สวัสดีปีใหม่ ขอกราบงาม ๆ หนึ่งครั้งก่อนทบทวนความทรงจำกันสักหน่อย หลังจากโดนอุ้มไป หายหน้าหายตาไปปีกว่า ๆ พร้อมกับซ้อเจ็ด แต่ว่าไม่ได้ค่าหัวเป็นสิบล้านเหมือนซ้อนะและไม่ได้หนีการเมืองด้วย แต่เพราะว่าหายไปขายแรงแต่งกะงานอยู่ เลยไม่มีเวลาไปเที่ยวไหนเล้ย
คราวนี้ก็ได้เวลากลับมาของต๊อกตะลอนทัวร์ RETURN ถึงจะไม่ใช่ Batman Return หรือ Mummy Return ก็ตาม แต่การกลับมาครั้งนี้มันมาด้วยหัวใจเรียกร้อง หลายคนอาจจะสงสัยไอ้ต๊อก ตะลอนทัวร์ มันคือใคร หน้าไหน เพราะบางคนอาจจะพึ่งมาเยี่ยมเยียน Sydney ได้ไม่นานนัก แต่ถ้าเป็นรุ่นพี่ รุ่นน้า รุ่นป้า รุ่นลุง ที่เคยอ่าน Thai Press มาในช่วง 2-3 ปี ที่ผ่านมาคงจะจำ ไอ้ผอม−ดำ พาไปเที่ยวที่ไหนก็ไม่รู้แล้วมาบ่นให้ฟัง ดูมันน่าเบื่อจริง ๆ หรือภาษาวัยสะรุ่นเรียกว่า เซ็งเป็ด
แต่ขอบอก... หลังจากที่ไปขายแรงส่งตัวเองเรียน แถมหนี้สินก็ยังไม่หมด แต่ด้วยสปิริตแรงกล้า เราก็จะทุ่มเทเวลาที่มีอยู่อันน้อยนิด เพื่อไปเสาะหาสถานที่ ที่ดีที่สุดมาให้ท่านผู้อ่านทุกท่าน ได้ไปตามรอยตะวันกันถ้วนหน้า
ประเดิมส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ด้วยงานปาร์ตี้มันส์แบบ non stop ในทริป เที่ยวให้แหล่มไปเลยกับ Chat thai Christmas Party 2007 @ Port Stephens เนื่องจากจำนวนผู้คนที่ร่วมในทริปนี้มีมากถึง 80 ชีวิต ก็คิดดูละกันว่า คนเดียวหัวหาย สองคนเพื่อนตาย สามคนตัวใครตัวมัน แต่มาถึง 80 หัว จะวุ่นวายขนาดไหน เอาเป็นว่าจะสาธยายให้ฟังแบบเป็นขั้นตอน
เริ่มจากนัดกันตั้งแต่ 6 โมงเช้าครับพี่น้อง แต่จะว่าไปกว่าจะรวมกันได้ครบก็ปาไปกว่า 9 โมงเช้า พร้อมกับขนเสบียงขึ้นรถโค้ช อย่างดี 2 คันใหญ่ เมื่อจุบรรดาลูกทัวร์ครบกันถ้วนหน้า ก็พร้อมที่จะออกเดินทางไปสู่เป้าหมายแรกกันนั่นคือ sand dune นั่นคือทะเลทราย ใครเลยจะรู้ว่าประเทศที่มีทะเลล้อมรอบเช่นนี้ จะมีทะเลทรายอยู่ด้วย แต่เนื่องจากเป็นประเทศที่มีขนาดใหญ่ทำให้มีความแตกต่างของลักษณะภูมิประเทศเช่นกัน
