สวัสดีครับเพื่อนเก่าและเพื่อนใหม่วัยออส กลับอีกครั้ง หลังจากหายไปนาน แต่ขอออกตัวก่อนว่า ผมเองก็พึ่งได้รับหน้าที่เขียนคอลัมนี้เป็นครั้งแรก 55 (ปกติเค้าจะวงเล็บว่า “หัวเราะ”) การเฟ้นหาบุคคลคุณภาพของผมนั้นไม่ยากเลย เพราะชีวิตในซิดนีย์ของผมพบเจอผู้คนมากด้วยความสามารถเยอะแยะมากมายไปหมด แต่มันยากตรงที่ว่า ผมจะหยิบยกความสามารถและสิ่งที่น่าสนใจในตัวบุคคลนั้นๆออกมาให้มากที่สุดได้ไหม และท่ามกลางบุคคลมากความสามารถจากกลุ่มที่ Street Culture ในงานThailand Grand Festival 2009 ผมก็ได้พบกับ น้อง แป้งร่ำ เบญจมาภรณ์ ทองแจ่ม ซึ่งพึ่งมาจากเมืองไทย ยังไม่ถึง 1เดือน แต่พกพาความสามารถในด้าน นาฎศิลป์ และยัง งามอย่างไทย จนพี่ๆทีมงาน(กลัดมัน)แย่งกันเทคแคร์เลยทีเดียว
หลังจากพวกเราได้ชื่นชม การรำอันอ่อนช้อยในความเป็นศิลปะไทย เปลี่ยนเป็นและการรำในจังหวะที่สนุกสนาน เพื่อนๆคงจะเคยผ่านตาใน NatuiTV กันมาบ้าง ผมจึงสงสัยว่า ทำไมเธอถึงสนใจใน นาฎศิลป์ไทย ในท่ามกลางกระแส K POP เธอบอกกับพวกเราว่า เธอรำมาตั้งแต่เธอยังเล็ก อาจจะเรียกได้ว่า มันอยู่ในสายเลือดเลยทีเดียว เพราะคุณแม่แป้งร่ำเป็นคุณครูสอน นาฎศิลป์ ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น แต่เธอแอบบอกว่า “แป้งร่ำไม่เคยเรียนกับคุณแม่เลย เพราะถ้าเรียนคงเถียงกันแน่ๆ 55” เธอรำมาตั้งแต่เด็กและมีผลงานการแสดงนาฎศิลป์มากมาย และได้เข้าศึกษาที่ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒประสานมิตร สาขา ศิลปะการแสดง นาฎศิลป์ไทย นับว่าเธอโชคดีมากๆที่ได้ค้นพบว่าตัวเองต้องการอะไรตั้งแต่เด็กๆและเลือกเรียนต่อในสิ่งที่ตนรัก และในระหว่างนั้นเองเธอมีโอกาสได้แสดงความสามารถในด้านนาฎศิลป์ไทยในต่างประเทศ หลายประเทศเลยทีเดียว
“ก่อนมาออสเตรเลียแป้งร่ำทำอะไรบ้างครับ” ผมยิงคำถามธรรมดาสามัญเหมือนที่คนอื่นถาม
“หลังจากเรียนจบ แป้งร่ำทำงานในเลขานุการในบริษัทผ้าส่งออกต่างประเทศ เพราะชอบติดต่อทำงานกับผู้คนเยอะๆ แต่ในระหว่างทำงานเป็นเลขาก็มีงานแสดงรำเรื่อยๆค่ะ ตามโรงแรมและงานทั่วไปค่ะ ทำได้ ประมาณ 5 เดือน จึงตัดสินใจมาออสเตรเลียเพื่อเรียนรู้ภาษาและหาประสบการณ์ เพราะคิดว่าภาษาอังกฤษสำคัญกับอาชีพของแป้งร่ำมาก และวางแผนไว้ว่าจะต่อโทด้วยค่ะ แต่ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าสาขาอะไร”
“ในฐานะที่เพิ่งมาแป้งร่ำรู้สึกอย่างไรกับซิดนีย์ครับ”ผมยิงซ้ำ กับคำถามดาษดื่นสามัญ
