เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก ดูซิยังไม่ทันได้จัดกระเป๋าไปไหนเลย ท่าน บก. ก็ได้เวลาทวงต้นฉบับอีกแล้ว งานนี้ไม่อู้นะ เพราะมีกระแสตอบรับจากท่านผู้อ่าน ThaiPress กันอย่างล้นหลาม บานตะไท ยิ่งได้รับกำลังใจจากทุกคน ยิ่งทำให้ฮึดมากขึ้นไปอีก งั้นก็ต้องไปติดตามต๊อก ตะลอนทัวร์กันต่อดีกว่า
สำหรับในทริปนี้ เรียกได้ว่าเป็นทริปพันปี เอ่อ... ที่เรียกอย่างนี้ก็เพราะว่า รวบรวมนั่งนับนิ้วที่มีไม่พอ ขอเครื่องคิดเลขด่วน กดไป กดมา อายุอานามก็ร่วมพันขาดไปนิดหน่อย แต่ถึงกระนั้น ทางชมรมของเราก็ไม่ได้มีชื่อน่าเก็บไว้ในพิพิธภัณฑ์ขนาดนั้น เพราะว่าชื่อชมรมของเราคือ "ชมรมดอกไม้บาน" เน้นบานนะไม่ใช่ยาน ฮั่นแน่!! สงสัยละซิว่าทำไมตั้งชื่อชมรมซะวัยแรกรุ่นขนาดนี้ แต่ขอบอกเป็นเพราะว่าอุปนิสัยใจคอต่างหากหละ ที่ได้ก่อตั้งชมรมนี้ขึ้นมา เพราะทุกคนในชมรมล้วนอารมณ์ดี สุขภาพแข็งแรงสามารถเดินทางท่องเที่ยวไปได้อย่างเต็มที่ เปรียบประดุจว่าเป็นดอกไม้แรกผลิเลยทีเดียว
สตาร์ทออกเดินทางโดยมีเป้าหมายไปที่วูลลองกอง เตรียมตัวไปปิคนิคกันเตรียมเสบียงไปเพียบเช่นเคย ไม่ว่าจะหมูปิ้งรสเด็ด คอหมูย่าง ขาดไม่ได้เลยคือข้าวเหนียว นี่ก็ขาดเฉพาะส้มตำ แต่เกรงว่าจะเซ็งก่อนที่จะโซ้ย เป็นอันต้องอดไป สำหรับทริปนี้น้อยลงมาเยอะโดยมี 5 จตุรเทพ กับอีก 5 สาว (น้อย) angel ร่วมเดินทางไปด้วยกันโดยแบ่งเป็นสองทีมเพื่อตามหา RC ระหว่างทาง
ระยะทางจาก Sydney ไปยัง Wollongong นั้นใช้เวลาไม่มากนัก ประมาณ 2 ชั่วโมงก็ถึงที่หมายโดยปลอดภัย แต่จะให้ขับรถตรงดิ่งไปถึงเลยก็ใช่ที่ สถานที่ท่องเที่ยวระหว่างทางนี่แหละตัวชูรส ลองถ้าไม่แวะนี่ซิจะเสียใจ เพราะวิวทิวทัศน์ระหว่างเดินทางนั้นสวยงามเกินคำบรรยายเลยทีเดียว ประเดิมด้วยสถานที่แรก คือ stanwell park ขอบอกว่าสุดยอด สุดยอดขนาดไหน ไปดูรูปกันเลย Jetstar ที่กระโดดกันทุกที่ทั่วโลก สู้จตุรเทพทั้งห้าที่กระโดดเหินฟ้าไม่ได้ บรรยากาศของพื้นน้ำทะเลที่กว้างขวางสุดลูกหูลูกตา พร้อมทั้งภูเขาสีเขียวลูกเล็กใหญ่ สลับไปมา ทั้งหมู่บ้าน