2025-12-05

ออสเตรเลียเตรียมเป็นผู้นำในการจัดตั้งองค์กรต่อต้านการก่อสร้างหัวอาวุธนิวเคลียร์พร้อมกับประเทศญี่ปุ่น




news_00033_1.jpg

 

ประเทศออสเตรเลียกำลังจะมาเป็นผู้นำในการริเริ่มการสลายการก่อสร้างพลังงานนิวเคลียร์ขึ้นโดยมีรัฐมนตรีประกระทรวงต่างประเทศ Gareth Evans นั้นเป็นหนึ่งในผู้ดำเนินการในเรื่องดังกล่าวกับนานาชาติ

 

นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย Kelvin Rudd ได้ประกาศแผนการดังกล่าวในการจัดตั้งคณะกรรมาธิการสากลในการสลายกำลังการก่อสร้างพลังงานนิวเคลียร์หลังจากที่ได้เดินทางไปยังประเทศญี่ปุ่น ณ เมืองฮิโรชิมาเมื่อเช้าวานนี้ที่ผ่านมา

 

นายกรัฐมนตรี Kelvin กล่าวกับนักศึกษาในมหาวิทยาลัย Kyoto University ว่าประเทศญี่ปุ่นนั้นในฐานะที่เป็นประเทศเดียวในโลกที่เคยถูกโจมตีด้วยอาวุธนิวเคลียร์นั้นจะถูกทาบทามให้มามีส่วนร่วมในการปฏิบัติการในครั้งนี้อีกด้วย

 

ระเบิดนิวเคลียร์ได้ก่อความพินาศไว้ที่เมืองฮิโรชิมาในวันที่ 6 สิงหาคมและทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 140,000 คนด้วยระเบิดเพียงครั้งเดียวที่มีน้ำหนัก 15 กิโลตันเท่านั้น นอกจากนี้นาย Kelvin Rudd ยงได้กล่าวเสริมอีกว่าในปัจจุบันนี้นั้นได้มีหัวรบนิวเคลียร์ทั่วโลกอยู่กว่า 10,000 ลูกอยู่ในระหว่างการประกอบส่วนอีกกว่า 20,000 ลูกนั้นได้ถูกบรรจุเก็บไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และในหลายๆลูกนั้นมีอนุภาพร้ายแรงกว่านิวเคลียร์เมื่อครั้งที่เมืองฮิโรชิม่านั้นโดนโจมตีจากสหรัฐอเมริกาเสียอีก

 

คณะกรรมการดังกล่าวที่จะจัดตั้งขึ้นมานั้นจะทำการตรวจสอบการทำงานของโครงงานการตรวจสอบอาวุธนิวเคลียร์ของในประเทศออสเตรเลียและในประเทศญี่ปุ่นในการพัฒนานโยบายในการกำหนดข้อบังคับในทวิภาคี Non Proliferation Treaty (NPT) ในปี 2010

 

ส่วนในการดำเนินการในเบื้องต้นนั้นทางคณะกรรมาธิการจะทำการรายงานไปยังการประชุมหน่วยงานนานาชาติในด้านอาวุธนิวเคลียร์ปลายปีหน้า นอกจากนี้นาย Kelvin Rudd เตรียมเข้าหารือกับรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศ Gareth Evans และนายกรัฐมนตรีของประเทศญี่ปุ่น Yasuo Fukuda ที่กรุงโตเกียวในวันพฤหัสนี้

 

ทางทวิภาคี NPT ได้ตกลงมาอยู่ภายใต้ความกดดันเป็นอย่างมากเนื่องมาจากประเทศสมาชิกของทวิภาคีดังกล่าวอย่างเช่นเกาหลีเหนือได้ละเลยต่อสนธิสัญญาและนานาประเทศโดยการดำเนินการสร้างหัวอาวุธนิวเคลียร์

 

การสนใจของนานาประเทศในต่อการผลิตอาวุธนิวเคลียร์ได้ลดลงหลังจากสงครามเย็นได้ยุติลงระหว่างสหภาพโซเวียตกับสหรัฐอเมริกา และการกักตุนหัวอาวุธดังกล่าวได้มีจำนวนลดลงในปี 1980

 



NATUI Officially 2008-06-10 01:20:39 3593