พนักงานลูกจ้างต่างห้อข้าวใส่กล่องไปทานระหว่างงานกันมากขึ้นในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำ ทำให้เจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขต่างออกมาแสดงความกังวลว่าประชาชนจะเกิดอาการอาหารเป็นพิษได้กันง่ายขึ้น
ดร Michael Eyles จาก Food Safety Information Council ออกมากล่าวว่าการจะห่ออาหารไปรับประทานนั้นควรจะทำให้แน่ใจก่อนว่าอาหารนั้นจะไม่เสียหรือบูดก่อนที่จะรับประทาน
ในแต่ละปีประชาชนชาวออสเตรเลียนั้นต้องเดินทางไปพบแพทย์กว่า 300,000 คนเนื่องจากมีอาการอาหารเป็นพิษซึ่งมีสาเหตุมาจากเชื้อแบคทีเรีย นอกจากนี้เชื้อแบคทีเรียดังกล่าวนั้นยังเป็นสาเหตุที่ทำให้ประชาชนชาวออสเตรเลียกว่า 120 คนนั้นต้องเสียชีวิตลงในแต่ละปีอีกด้วย
ดร Michael ได้ออกมาแนะนำว่าในการนำอาหารมารับประทานที่ทำงานนั้น หลังจากที่ทำการอุ่นในไมโครเวฟแล้ว ให้แบ่งอาหารเป็นสัดส่วนเล็กๆก่อนที่จะนำไปแช่ในตู้เย็นเพื่อให้ความเย็นนั้นเข้าไปรักษาคุณภาพอาหารได้เร็วขึ้น อาหารเหลือนั้นไม่ควรจะเก็บไว้เกินกว่า 2-3 วันและหากไม่แน่ใจให้ทิ้งไปเสีย
หากจะอุ่นอาหารรับประทานควรจะให้แน่ใจว่าอาหารนั้นร้อนทั่วถึง และสภาพในตู้เย็นที่เก็บอาหารนั้นไม่ควรที่จะแน่นมาเกินไปและอุณหภูมิจะต้องต่ำกว่า 5 องศาเซลเซียส นอกจากนี้ห้องครัวในสำนักงานเองนั้นควรที่จะมีการทำความสะอาดอยู่ตลอดเวลาเพื่อไม่ไห้เกิดการแพร่เชื้อแบคทีเรีย
ส่วนอาหารของเด็กๆนั้นสามารถเก็บในความเย็นได้โดยใส่น้ำผลไม้เย็นๆหรือ น้ำขวดลงไปด้วยก็ได้ เนื้อที่แช่แข็งมานั้นควรจะใส่รวมไปกับของเย็นอย่างอื่น ส่วนอาหารอย่างอื่นที่มีไข่เป็นส่วนผสมหรือเนยนั้นไม่ควรใส่รวมไปในอาหารกลางวัน ประชาชนที่เกิดอาการอาหารเป็นพิษนั้นไม่ควรรับประทานอาหารภายในระยะเวลา 48 ชั่วโมงหลังจากที่มีอาการอาเจียนหรือท้องเสียร่วมด้วย