และถนนที่ตัดริมผ่านภูเขาเลียบริมทะเลเป็นอะไรที่เหนือคำบรรยายจริงๆ งามยิ่งกว่าภาพสีน้ำมันจากพู่กัันของศิลปินเอกของโลกได้วาดไว้ และยังมีเครื่องร่อนอีกต่างหาก แต่วันที่ไปไม่เจอเจอแต่โฆษณา นี่ถ้ามีว่าจะลองสักตั้ง คงจะมันส์น่าดู จะได้รู้ว่านกมันรู้สึกยังไงเวลาบินบนท้องฟ้า แต่ไม่อยากรู้หรอกนะว่านกปีกหักเป็นยังไง อันนี้ไม่ขอรับนะ
งานนี้เหมือนมาฮันนี่มูนนะครับ สังเกตได้จากคู่ใครคู่มัน ประกบตัวต่อตัว ใครดูแลใคร ป้อนข้าว ป้อนน้ำกันขนาดไหนก็ look after กันเองนะจ๊ะ เพราะคู่ข้าพเจ้าแข็งแรง ถึก บึกบึนสมชายจริง ๆ ไม่ต้องดูแลมาก จาก stanwell park ถัดมาก็เป็น national park และขับรถคดเคี้ยวเลียบชายหาด และภูเขาเป็นเส้นทางที่ถือว่าสวยที่สุดเส้นหนึ่ง แต่ก็ต้องวิงเวียนศรีษะเล็กน้อยจากการขับวกไปวนมาเหมือนสามร้อยโค้งแถบแม่ฮ่องสอนบ้านเรา ทำให้เกิดอาการเมารถได้ อีกหนึ่งสาเหตุอาจเป็นเพราะว่าอ่านหนังสือในรถด้วยอีกประการ และผ่านไปยังชายหาด Wollongong beach แต่ไม่ได้แวะ ทีแรกกะจะทานข้าวที่นี่แต่เวลาไม่พอต้องไปกันต่อ
เป้าหมายถัดไปของเราก็คือ Kiama จุดดูน้ำพุ่งออกมาจากซอกหิน หรือขนานนามว่า หินยาย แต่ที่นี่ไม่มีหินตานะ มีเฉพาะหินยายคงเหงาแย่ ไม่เหมือนเมืองไทยมีทั้งหินตา และ หินยายคู่กัน แต่หินยายที่นี่คงไม่เหงาเท่าไหร่ เพราะมีน้ำซัดสาดตลอดเวลา ถึง Kiama วันนี้มีผู้คนมากมายเพราะอากาศดีหลังโดนมรสุมมาทั้งสัปดาห์ เลยทานอาหาร east meet west คือ McDonald ปะทะกับ หมูปิ้ง ชาติไทย ช่างเข้ากันเสียนี่กระไร พอเติมพลังเสร็จแล้วเราก็ไปดูกันว่า Kiama Blow Hole เป็นยังไง ก็เดินลัดเลาะไปเรื่อย ก็ยังไม่ปรากฏปรากฏการณ์น้ำพุ่งแต่อย่างใด จากการสันนิษฐานอาจเป็นไปได้ว่าอยู่ในช่วงน้ำลงก็เป็นได้ ทำให้อดดูอีกตามเคย
เป้าหมายสุดท้ายไม่ควรพลาด นั่นคือวัด Nan Tien Temple เรียกได้ว่าถ้าใครไม่มาวัดเหมือนมาไม่ถึง Wollongong แต่เป็นจริงดังที่บอกเพราะว่าแค่เริ่มเข้าสู่รั้ววัด ความร่มเย็นได้แผ่ซ่านเข้ามาทำให้หายร้อนในทันที ความยิ่งใหญ่อลังการของวัด ทำให้เห็นถึงความสามัคคีของคนจีนที่เลื่อมใสในตัวศาสนา