
จำนวนนักศึกษา 1 ใน 5 ของมหาวิทยาลัยในประเทศออสเตรเลียลาออกไม่เรียนต่อไปในปีแรกที่เข้าเรียน นักศึกษาที่ออกให้เหตุผลว่าตนนั้นไม่พอใจกับวิชาที่เรียน ปัญหาทางการเงิน สอบตกบ้างหรือโอกาสที่จะเรียนต่อในระดับที่สูงขึ้นมีน้อยลง
จากสถิติที่ได้นำมาเปิดเผยโดยรัฐบาลออสเตรเลียพบว่านักศึกษาจากนานาชาติที่เข้าเรียนในสถาบันอุดมศึกษาของประเทศดรอปเรียนน้อยกว่านักเรียนชาวออสเตรเลียเสียอีก
ที่มหาวิทยาลัย Southern Cross University ที่ Lismore มี จำนวนนักศึกษาปีแรกดรอปเรียนเป็นจำนวน 3 ใน 10 คน ส่วนที่มหาวิทยาลัย University of Sydney และ The University of NSW ได้มีจำนวนนักศึกษาปีแรกดรอปเรียนเป็นจำนวน 11% อย่างไรก็ตามจำนวนดังกล่าวเป็นจำนวนที่ได้มีการบันทึกไว้ในปี 2008 เท่านั้นเนื่องจากรัฐบาลเพิ่งจะนำข้อมูลออกมาเปิดเผย
ส่วนสถาบัน The Bachelor Institute of Indigenous Tertiary Education ในเขต Northern Territory มีจำนวนนักศึกษาปีแรกดรอปเรียนมากที่สุด และในภาพรวมแล้วกลับเป็นนักศึกษาจากต่างประเทศแสดงให้เห็นถึงความมานะแลพยายามที่จะเรียนให้ผ่านในปีแรกไปได้ด้วยดี
ศาสตราจารย์ Denise Bradley ผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษาออกมากล่าวหลังจากที่ได้มีการวิเคราะห์การศึกษาในประเทศแล้วพบว่า มหาวิทยาลัยแต่และแห่งนั้นจะต้องมีการกำหนดเป้าหมายในการลดจำนวนนักศึกษาดรอปเรียนให้น้อยลงไปอย่างแน่นอน และควรจะเพิ่มให้มีการสนับสนุนนักศึกษาในด้านการเรียนในแต่ละรายวิชา ให้คำปรึกษาแก่นักศึกษาปีแรกในการปรับตัวเข้ากับสถานศึกษาและสิ่งแวดล้อมอีกด้วย