้เลยนะเนี่ย……!
แต่ถึงอย่างไรนั่นก็คือเศษเสี้ยวของประสบการณ์โดยรวม ที่น้องแววสละเวลามาถ่ายทอด เล่าสู่กันฟัง ฝากไว้ให้พวกเราชาวซิดนีย์ได้คิดถึงและจดจำ เผื่อวันใดวันหนึ่งเมื่อโอกาสอำนวย น้องวาวอาจจะได้กลับมาเยือนที่นี่อีกครั้ง พร้อมกับมาร่วมแชร์เรื่องราวน่าสนใจให้ฟังกันอีก แต่ตอนนี้พวกเราคงต้องตะโกนเป็นเสียงเดียวกันแล้วว่า “We gonna miss you, Vow!!!!”