อยู่ดีไม่ว่าดี ตัวดำอยู่ดี ๆ ก็อยากตัวดำกว่าเดิมซะงั้น ขอบอกว่าหากใครจะไปให้เตรียมครีมกันแดดอย่างแรง และห้ามลืมแว่นตากันแดด ที่จะช่วยคุณเป็นอย่างดีในการมองเห็นสิ่งต่าง ๆ รอบข้างที่สะท้อนมากับความสว่างของทะเลทราย งานนี้ดำปี๋สมใจ
กว่า 2 ชั่วโมงครึ่งจากตัวเมือง เราก็ได้เดินทางมาถึงทะเลทราย sahara ดินแดนทะเลทรายอันกว้างไกลสุดลูกหูลูกตา ก็ได้มีรถ adventure 4WD พาเราซิ่ง สู้ ฟัด ไปกับคลื่นของภูเขาทะเลทรายเล็กใหญ่ คุณพี่นักซิ่งก็ขับซะลูกรถโดดกระจายกรี๊ดสนั่น แบบไม่กรงใจใครเพราะไม่มีใครอีกแล้วนอกจากพวกเรากันเอง
เมื่อเราเดินทางมาถึงหุบเขาทะเลทรายที่สูงเทียมฟ้ามีหุบเหวรออยู่ข้างหน้า สิ่งที่เราจะต้องทำกันต่อไปก็คือ การโดดเหว ไม่ใช่อย่างนั้น การเล่นกระดานไม้เพื่อวัดความเร็ว ของความลาดชันของภูเขาทะเลทรายที่เราได้มาพิชิตกัน ใครเป็นใครก็ต้องอาศัยเทคนิคกันนิดนึง ตัวหนักตัวเบาก็มีผลต่อความเร็วเช่นกัน ทิศทางในการไหลลื่นก็บังคับกันให้ดี เดี๋ยววิ่งไปชนคนข้าง ๆ ต้องดูหางเสือของตัวเองให้ดี ๆ จะได้จบแบบสวยงาม หรือจะยืนคิดว่าเล่น surf แต่ไม่รับประกันล้มทั้งยืนนะครับ
ชั่วโมงกว่า ๆ ในการดำผุดดำว่าย ถ่ายรูปในทะเลทรายกัน โดยที่ไม่มีอูฐ รับประกันว่าที่นี่ทะเลทรายจริง ๆ โดยไม่ได้ผ่านการเนรมิตมาจากน้ำมือมนุษย์ก็ตาม นี่ถ้าปล่อยทิ้งไว้ก็ไม่รู้ว่าป่านนี้จะคลานมาถึง Sydney แล้วหรือยัง
เมื่อออกกำลังกันอย่างเต็มที่แล้ว ก็ได้เวลาเติมน้ำมันกันหน่อย กองทัพเสบียงที่เราได้เตรียมไปกันยสำหรับร้อยคนกินกันห้าวันไม่หมด ก็ยกมาโซ้ยกันเต็มไม่ว่าจะหมูแดดเดียว ไก่ทอด ปลาแซลมอน ไส้กรอก ไส้อั่ว ที่สำคัญขาดไม่ได้เลย สารเสริมดั้งอย่างข้าวเหนียวและน้ำพริกปลาร้า ที่แซบอย่าบอกใคร ฝรั่งเดินผ่านไปมาอาจงงพวกนี้มาปิคนิดกันได้ไงแบบไม่มีเตาบาร์บีคิวก็ได้แฮะ แต่ร้านค้าอาจเคืองได้เนื่องจากอดครับพี่น้องซักดอลล์ก็ไม่ได้นี่แม่งมากันตั้งแปดสิบ คึกคักกันใหญ่ ก็ว่ากันไป
