นักเรียนโรงเรียนรัฐบาลทั่วรัฐ New South Wales ได้รับปริมาณแก้สอันตรายในปริมาณที่แม้แต่ทางองค์กรอนามัยโลกอย่าง World Health Organization (WHO) เองนั้นยังออกมากล่าวว่าเป็นปริมาณที่สูงเกินกว่ามาตรฐานที่ได้ตั้งไว้
จำนวนโรงเรียนกว่าหลายพันแห่งที่ได้มีการติดตั้งเครื่องทำความร้อนโดยใช้แก้สเป็นเชื้อเพลิง ซึ่งอุปกรณ์ประเภทนี้จะปล่อยแก้สคาร์บอนมอนอกไซด์ ไนตรัสออกไซด์ คาร์บอนไดออกไซด์ และฟอร์มัลดีไฮด์ออกมา เครื่องทำความร้อนมักจะถูกนำมาใช้บ่อยครั้งในฤดูหนาว
จากการทดลองของ CSIRO พบว่าปริมาณแก้สในห้องเรียนจำนวนกว่า 30% ของ BlackHealth Public School มีปริมาณมากเกินตามที่นานาชาติได้ออกมาตั้งเอาไว้ ในขณะที่รัฐบาลรัฐ NSW ออกมากล่าวว่าเครื่องทำความร้อนในโรงเรียนมีความปลอดภัยหากใช้อย่างถูกต้อง (ด้วยวิธีการเปิดหน้าต่างและประตู)
ผู้ปกครองหลายๆคนเพิ่งจะได้รับผลการวิจัยการใช้เครื่องทำความร้อนดังกล่าวเมื่อไม่นานมานี้ ทำให้บางคนได้พาบุตรหลานย้ายไปเรียนที่อื่นแทน จนทำให้ผู้ปกครองหลายๆคนออกมาเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนอุปกรณ์ทำความร้อนใหม่เสีย
เหตุการณ์ดังกล่าวแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลเองนั้นไม่ได้ทำการทดสอบการใช้งานและผลข้างเคียงจากเครื่องทำความร้อนนี้อย่างถูกต้อง โดยบางคนถึงกับมองว่ารัฐบาลได้ทำการปิดบังความจริงของการใช้เครื่องทำความร้อนชนิดนี้
ที่ปรึกษาทางด้านสิ่งแวดล้อม Len Ferrari ผู้ซึ่งทำการทดสอบอุปกรณ์ทำความร้อนในโรงเรียนได้ออกมาอธิบายว่า ตนนั้นได้วัดปริมาณแก้สที่ปล่อยออกมาภายในระยะเวลา 4-5 ชมในขณะที่มาตรฐานของ WHO นั้นวัดในระยะเวลา 1 ชมซึ่งทำให้เกิดการเปรียบเทียบที่แตกต่างกันออกไป
อย่างไรก็ตามทางสมาคมครูอาจารย์ NSW ได้ออกมาเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนอุปกรณ์ทำความร้อนมาเป็นเวลานานหลายปีแล้วแต่ก็ไม่ได้รับการตอบรับกลับมาแต่อย่างใด
ในปัจจุบันนี้ทางรัฐบาลเองก็ได้จ้างให้ทาง Woolcock Institute of Medical Research ทำการตรวจสอบความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นกับนักเรียนในโรงเรียนที่มีการใช้อุปกรณ์ทำความร้อนแบบใช้แก้สนี้อีกครั้ง ซึ่งผลการวิจัยจะแล้วเสร็จภายในปีหน้า