เมื่อ Chris Smythe และ Emma Rudin ตัดสินใจที่จะลั่นระฆังวิวาห์เดือนหน้านั้น ฝ่ายชายได้ตัดสินใจร่วมกับฝ่ายหญิงในการใช้นายสกุลของฝ่ายเจ้าสาวแทนที่จะเป็นของจ้าวบ่าวในนาม Mr และ Mrs Rudin
ใขขณะเดียวกันได้มีผู้ชายหลายต่อหลายคนจัดสินใจที่จะใช้นายสกุลของฝ่ายผู้หญิงในออสเตรเลีย
Chris กล่าวว่าตนนั้นมีความผูกพันกับนามสกุลของตนมาตั้งแต่เกิดแต่นามสกุลตนนั้นไม่ได้แสดงออกถึงความเป็นตัวของตัวเองของตนเลย นอกจากนี้ Chris ยังได้กล่าวอีกว่าการที่ตนเปลี่ยนนามสกุลนั้นส่วนใหญ่เพราะด้วยเหตุผลที่จำเป็น Chris นั้นทำงานในสายการเงินและความเสี่ยงส่วนคู่หมั้นของ Chris นั้นทำงานเป็นอาจารย์สอนทางด้านดนตรี
Chris ยังกล่าวอีกว่าบิดาของตนนั้นเคยเปลี่ยนชื่อจาก Smith ไปเป็น John เมื่อครั้งที่บิดาตนยังเป็นเด็กๆ จึงทำให้ที่มาของครอบครัวตนนั้นไม่มีเที่ยงแท้เท่านัก
ครอบครัวและเพื่อนของทั้งคู่นั้นต่างได้ออกมาสนับสนุนและให้กำลังใจต่อการตัดสินใจของ Chris และคู่หมั้นของเขา แต่เพื่อนบางคนก็ออกมาล้อเลียนว่าในชีวิตคู่ของทั้งสองคนนั้นใครเป็นผู้หญิงผู้ชายกันแน่ ส่วนคู่หมั้นของ Chris ออกมากล่าวว่าการที่ตนและ Chris นั้นไม่ได้ยึดติดในเรื่องนามสกุลนั้นทำให้ตนมีความสุขมาก
ส่วนสำหรับ Tony Gelme แล้วนั้นกล่าวหลังจากที่ได้เข้าร่วมงานแต่งงานมากว่า 8 แห่งพบว่าผู้ชายส่วนมากที่เปลี่ยนมาใช้นายสกุลของฝ่ายหญิงนั้นเนื่องจากต้องการทำอะไรที่แตกต่างออกไปจากวัฒนธรรมเดิมๆ
นอกจากนี้ผู้ที่เชี่ยวชาญด้านกฎหมายครอบครัวอย่าง Paul L. Moning-Ross ออกมากล่าวว่าคู่สมรสบางคู่นั้นไม่สามรถตัดสินใจเรื่องการใช้นามสกุลได้และได้เปลี่ยนและตั้งนามสกุลใหม่ขึ้นมาเองก็มี