#news#
ในครั้งนี้มีแขกกิตติมศักดิ์มาเยี่ยม มาเยียนกันค่อนข้างเยอะ เนื่องจากสภาพอากาศที่เมืองไทยที่แสนจะร้อนอบอ้าว หรือจะเรียกว่าเป็นฤดูร้อนที่สุด ถัดจากฤดูร้อน และฤดูร้อนมาก ตรงกับช่วงเทศกาลสงกรานต์ ที่มีวันหยุดยาวหลายวัน บรรดาเพื่อน พี่น้อง ญาติโก โหติกา ก็จัดกระเป๋าเตรียมกันมาหาความหนาวถึงออสเตรเลีย แดนจิงโจ้ ที่ช่วงนั้นก็เป็นเทพสามฤดู จะร้อน จะฝน จะหนาว ปะปนกันไป แล้วแต่ฟ้าประทานมาว่าวันนี้จะดลบันดาลว่าให้มีสภาพอากาศเช่นไร
#news#
เริ่มจากทริปแรก เพื่อนรัก รักเพื่อน เพื่อนสนิท ที่รู้จักร่วมเรียนกันมาตั้งแต่ชั้นอนุบาล นับรวมเวลากว่า 20 ปี ที่รู้จักกัน อาจจะมีห่างหายกันบ้างเป็นบางเวลา แต่พอมาเจอกันอีกที เหมือนไม่ต่อก็ติด เหมือนหมากฝรั่งลอตเต้ (ไหน ไหน เกริ่นมาก็โฆษณาแล้วก็โฆษณาตั้งแต่ต้นจนจบละกัน จับตาดูว่ามีใครได้รับผลประโยชน์ไปบ้าง)
#news#
และเพื่อนคนนี้ก็ได้ติดต่อมาจากการเครียดในการทำงานมานานเลยขอ Holiday มาหาประสบการณ์ใหม่ ๆ ใช่ว่าเราจะไม่เคยไปเที่ยวกันมาก่อน แต่จะว่าไปมันก็นานโข ตั้งแต่เป็น Freshly ปีหนึ่งเพื่อนกัน และวันอัศจรรย์ของผม ได้ไปเที่ยวแบบ back packer นั่งรถไฟไปหัวหินแล้วก็โบกรถเที่ยวไปทั่ว คิดถึงแล้วสนุกดีพิลึก ทำไปได้ แต่ด้วยใจรักเที่ยวซะอย่างอะไรก็เอาไม่อยู่ จากนั้นต่างคนต่างต้องไปทำภารกิจทั้งเรียน ทั้งทำงานที่แตกต่างกันไป หลังจากตกลงว่าสหายจะมาเที่ยวทั้งที เราเจ้าถิ่น ที่คุ้นกับซิดนีย์มาห้าปี ก็ต้องวางแผนว่าจะพาคุณเพื่อนไปตะลอนที่ไหนดี
#news#
หนึ่งในสถานที่ยอดนิยมคงจะหนีไม่พ้นหินสามแหง่งที่ตั้งอยู่ท่ามกลางขุนเขาสีน้ำเงิน ยังไงไม่รู้ แต่เหมือนที่บอกว่าไม่ไป เหมือนกับมาไม่ถึงซิดนีย์ ก็ไม่รู้ว่าเอาอะไรมาวัด ถ้าเป็นยังงั้นก็จัดให้ไป Blue Mountain Trip เป็นหนึ่งในตารางการท่องเที่ยวของเรา การตามล่าหาสาวสาม Three Sisters จะเป็นเช่นไร จะสาว จะสวยสมค่ำร่ำลือ หรือไหม จะขาว จะดำ จะหมวย จะแหม่ม ต้องติดตามว่าเป็นเช่นไร
#news#
เส้นทางไป Blue Mountain นั้นจะตรงดิ่งไปหาสามสาวก็ใช่เหตุ เพราะระยะทางกว่า 2 ชั่วโมง ในการเดินทางโดยรถยนต์ หรือหากใครอยากลองนั่งรถไฟชมวิว ชิว ๆ เกือบสามชั่วโมง จาก Central Station สู่ Katoomba โดย City Rail แต่ต้องนั่งรถต่อไปยัง Echo point เพื่อไปยังจุดชมวิว ซึ่งไม่ใช่ Echo Karaoke ไทยที่เรา ๆ ท่านคุ้นเคยเป็นอย่างดี สำหรับผู้ที่สนใจสามารถซื้อตั๋วไป – กลับได้ที่สถานีรถไฟ เผื่อเวลาไปกลับให้ดี ๆ ด้วย เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาในการดื่มด่ำกับธรรมชาติ ในเส้นทางเดียวกันสถานที่ที่น่าสนใจและไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่งนั่นคือ สวนสัตว์ featherdale wildlife park ที่อยู่ในเมือง Black Town หากใครเดินทางโดยรถไฟให้ลงสถานที่ว่าแล้วต่อรถประจำทางสาย 725 นั่งไปอีก 15 นาที ไม่นับรวม 45 นาที ที่นั่งรถไฟมากตัวเมืองซิดนีย์ หรืออยากทราบรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.featherdale.com.au ของเค้ามี face book ด้วยนะทันสมัยใช่หยอก
#news#
อะไรที่เป็นจุดแตกต่างจาก TARONGA ZOO กับ featherdale wildlife park นั่นคือ เราสามารถใกล้ชิดกับบรรดาสัตว์สัญลักษณ์ของประทศออสเตรเลียไม่ว่าจะเป็นจิงโจ้ หรือหมีโคอาล่าแบบแนบเนื้อ เพราะถ้าไปที่ TARONGA ZOO คุณจะได้แค่ดู ดูและ have a look เท่านั้น เพราะฉะนั้นไม่ควรพลาดที่จะแวะชมสวนสัตว์แห่งนี้ ค่าเข้าชมก็ราคาไม่สูงมาก เคยมาครั้งแรกเมื่อเรียนภาษาใหม่ ๆ ด้วยสนนราคาเพียง $10 เท่านั้นในราคานักเรียน เมื่อหลายปีก่อนปัจจุบันเพิ่มขึ้นแล้ว ดูรายละเอียดในเว็บไซต์ได้เลย
#news#
เพียงก้าวแรก ที่ย่างกรายเข้าสู่ประตูสวนสัตว์ สัตว์ตัวเล็ก ตัวน้อยวิ่งกันยัวะเยี้ย เดินชนกันไป เตะกันมา จิงโจ้น้อย คอยต้อนรับทุกท่านอยู่ บางตัวนอนอาบแดด บางตัวกระโดดหนีไปเรื่อย ๆ นางแบบของเราได้ที ถ่ายรูปคู่กับตัวนู้นที ตัวนี้ที เอาเป็นว่ามาถึงออสเตรเลียโดยสดุดี เพราะอย่างน้อยมีรูปมาโชว์หลา ว่ามาถึงจริง เมื่อเจอจิงโจ้แล้วโคอาล่าจะน้อยใจ หมีที่ไม่ใช่หมี เพราะว่าไม่มีอะไรที่เกี่ยวสายพันธุ์หมีเลย มีเพียงรูปร่างที่ดูน่ารัก หน้าง่วงตลอดเวลา ใช้เวลานอนมากถึง 18 ชั่วโมงต่อวัน เป็นสัตว์แสนขี้เกียจ ตื่นมาก็กินใบยูคาลิปตัส ชีวิตช่างแสนสบาย อยากจะเกิดเป็นโคอาล่าซะจริง
#news#
ถัดมาอีกนิด เจ้าหน้าที่กำลังให้อาหารนกเพนกวินตัวเล็กน่ารัก เดินออกมาเป็นฝูงต่างกันตรงที่ข้อเท้าหลากสีมีชื่อเล่นด้วยนะเออ เอากะเค้าสิ นึกถึงเรื่อง happy feet เลยทีเดียว เราใช้เวลาในสวนสัตว์ค่อนข้างนาน สัตว์แปลกที่ไม่เคยเห็นที่เมืองไทยก็จะมีให้เห็นได้ที่นี่ อย่างตัว Dingo ก็เหมือนไอ้ดิกกี้ หมาที่เลี้ยงไว้ตอนเด็ก ๆ เปี๊ยบก็หาเจอได้ที่นี่เช่นกัน และอื่น ๆ อีกมากมายเกินคำบรรยาย ต้องหาโอกาสไปชมกันเองนะครับ
#news#
ห่างจากสวนสัตว์เพียงชั่วโมงกว่าก็จะได้เวลายลโฉมสามสาว สาว สาว 3 sister ว่าเธอนั้นจะเป็นเช่นไร ใจสั่นระทึกเหมือนกับว่าจะเห็นสิ่งมหัศจรรย์อันดับ 8 ของโลก แค่ลงจากรถก็เจอผู้คนมากมายที่จะมาชมปรากฏการณ์ดังกล่าว สิ่งแรกที่ได้สัมผัสคือเทือกเขาสีเขียวที่รายล้อมไปทั่วบริเวณอุทยานแห่งนี้
#news#
