ย้อนอดีตและเวลากลับไปเมื่อครั้งที่กัปตัน ฟิลิป เข้ามาถึงอ่าวซิดนีย์เมื่อวันที่ 21 มกราคม ปี 1788... หลังจากที่พักค้างคืนที่ Camp Cove วันรุ่งขึ้นเขาได้ใช้เรือยาวแล่นออกไปสำรวจบริเวณชายฝั่งรอบๆอ่าว และเขียนรายงานส่งกลับไปยังอังกฤษในวันรุ่งขึ้นว่า…… “เรือของเราแล่นเข้าไปใกล้ชายฝั่ง มีชายฉกรรจ์กลุ่มใหญ่มองเห็นพวกเราอยู่บนเรือ ชายฉกกรรจ์ 20 คนในจำนวนนั้นกระโดดลงไปในน้ำโดยไม่มีอาวุธติดตัวมา พวกเขารับของขวัญที่เรานำมาให้และทำการสำรวจเรือของเราด้วยความสงสัยอยากรู้ ซึ่งทำให้ผมมีความนับถือพวกเขามากขึ้น ...... จากลักษณะท่าทางของพวกเขาที่เต็มไปด้วยความมั่นใจและมาดมั่นสมชายชาตรี ผมจึงตั้งชื่อสถานที่แห่งนี้ว่า.. Manly”…….ทีนี้ก็รู้แล้วนะจ๊ะว่าชื่อเก๋ไก๋นั้นมีที่มาอย่างไร
สิ่งที่ทำให้นักท่องเที่ยวรวมถึงฉันด้วยประหลาดใจมากที่สุดเมื่อมาถึงเมืองชายทะเลอย่าง Manly ก็คือจนถึงปัจจุบันนี้ ทางการยังไม่อนุญาติให้มีการอาบน้ำในที่สาธารณะที่ชายหาดแห่งนี้ในระหว่างเวลา 6 โมงเช้าถึง 2 ทุ่ม ด้วยเหตุผลว่าเป็นที่สาธารณะไม่สมควรที่ใครจะมาอาบน้ำประเจิดประเจ้อกันที่นี่จ๊ะ ถ้าใครอยากจะอาบกันจริงๆก็ต้องก่อนหรือหลังเวลาที่กำหนด เคยมีคนลองดีท้าทายทางการเหมือนกันนะ นาย William Gocher ซึ่งเป็นบรรณาธิการของหนังสือพิมพ์ the Manly and North Shore News ประกาศในหนังสือพิมพ์ของเขาในเดือน ตุลาคม 1902 ว่า เขาจะออกมาอาบน้ำในช่วงกลางวัน ผลจะเป็นอย่างไรก็ช่าง...มัน นาย Gocher ถูกจับแต่ไม่ถูกปรับ หลังจากนั้นมีการรนณรงค์เรื่องนี้แต่ก็ไม่เป็นผล
เล่าเรื่องราวเกร็ดเล็กๆของความเป็นมาของเมืองพอหอมปากหอมคอ ทีนี้เรามาทัวร์เมืองกันเลยดีกว่า จุดเริ่มต้นที่ดีที่สุดสำหรับนักท่องเที่ยวน่าจะเป็นที่ศูนย์ข้อมูลการท่องเที่ยวของ Manly เอง ที่ท่าเรือ ฉันหยิบแผนที่ที่แจกฟรีมาดู มีคำแนะนำสถานที่น่าสนใจหลายแห่ง สำหรับผู้ที่ชื่นชอบดนตรีประเภทแจ๊สต้องไม่พลาด Manly Jazz Festival ที่จัดแสดงในเดือนตุลาคมของทุกปี เทศกาลที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวและศิลปินมารวมกันบนชายหาดที่ยาวเหยียด พร้อมร่วมปาร์ตี้และฟังเพลงกันอย่างอิ่มเอม เสียดายที่ฉันมาที่นี่ก่อนที่มหกรรมดนตรีจะเริ่มเพียงสัปดาห์เดียว เลยอดดู