“บรรยากาศดี วิวสวย สภาพอากาศหลากหลายค่ะ วันเดียวมีถึง 4 ฤดู ก็งงๆเหมือนกันค่ะ ปรับตัวยากนิดนึง ต้องดูแลสุขภาพดีๆหน่อย ผู้คนดูเป็นมิตร ชาวออสซี่ดูยิ้มแย้มค่ะ เพื่อนๆพี่ๆคนไทยด้วยกันก็นิสัยดีค่ะ หลังจากแป้งร่ำได้สมัครร่วมแสดง รำนาฎศิลป์ Street Culture ในงาน Thailand Grand Festival 2009 ระหว่างที่ประชุมความพร้อมแป้งร่ำหลายๆรอบ แป้งร่ำยังได้รู้จักกับเพื่อนใหม่ที่เป็นคนไทยที่มีความสามารถจากหลากหลายสาขา หลากหลายอาชีพ บางคนก็เพิ่งมาเหมือนกันด้วยค่ะ ตอนนี้ชีวิตในซิดนีย์ของแป้งร่ำก็สนุกและไม่เหงา ค่ะ และระหว่างนี้ยังทำงานเสิร์ฟในร้านอาหารไทยแห่งหนึ่งด้วย”
“เคยคิดมั้ยว่าจะได้นำความสามารถในการรำมาใช้ครับ” ผมถามเพราะอยากรู้เหมือนกัน
“ก็พยายามอยู่นะคะ ตั้งแต่มาถึงที่นี่ แป้งร่ำก็ถามตามร้านอาหารไทยเผื่อว่าจะมีร้านไหนสนใจจะให้โชว์ศิลปะการรำให้ลูกค้าได้ชม และก็มีบางร้านที่สนใจและทาบทามไว้ค่ะ และที่ดีใจที่สุดก็คือการได้ร่วมแสดงใน งาน Thailand Grand Festival 2009 ค่ะ เพราะเป็นการเผยแพร่ศิลปะวัฒนะธรรมไทยให้ชาวต่างชาติได้ชม ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่อาชีพหลักแต่ก็มีความสุขที่ได้ทำค่ะ” แป้งร่ำตอบอย่างจริงใจว่า “มันแฮปปี้จริงๆนะคะพี่” จนผมสามารถรับรู้ว่าเธอไม่ได้พูดแค่เพื่อให้ประโยคดูสวยหรู คงเหมือนกับทุกๆคนที่ได้ทำสิ่งที่ตัวเองรักและมีความสุขกับมัน แม้จะไม่ได้รายได้อะไรมากมายก็ตาม
“ความฝันจริงๆของแป้งร่ำคืออะไรครับ” ผมตื่นเต้นเสมอที่ได้ฟังความฝันที่หลากหลายของทุกคน
“อยากเป็นครูสอนรำค่ะ”เธอตอบแบบไม่ลังเล “แป้งร่ำชอบทำให้คนอื่นสวยค่ะ เวลาเห็นเด็กๆได้ใส่ชุดไทย และรำอย่างอ่อนช้อยและ ให้เด็กๆมีความสามารถพิเศษ มันก็น่าจะมีความสุขนะคะ” ผมคิดว่าจากความสามารถของเธอและความฝันของเธอไม่ไกลเกินความสามารถเลย
เธอได้ฝากไว้ว่า “ช่วยไปให้กำลังใจแป้งร่ำและเพื่อนๆคนไทยด้วยกันในงาน Thailand Grand Festival 2009 ในวันที่ 14-15 มีนาคมนี้ ในส่วนของ Street Culture ด้วยนะคะ” ใช่ครับผมก็หวังว่าเพื่อนๆและพ่อแม่พี่น้องชาวไทยและออสซี่ จะมาร่วมชมความสามารถของเด็กไทยในยุคที่วัฒนธรรมตะวันตกและเกาหลีญี่ปุ่นมีอิทธิพลกับการเติบโตด้วยนะครับ ในขณะที่สังคมเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วมันก็ไม่ได้มีแต่ผลเสียเสมอไป พวกเขาก็ได้เก็บเกี่ยวความรู้ ประสบการณ์ และได้เรียนรู้กับมันจนมีความหลากหลายมากขึ้น และไม่ลืมที่จะรักษาวัฒนธรรมไทยๆไป เห็นได้ชัดครับ ว่าคนไทยที่อยู่ที่นี่ไม่เคยลืมว่าตัวเองเป็นคนไทย ทุกคนยังคงคิดถึงเมืองไทย จนมีงาน Thailand Grand Festival 2009 เกิดขึ้น
ติดตามความคืบหน้าของน้องๆพี่ๆและงานThailand Grand Festival 2009 ได้ใน NatuiTVได้นะครับ แล้วเจอกันในวันงานครับ