มา Port Stephen ทั้งที กิจกรมที่ไม่ควรพลาดอย่างแรง นั่นคือดูปลาโลมา ตามที่โฆษณาอย่างดีว่าจะได้สัมผัสแบบใกล้ชิด อยากรู้จริง ๆ ว่าเป็นยังไง เอาเป็นว่าไปขึ้นลำยักษ์ใหญ่กันก่อน เรือสามชั้น ชั้นล่าง ชั้นบน ชั้นลอย ชั้นใต้ท้องเรือ เลือกนั่งได้ตามอัธยาศัย พร้อมทั้งมีบริการเครื่องดื่ม – อาหาร เพียบ นั่งไปนั่งมา รอแล้ว รออีก ก็ไม่มีวี่แววของโลมาน้อยซักตัวโผล่มาให้เห็น 1 ชั่วโมงผ่านไป ก็ยังไม่เจอ เริ่มขี้จุ๊แล้ว รึว่าจะมาเสียเที่ยวมานั่งเรือเล่นเหรอนี่ ไปนั่งแถว Manly ก็ไดไม่ต้องถ่อสังขารมาไกลขนาดนั้น แต่หลังจากบ่นเป็นต่อยหอยกว่าชั่วโมงก็ได้ยินเสียงเฮ ลุ้นระทึกครับว่าในที่สุดชั่วโมงที่รอคอยก็มาถึงซะที ไปโผล่บนดาดเรือ เพื่อแหวกดูโลมา คิดซะว่าเป็นปาล์มมี่ที่มีปลาวาฬกระโดดข้ามหัว แต่ที่ไหนได้ในรัศมี 1 กิโลเมตรเห็นจะได้ นึกว่าลูกหมาตกน้ำตัวกระจิดริด แต่สังเกตเห็นครีบ เลยโล่งอกไปทีว่าเจอซักที แต่ถ้าจะให้ดีไปดูโลมาแสนเชื่องที่ water world ที่ Gold Coast จะดีกว่า ขากลับยังมีทีเด็ดคือใครอยากเล่นน้ำท้ายเรือก็มีตะแกรงให้ไปนอนแหวกว่ายกันเต็มที่ พร้อมทั้งสไลเดอร์ตัวเล็กเพื่อเพิ่มความมันส์ อีกด้วย
หมดแรงไปเลยก็ได้เวลาไปพักซักที ต้องไปที่ Pacific Blue Resort สุดหรู ระดับห้าดาว เห็นแล้ว โอ้ ! แม่เจ้า สถานที่ไฮโซ คู่ควรกับคนระดับเรา หลังจาก check in กับ 15 ห้องชุดสุดหรูแล้ว เพียงแค่ข้ามสะพานที่มีก็เจอสระน้ำล้อมรอบรีสอร์ต และมีชายหาดจำลองอีกด้วย ก็อดทึ่งไม่ได้ว่า ช่างคิดดอะไรเช่นนี้ได้
ห้องพักนอกจากจะใหม่ สะอาด น่าอยู่มั่ก มากแล้ว ก็ยังอำนวยความสะดวกสบายภายในห้องพักนอกจากจะมีครัวไว้ทำกับข้าว ห้องนั่งเล่นมี Mini Theatre ในห้องนอน ยังมีอ่างจากุชชี่ ไว้นวดตัวเล่นอีกต่างหาก หรือจะเปิดระเบียงบ้านออกไป ก็เจอกับสระน้ำที่เชื่อมกันมา รายรอบรีสอร์ตเพีย แค่เปิดระเบียงบ้านออกไปก็สามารถลงสู่สระน้ำ ได้อย่างง่ายดาย สวรรค์น้อย ๆ ของเราก็อยู่ตรงนี้เอง หากจะไปตีเทนนิสก็มี คอร์ทให้เล่นตั่งสองสนาม หรือจะช็อปปิ้งก็แค่ข้ามถนนหน้ารีสอร์ตก็เจอ shopping center แล้ว เรียกได้ว่าที่พักระดับเทพอย่างนี้มีไม่มากนัก แต่อย่ามัวอุดอู้อยู่ในห้องก็ไม่ได้ เพราะมีกิจกรรมร่วมสนุกทั้งค่ำคืน
