
จากการวิจัยล่าสุดพบว่าประชาชนที่บริโภคอาหารเสริมประเภทแคลเซียม จะมีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจมากขึ้นถึง 30%
ภายใต้การศึกษาของกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด 12,000 คนพบว่ามีประชาชนจากในกลุ่มนี้กว่า 30% หรือมากกว่าที่มีโอกาสเป็นโรคหัวใจเนื่องจากรับประทานอาหารเสริมแคลเซียม ซึ่งส่วนมากจะเป็นอาหารเสริมของกลุ่มสตรีสูงอายุมากกว่า เพื่อป้องกันโรกกระดูกพรุน
ผู้ที่รับประทานอาหารเสริมเป็นปริมาณเท่ากับ 500 กรัมหรือมากกว่าต่อวันได้ถูกสำรวจทางสุขภาพเป็นจำนวน 11 ครั้งด้วยกัน และจะถูกนำไปเปรียบเทียบกับกลุ่มประชาชนที่ไม่ได้ทำการรับประทานอาหารเสริม
#news#
ตามที่ทาง Food Standards Agency ได้รายงานเอาไว้ว่า ผู้ใหญ่ต้องการแคลเซียมในแต่ละวันเป็นจำนวน 700 กรัม ซึ่งควรจะมาจากการรับประทานอาหาร ไม่ว่าจะเป็นนม ชีส หรือผักสีเขียวต่างๆ
จากการศึกษาโดยนักวิจัยจาก University of Auckland และ University of Aberdeen กล่าวไว้ว่าแคลเซียมที่มาจากอาหารตามธรรมชาติไม่ก้อให้เกิดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจแต่อย่างใด แต่แคลเซียมที่มาจากอาหารเสริม ซึ่งจะไปเพิ่มระดับการหมุนเวียนของแคลเซียมในเลือดและเป็นสาเหตุของการเกิดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจ
ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าระดับซีรั่มแคลเซียมในกระแสเลือดจะไปทำให้หลอดเลือดใหญ่แข็งตัวและจะไปกระทบต่อการทำงานของหัวใจ นอกจากนี้ ยังได้มีการศึกษาการรับประทานอาหารเสริมประเภทวิตามิน D เข้าไปอีกด้วยเพราะเป็นตัวเพิ่มการดูดซับแคลเซียมในร่างกาย แต่ก็ยังไม่มีข้อสรุปว่าจะส่วนเกี่ยวข้องกันมากน้อยแค่ไหน
แต่อย่างไรก็ตามก็มีผู้ที่ตัดค้านผลการวิจัยอยู่บ้างและให้เหตุผลว่ายังไม่มีการวิจัยใดที่ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างอาหารเสริมแคลเซียมและความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจโดยตรง เพราะที่ผ่านมาเป็นเพียงแต่การสังเกตุการณ์เท่านั้น