ถ้ามองดูในแผนที่หรือภาพถ่ายจากมุมสูง จะเห็นว่าพื้นที่ตรงส่วนกลางของ Manly ซึ่งเป็นที่ตั้งของย่านธุรกิจหลักของที่นี่ มีภูมิประเทศค่อนข้างแบนๆ ไม่มีภูเขาสูงมาบดบังสายตา มีส่วนเว้าของชายฝั่งสองข้างระหว่างมหาสมุทรแปซิฟิคและอ่างซิดนีย์ กั้นน้ำทะเลสีเข้มจัดคล้ายภูมิประเทศที่เกาะพีพี แต่ขนาดใหญ่กว่า ส่วนเว้าของอ่าว 2-3 แห่งในอีกด้านหนึ่งเป็นท่าจอดเรือใบ เรือใบลำเล็กลำน้อยนอกฝั่งแต่งแต้มผืนน้ำทะเลให้มีสีสันแปลกตา เมื่อเดินอยู่ในเมืองไปตามถนน The Corsa มองเห็นตึกรามบ้านช่องเรียงรายแต่ไม่สูงมาก ตึกส่วนใหญ่เป็นสถาปัตยกรรมแบบยุโรปโบราณที่ยังคงความสวยงามและยืนยงผ่านกาลเวลามานานนับศตวรรษ เผลอให้ความรู้สึกเหมือนเดินอยู่ในมืองสวยๆของยุโรปยังไงอย่างนั้น
Manly Beach ในวันที่ฟ้าใส แดดส่อง มีทัศนียภาพที่สวยงาม เป็นชายหาดสำหรับวันหยุดของครอบครัว ตัวหาดทอดตัวเป็นแนวยาวไปตามชายฝั่งตัดกับเส้นฟ้าครามใสน่าอัศจรรย์ใจยิ่ง ทะเลที่เห็นน้ำคงใสสะอาดเพราะประกายเขียวที่สะท้อนแสงดูเจิดจ้า ทะเลอยู่เลียบถนนที่รถวิ่งผ่านไปมา ระหว่างตึกกับชายหาดมีถนนและสวนขนาดย่อมๆสีเขียวขจีกั้นกลาง ทำให้ผู้มาเยือนสามารถเข้าไปเดินกินลม ชมอ่าว ชื่นชมใกล้ชิดกับชายหาดได้อย่างสะดวก
ฉันชอบทะเล หลงรักแสงแดด สายลม และเสียงคลื่น เวลานั่งดูทะเลแล้วรู้สึกอารมย์ดี แต่ทะเลหลายๆที่ที่ไปเยือนในเมืองไทยก็มีเหตุให้หงุดหงิดอยู่บ่อยๆ ฉันไม่ค่อยเข้าใจ และไม่ชอบใจที่มีอาคารบ้านเรือนทั้งหลังเล็กหลังใหญ่ คอนโดมิเนียม ภัตตาคาร ปลูกสร้างกีดขวางไม่ให้สาธารณชนลงไปที่ชายหาดได้อย่างสะดวก มีการถือสิทธิ์ครอบครองที่ดินติดชายทะเล และห้ามไม่ให้ใครผ่านที่ดินของตนลงไปที่ชายหาด ไม่รู้เหมือนกันว่าทางการยอมให้เกิดการผูกขาดวิวทิวทัศน์สาธารณะเพื่อประโยชน์ของคนส่วนน้อยแค่หยิบมือได้อย่างไร อนาคตการท่องเที่ยวจะก้าวหน้าได้อย่างไรเมื่อคนรวยไม่กี่คนเท่านั้นจึงจะมีสิทธิ์เข้าถึง
ท่ามกลางความบริสุทธิ์ของธรรมชาติ ความอ่อนโยนของผืนทราย เมื่อเอนกายลงนั่งบนหาด ไม่ว่ามุมไหนก็จะเห็นภูมิทัศน์เย็นตาของท้องทะเลผืนกว้างและแสงแดดอ่อนสะท้อนประกายคลื่น ผู้คนทุกวัยในชุดว่ายน้ำปูผ้าหลากสีนอนทอดหุ่ยอาบแดดอย่างสบายอารมณ์ ชื่นชมกับการให้ผิวกายถูกโลมเลียด้วยแสงอาทิตย์ ต่างกับคนในบ้านเราที่กลัวแดดจริงจัง เห็นหนุ่มสาวออสซี่หลายคนใส่แว่นตาดำอันโตอ่านหนังสือกลางแดดริมชายหาดเคล้าเสียงคลื่นได้นานๆ คนกลุ่มใหญ่เลือกลงไปลอยคลอในทะเล สายน้ำและความเย็น.... ความสุขที่ไม่ไกลเกินกว่าจะเอื้อม
