2024-05-19

ผลจากยาคุมฉุกเฉิน




 

 

#news#

คำถาม

ดิฉันอายุ 45 ปี มีลูกแล้ว 2 คน ดิฉันกับแฟนอยู่กันคนละจังหวัด แฟนอยู่ใต้ ส่วนดิฉันอยู่กรุงเทพฯ 1-2 เดือนจะเจอกัน 1-2 ครั้ง เวลามีเพศสัมพันธ์กันก็จะเป็นฝ่ายทานยาคุมฉุกเฉิน แต่พอหลังจากมีเพศสัมพันธ์ก็จะมีเลือดออกคล้ายประจำเดือน แต่ไม่ใช่ประจำเดือน เลือดที่ว่าเกิดจากอะไร แล้วจะมีอันตรายอะไรหรือเปล่าคะ จาก...กุ้ง สุพรรณบุรี


คำตอบ

ยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน หรือยาคุมชั่วคราว เป็นยา ที่มีส่วนประกอบเหมือนยาคุมกำเนิดแบบธรรมดา แต่มีปริมาณยามากกว่าแบบฮอร์โมนผสม ซึ่งประกอบด้วย ฮอร์โมนเอสโตรเจน และโปรเจสติน รวมกัน และอีกชนิดเป็นแบบฮอร์โมนเดี่ยว

ซึ่งมีฮอร์โมนโปรเจสติน เพียงอย่างเดียว ยาเม็ดคุมกำเนิดแบบฮอร์โมนเดี่ยว มีข้อดีคือ มีประสิทธิภาพ ในการป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 85 เปอร์เซ็นต์

ซึ่งมากกว่าแบบฮอร์โมนผสม ซึ่งมีประสิทธิภาพ เพียง 75 เปอร์เซ็นต์และมีผลข้างเคียงเช่นคลื่นไส้อาเจียนน้อยกว่า

ยาคุมกำเนิดฉุกเฉินหรือยาคุมชั่วคราว จะมีคุณสมบัติเข้าไปขัดขวาง การตกไข่ หรือทำให้การตกของไข่ล่าช้าไปกว่าเดิม

ทำให้มีการโบกพัดขนอ่อนของปีกมดลูกไม่ดีและอาจมีผลทำให้เนื้อเยื่อของผนังมดลูกที่กำลังก่อตัวหนาขึ้น



ทำให้ผนังเยื่อบุโพรงมดลูกไม่พร้อมต่อการฝังตัวและจะไปขัดขวางการผสมระหว่างไข่กับอสุจิโดยตรง ซึ่งคุณสมบัติของยาเม็ดคุมกำเนิดแบบฉุกเฉินอาจจะทำให้เกิดการตั้งครรภ์นอกโพรงมดลูกได้

โดยทั่วไปเมื่อเกิดกรณีฉุกเฉิน จะรับประทานเม็ดแรกภายใน 72 ชั่วโมง หรือภายใน 3 วัน และรับประทานเม็ดที่ 2 หลังจากนั้นอีก 12 ชั่วโมง สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ถึง 75-85 เปอร์เซ็นต์

ปัญหาที่เกิดขึ้นในปัจจุบันก็คือ ได้มีผู้หันมานิยมใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉิน แทนการคุมกำเนิดแบบปกติ ซึ่งวิธีดังกล่าว

เสี่ยงต่อการตั้งครรภ์นอกโพรงมดลูกและเสี่ยงต่อการที่มีเลือดออกกระปริดกระปรอย ทั้งยังเป็นอันตรายต่อผู้ใช้มากกว่า ที่สำคัญ ผู้ใช้ส่วนใหญ่ ไม่มีความรู้ เกี่ยวกับ การใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉินมากพอ




เมื่อรับประทานยาคุมฉุกเฉินนี้ไป 2-3 วัน ก็อาจจะทำให้เลือดออกได้ เพราะยาคุมฉุกเฉินจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของผนังเยื่อบุโพรงมดลูกทำให้ผนังเยื่อบุโพรงมดลูกมีการหลุดลอก

ฉะนั้นคนที่ทานยาคุมฉุกเฉินนี้เกิน 4 เม็ดต่อเดือน ก็จะทำให้การมาของประจำเดือนรวนได้ หรือมีเลือดออกผิดปกติได้

แต่ถามว่าเลือดที่ออกมานั้นอันตรายหรือเปล่า เมื่อดูจากอายุ 45 ปี คงต้องกลับมาดูว่าบางทีเลือดที่ออกอาจเกิดจากสาเหตุอื่นแอบแฝงหรือเปล่า อันดับแรกคงต้องสำรวจตัวเองว่าหากไม่ได้ทานยาเม็ดคุมกำเนิดแบบฉุกเฉินประจำเดือนมาปกติหรือเปล่า

ถ้าหากประจำเดือนมาปกติในช่วงที่ไม่ได้ทานยา แต่พอรับประทานยาแล้วมีเลือดประจำเดือนผิดปกติออกกระปริดกระปรอยนั่นก็แสดงว่าน่าจะเป็นผลจากยา

ด้วยวัย 45 ปีอาจจะมีสภาวะบางอย่างที่ทำให้เกิดปัญหาของการที่มีเลือดออกผิดปกติได้เช่นเยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัวผิดปกติที่อาจจะก่อให้เกิดมะเร็งของโพรงมดลูกหรือไม่คงต้องทำการขูดมดลูกเพื่อดูผนังเยื่อบุรอยต่อของปากมดลูกกับผนังโพรงมดลูกและเยื่อบุโพรงมดลูกข้างในถึงจะทราบ


หรือเลือดที่ออกผิดปกติอาจจะเป็นจากส่วนอื่นที่ไม่ใช่โพรงมดลูกเช่น เป็นจากปากมดลูกอักเสบปากมดลูกมีแผลหรืออาจจะเป็นมะเร็งของปากมดลูกหรือไม่คงต้องตรวจภายในและเช็กมะเร็งปากมดลูกถึงจะทราบปัญหา

ในกรณีนี้ หากมีบุตรแล้วและไม่ต้องการมีบุตรอีก คุณหมออยากให้เปลี่ยนวิธีการคุมกำเนิด โดยการให้ฝ่ายชายทำหมัน หรือฝ่ายหญิงทำหมัน หรือหากยังอยากที่จะมีบุตรก็คงต้องให้สามีสวมถุงยางอนามัย หรือไม่คุณผู้หญิงก็ต้องรับประทานยาคุมกำเนิดแบบต่อเนื่อง

หรือฉีดยาคุมกำเนิด น่าจะดีกว่าการรับประทานยาคุมฉุกเฉินที่มีผลข้างเคียงต่อคุณผู้หญิง และบางครั้งอาจพลาด แล้วเกิดการตั้งครรภ์ได้...


ขอขอบคุณบทความดี ๆ จาก www.sanook.com

NATUI Officially 2009-07-01 20:19:39 26154