ถ้าจะเทียบกับเขาใหญ่ที่เขียวชอุ่ม ชุ่มชื่น สดชื่นมาก เหลือบไปทางด้านซ้ายก็เจอะสามสาวที่ยืนตระหง่าน สูงระหง โดดเด่นมากท่ามกลางแมกไม้สีเขียว หากใครอยากเข้าไประยะประชิดตัวสามสาว ก็สามารถทำได้เพราะสามสาวได้ทอดสะพานเล็ก ๆ ให้เข้าไปหาด้วยความอบอุ่น แต่ขอบอกไว้ก่อนว่าเหมาะสำหรับผู้ที่อึด ทึก นรกเท่านั้น เพราะเส้นทางที่จะไปหาสามสาวนั้นค่อนข้างทรหดเล็กน้อย คดเคี้ยวสูงชัน เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบกีฬา Extreme เป็นอย่างยิ่ง
#news#
พอเราได้ยลโฉมสามสาวจนจุใจแล้ว สิ่งหนึ่งที่จะต้องไปต่อนั่นคือ SCENIC WORLD BLUE MOUNTAINS AUSTRALIA ดูรายละเอียดได้ที่ http://www.scenicworld.com.au/ และเป็นจุดที่เรามาปิกนิกกันก่อนที่จะตะลุยกันต่อ เพราะว่าอาหารการกินของที่ Blue mt.นั้นไม่ใช่เจ้าถิ่นจะไม่รู้เลยว่าอะไรอร่อย เพราะฉะนั้นข้าวกล่องเท่านั้นที่จะช่วยเราได้ เมื่อท้องอิ่มกองทัพก็เริ่มเดินทางต่อไปได้ ก่อนจะไปผจญภัยเราก็จ่ายค่าเสียหายในการเข้าชม เพราะมีอีก 4 เส้นทางคือ Railway , Walkway , Cableway และ Skyway
#news#
เริ่มจาก Railway รถรางที่มีความลาดชันมากที่สุดในโลก คิดว่ามาเที่ยวแดนเนรมิตนั่งรถรางเหาะตีลังกาละกัน ในช่วงเวลาแค่อึดใจก็ถึงพื้นที่ที่ให้เราสำรวจระบบนิเวศว่าเป็นอย่างไรนั่นคือ Walkway เดินชมป่าเขา ลำเนาไพร ประวัติศาสตร์ที่เคยทำเหมืองแร่ด้วยนะเออ หากใครอยากศึกษาให้ลึกซึ้งก็มีสองเส้นทางที่แตกต่างกันไปทั้ง 15 นาที และ 35 นาที แต่อย่าเดินออกนอกลู่ นอกทาง จนพลัดหลงเป็นข่าวอยู่บ่อย ๆ
#news#
เมื่อลงไปแล้วก็จะขึ้นเป็นธรรมดา ลำบาก ลำบนหน่อยต้องขึ้น Cableway ที่ดึงเราขึ้นไปบน SCENIC WORLD อีกครั้ง เพื่อเปลี่ยนไปยังจุดสุดท้ายนั่นคือ Skyway ที่เป็นไฮไลท์เลยทีเดียวก็ว่าได้ เพราะคุณได้ชมสายน้ำตกที่ไหลผ่านหน้าผา สวยงามเกินคำบรรยาย ทั้งยังสามารถมองทะลุพื้นด้านล่างที่ทำด้วยกระจกชนิดพิเศษ ทำให้มองเห็นผืนป่าได้อย่างอัศจรรย์ใจ หากไปถึงอีกฝั่งก็สามารถไปดูจุดชมวิวได้ หรือหากจะไปดูน้ำตกก็สามารถเดินไปได้ไม่ไกลอย่างที่คิด
#news#
ทริปนี้ก็จบด้วยความประทับใจของคุณเพื่อนที่ enjoy ถ่ายรูปแค่ 300 กว่ารูป เล่นเอาแบตเตอรี่หมดเลยทีเดียว ต้องทำใจนิดนึงเพราะมากับนางแบบกิตติมศักดิ์ที่มาสร้างสีสันให้กับการเดินทางครั้งนี้ทำให้ชีวิตมีชีวาขึ้นมาอีกโข ต้องขอขอบคุณเป็นอย่างยิ่ง ที่อุตส่าห์ข้ามน้ำ ข้ามทะเลมาเยี่ยม มาเยียน แต่ขอบอกว่ายังมีอีกหลายที่ ที่อยากนำเสนอไว้กลับมาคราวหน้าจะพา on tour แบบ non stop อีกที เตรียมจัดคิวไว้ให้เลยละกัน แล้วจะพาไปตะลอน กับ ต๊อกตะลอนทัวร์ นะครับ