การลงเล่นน้ำทะเลบนชายหาดแห่งนี้จะมีหน่วยช่วยชีวิตคอยเตือน ตรวจตรา และระแวดระวังในกรณีที่มีอุบัติเหตุหรือต้องการความช่วยเหลือ สำหรับคนที่เคยเห็นการเซริฟเฉพาะในทีวีและอยากเห็นของจริงก็ให้เดินมาอีกอึดใจใหญ่ๆ การเล่นเซริฟมีให้เห็นทางด้านเหนือของ Manly Beach จ๊ะ
จากท่าเรือคุณอาจจะนั่งรถโดยสารมาอีก 4 กิโลเมตรเข้าสู่ North Head ตอนนี้คุณอยู่ที่ส่วนบนสุดของหน้าผา (Cliff) ที่สามารถมองข้ามทะเลตรงไปที่ด้านเหนือของอ่าวซิดนีย์ จากจุดที่ฉันยืนอยู่ ไม่อยากเชื่อถึงความกว้างใหญ่ไพศาลที่สุดลูกหูลูกตาห่างไกลจากทุกๆที่ เสียงคลื่นสาดซัดโขดหินด้านล่างฟังดูน่ากลัวพิกล ไกลออกไปในทะเล เรือใบลำน้อยหันข้างให้ฝั่ง แหวกคลื่นลมไปข้างหน้าสู่จุดหมายที่ฉันไม่อาจคาดเดา นกทะเลหลายตัวบินโฉบเฉี่ยวไปมาจ้องหาจังหวะจับปลาเบื้องล่าง อีกด้านหนึ่งของโขดหินมีเรือใบแล่นโค้งตัดเข้ามเข้ามาที่หาดเหมือนภาพวาดในโปสการ์ดสวยๆ น่าอิจฉาที่ผู้คนที่นี่ ดูเขามีชีวิตที่ดีและได้สูดอากาศบริสุทธิ์ทุกลมหายใจทีเดียว
อากาศเริ่มเย็นขึ้นเรื่อยๆ เผลอเพียงครู่เดียวราตรีก็มาเยือนอีกครั้ง ท้องฟ้าโปร่งไม่มีเมฒมาบดบัง ดาวนับล้านดวงเจิดจรัสอยู่บนฟากฟ้า เป็นการบอกลาการเดินทางที่เหนื่อยล้ามาทั้งวันเพื่อเข้าสู่อ้อมกอดแห่งราตรีอันเปี่ยมสุข
ค่ำคืนนี้จะสมบูรณ์ไม่ได้หากคุณไม่ได้ดินเนอร์ที่นี่ก่อนกลับซิดนีย์ ลองเลือกภัตตาคารที่แนะนำในโบรชัวร์ของการท่องเที่ยว อาหารมีหลากหลายทั้งราคาและรสชาดให้คุณเลือกได้ อาหารทะเลของที่นี่ขึ้นชื่อและน่าลองลิ้ม ลองดื่มไวน์สีฉ่ำชวนให้ดื่มด่ำไปกับกลิ่นอายทะเลและเกลียวคลื่น หลังอาหาร นั่งจิบชากาแฟกับคนรู้ใจในคาเฟ่ฮิปๆสักแห่งใต้แสงเทียนประกายนุ่มนวลชวนซาบซึ้ง เปี่ยมสุขเหลือล้นจนโต๊ะข้างๆต้องอิจฉา ก่อนข้ามเรือกลับไปที่พัก
อ้อยอิ่งกับการอาบน้ำอุ่นจัด ปล่อยให้สายน้ำนวดหลังไหล่ไล่ความเมื่อยล้า ชโลมครีมทาผิวให้ทั่วตัว ปรนนิบัตินวดเบาๆให้เท้าได้พัก ก่อนจะล้มตัวลงบนที่นอนนุ่มหนาใต้ผ้าห่มผืนโต และ... Good night … ราตรีสวัสดิ์ … ฝันดีจ๊ะ
ขอขอบคุณบทความดี ๆ จาก Supawan :www.oknation.net
ภาพประกอบจาก Internet
****สามารถเดินทางไป Manly Beach โดยเรือเฟอรี่ที่ท่าเรือ Circular Quay หมายเลข 3 ใช้เวลาเดินทางแค่ 30 นาทีนะจ๊ะ*****
ชอบเที่ยว ชอบขีด ชอบเขียนเรื่องราวอย่าเก็บไว้คนเดียว แชร์ประสบการณ์ส่งมาได้ที่ natt@natui.com.au