เริ่มตั้งแต่ Dinner ที่มีแม่ครัวหัวป่าก์ มากันยกแก๊งค์ มาช่วยกันปรุงอาหารรสเด็ดให้ทุกคนทานกันเป็นพิเศษ ทั้ง ๆ ที่เค้าจัดเตรียมอาหารไว้ให้แล้วก็ตาม แต่เรามีการแลกเปลี่ยนให้เค้าได้ชิมรสชาติอาหารไทยด้วยว่าเป็นไง ขออวดบ้าง และเริ่มเล่นเกมส์เศรษฐีคนสุดท้าย คือเราจะรวบรวมเงินในกระเป๋าของทุกคนและเขียนไว้ แล้วเรียกออกทีละคน หลังจากนั้นที่มีชื่อคนสุดท้ายก็จะได้รับเงินทั้งหมดของทุกคนไป เรียกได้ว่ากินฟรีนั่นเอง หลังเล่นเกมก็ต้องจับสลากของขวัญที่ถือเป็นธรรมเนียมปีใหม่ก็ว่าได้ ใครใคร่ได้ของดีก็ดีไป ใครได้ของไม่ดีก็ต้องแก้ตัวปีหน้านะ พร้อมทั้งมอบของรางวัลมากมายหลายร้อยล้านเช่นกัน ปิดท้ายด้วยการยก Star City มาไว้ที่นี่ น้ำเต้า ปู ปลา ป๊อกเด้ง หลายวง ก็ได้ดำเนินไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะหมดตัวไปข้าง
รุ่งเช้ามา เติมพลังด้วยข้าวต้มร้อน ๆ ทานกับไข่เค็ม ปลากระป๋อง อร่อยเหาะอย่าบอกใคร พร้อมทั้งบ่อนเล็ก ๆ ของเราก็ได้เปิดดำเนินการอีกรอบ สายหน่อยเก็บกระเป๋า check out ก็ตรวจตราสำรวจค่าเสียหายที่ใครได้ดูอะไร อะไรพิเศษกว่าช่องปกติ หรือโทรศัพท์ ก็พยายามดูให้ดี ๆ ละกัน ที่สำคัญอย่าลืมจ่ายตังค์ ส่วนขากลับไม่มีอะไรหวือหวา ตรงดิ่งกลับสู่ซิดนีย์แบบสบายหายห่วง ต้องขอขอบคุณ JUMPEE TRAVEL ที่อำนวยความสะดวกในครั้งนี้ด้วย ถึงแม้จะไม่ได้จองตั๋วเครื่องบินกลับไทย แต่ว่ามาเที่ยวแบบ one day one night trip นี่ก็สนุกไปอีกแบบ เพราะฉะนั้น เดินทางมั่นใจ ใกล้ไกล ไปกับ จำปี รับรองสบาย หายห่วง ขอบอก ติดต่อ 02 9280 1222 อยากได้อะไร เราจัดให้
แต่เนื่องจากในเดือนนี้เป็นเดือนแห่งความรักแล้ว ก็ขอให้ทุกคู่มีความสุข ครองคู่กันไป ร่วมทั้งทุกข์ ไม่ใช่สุขอย่างเดียว เดี๋ยวทุกข์ปุ๊บหนีปั๊บก็ไม่ใช่ ค่อย ๆ ประคับประคองรักให้ยาวนาน เพราะว่าฉบับนี้เค้าเน้นเรื่องความรัก บก. ย้ำมา แต่ยังหาที่โรแมนติกไม่ได้ ก็ยกไปก่อนละกัน ดูอย่างทริปนี้ก็มีหลายสิบคู่นะจะบอกให้ sweet หวานแหววไม่เกรงใจใครเลยทีเดียว ก็ขอให้ทุกคู่ รักกันมาก ๆ และรักกันนาน ๆ แบบยั่งยืน มีความสุขมั่ก มาก ด้วยความปรารถนาดีจาก ต๊อก ตะลอนทัวร์ นะคร้าบบบบ
ดูรูปทริปนี้เพิ่มเติมได้ที่นี่นะครับ"นอกจากหมีโคล่าก็มีปลาโลมาด้วยย่ะ"
By ต๊อก ตะลอนทัวร์
สนับสนุนบทความโดย Thaipress