และร่วมก่อสร้างวัดที่มีขนาดใหญ่ คงความเป็นเอกลักษณ์เดิมอย่างดียิ่ง ถ้าบอกว่ามาเที่ยวออสเตรเลียคงไม่มีใครเชื่อเป็นอันขาด ตัวของอาคารต่างออกแบบได้อย่างสวยงาม สถานที่กว้างใหญ่ สงบ ร่มเย็น ต้นไม้ เต็มไปหมด มีสระบัวสวยงาม มองออกไปเจอภูเขา รายรอบตัววัดเป็นฮวงจุ้ยที่ดีทีเดียว
มาถึงวัดทั้งที ก็ต้องกราบไหว้ สักการะพระหน่อย และทำบุญกัน จิตใจจะได้สดชื่น เพราะไม่มีเวลาไปทำบุญบ่อยนัก แรกเดินเข้าไปตึกแรกเป็นสถานที่สักการะเจ้าแม่กวนอิม ภายในสวยงามมาก แต่ไม่สามารถถ่ายภาพได้เนื่องจากเป็นกฏของที่นี่ แต่ดูด้วยตาแล้วคุ้มค่ามากเพราะรู้สึกว่าเต็มอิ่มไปด้วยความสุข หลังจากไหว้ และจุดเทียนชัย ที่ราคาเท่ากับทำงานหนึ่งกะ ก็อย่าคิดมากเพราะนาน ๆ ทำที ต่อด้วยทำบุญสารพัดที่คิดค่าเสียหายหลายอยู่เหมือนกัน แต่นิดส์นึง ไหว้พระไหว้เจ้าต้องมีอุปกรณ์นิดนึงเดี๋ยวเหมือนไม่ไหว้ เดินจากตัวอาคารไปยังตึกที่สอง ก็มีลานสนามหญ้าอันกว้างใหญ่ไว้ฝึกมวยเส้าหลิน และปีนกะไดอันสูงลิบเพื่อไปไหว้พระอีกที เข้าไปกราบไหว้ทำให้ตะลึงในความสวยงามเป็นอย่างยิ่ง บอกไม่ถูกเลยทีเดียวรู้สึกอิ่มเอมใจรวมทั้งปลื้มปิติอย่างยิ่งที่ได้มาสถานที่นี้ อยากให้ทุกคนได้มาเห็นกับตาจริง ๆ เดี๋ยวจะหาว่าโม้ เพราะฉะนั้นหากใครว่างทางบริษัท จำปีทราเวล เค้ามีจัดทริปเดินทางวันเดียว แล้วจะรู้ว่าไม่เสียเที่ยวจริง ๆ กลุ่มเล็ก กลุ่มใหญ่ ที่นั่งสะดวกสบาย พร้อมเพลงฟังเพราะ ๆ ตลอดการเดินทาง ติดต่อไปได้ที่ 02 9280 1222 ขอบอกว่าไม่ผิดหวัง รับประกันความมันส์ ราคากันเอง
ส่วนขาเดินทางกลับติดพายุฝนเล็กน้อย เลยนอนหลับตลอดทาง เลยไม่รู้จะโม้อะไรดี ไม่ได้แวะรายทางด้วยตรงดิ่งเข้าตัวเมือง ลืมตาอีกทีก็ซิดนีย์ซะแล้ว ไว้ทริปหน้าพาข้ามรัฐไปดูงานกันที่ Melbourne กันดีฝ่า อยู่มาตั้งนานไปไม่ถึงซักที คราวนี้ไม่พลาด แล้วจะกลับมาโม้ให้ฟังใหม่ปักษ์หน้า เดี๋ยวรีบเก็บกระเป๋าเตรียมไว้ก่อน ตื่นเต้น แล้วเจอกันใหม่นะครับ
ทริปนี้สนุกแค่ไหนดูรูปที่นี่เลย "ต่อจากปลาโลมาเราก็ไปดูดอกไม้บานกันนะ"
By ต๊อก ตะลอน
สนับสนุนบทความโดย Thaipress