อุตสาหกรรมเหมืองแร่อาจจะได้สิทธิพิเศษจากรัฐบาลในการดำเนินธุรกิจภายใต้นโยบายemission trading แต่หลังจาการวิจัยล่าสุดพบว่าบริษัททำเหมืองแร่นั้นมีแต่จะทำให้เพิ่มมลพิษมากขึ้นในแต่ละปี
อุตสาหกรรมเหมืองแร่นั้นได้เพิ่มมลภาวะและได้เดินทางไปในทิศทางที่ไม่ถูกต้องและใช้พลังงานเป็นจำนวนมากและส่งผลต่อวิ่งแวดล้อมมากขึ้นอีกด้วย
อุตสาหกรรมเหมืองแร่นั้นได้เพิ่มการใช้เชื้อเพลิงและพลังงานมากขึ้นเป็น 2 เท่าในระยะเวลา 15 ปีที่ผ่านมา จำนวนพลังงานที่ใช้ต่อ 1 ยูนิตนั้นเพิ่มขึ้นมา 3.7% ต่อปี ซึ่งการแก้ปัญหาสภาวะโลกร้อนนั้นมีจุดประสงค์ที่จะต้องให้มีการใช้พลังงานให้ลดน้อยลงและให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ข้อมูลการค้นพบดังกล่าวนั้นจัดทำโดย Australian Bureau of Agricultural and Resource Economics (ABARE) อย่างไรก็ตามสิทธิประโยชน์ที่ทางเหมืองแร่จะได้จากรัฐบาลนั้นทำให้บริษัทนั้นไม่ตองจ่ายเงินภาษีมลภาวะภายใต้นโยบาย emission trading ซึ่งทางกลุ่มนักอนุรักษ์นั้นได้ออกมาต่อต้านอย่างหนัก
จากการวิเคราะห์ของ Australian Conservation Foundation บริษัทเหมืองแร่นั้นจะทำกำไรได้มหาศาลจากข้อยกเว้นของจากรัฐบาลภายใต้นโยบาย emission trading
ในรายงานของ ABARE พบว่าการใช้พลังงานของบริษัทเหมืองแร่นั้นเริ่มมีประสิทธิภาพแย่ลงเนื่องมาจากบริษัทเหมืองแร่ดังกล่าวนั้นได้ทำการขุดหาแร่ที่ไม่ค่อยมีคุณภาพดีนักและอยู่ลึกลงไปใต้ดินจึงทำให้บริษัทนั้นมีการใช้พลังงานมากขึ้นในการขุดหาแร่ดังกล่าว
นอกจากนี้ใน ABARE เองนั้นยังได้พบอีกว่าอุตสาหกรรมการเกษตรเองนั้นก็ไม่ได้ดีไปกว่าอุตสาหกรรมเหมืองแร่เท่าไรนักและการใช้พลังงานมีมากขึ้น โดยเหตุผลหลักๆนั้นมาจากสภาวะแห้งแล้งที่ทำให้ผลผลิตนั้นน้อยลงตามลงมา
ส่วนอุตสาหกรรมในภาคอื่นๆนั้นมีการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและไม่ทำให้เกิดมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ส่วนในส่วนการผลิตและงานการบริการนั้นเริ่มมีการใช้พลังงานอย่างประสิทธิภาพขึ้นมาบ้าง
