หลังจากที่มีการประท้วงเนื้อวัวนำเข้าจากประเทศสหรัฐอเมริกาในประเทศเกาหลีใต้ทำให้ประเทศออสเตรเลียนั้นเสี่ยงต่อการสูญเสียดุลการค้าในการส่งออกเนื้อวัวไปยังเกาหลีใต้เช่นเดียวกัน ในขณะที่ประเทศสหรัฐอเมริกาต้องเสียมูลค่าของเนื้อส่งออกมากถึงหลายล้านเหรียญและทำให้เกิดผลกระทบต่อการค้าเสรีระหว่างสองประเทศเป็นอย่างมาก
กลุ่มผู้ประท้วงคัดค้านเนื้อวัวที่ส่งออกจากสหรัฐอเมริกาในเกาหลีใต้กล่าวว่ามีเชื้อวัวบ้าอยู่ในเนื้อวัว
ในขณะเดียวกันผู้บริหารของ Cattle Council of Australia, David Inall กล่าวว่าจากกระแสความตื่นตัวของเชื้อวัวบ้าในเนื้อส่งออกเมื่อก่อนนั้นทำให้ออสเตรเลียต้องสูญเสียดุลการค้าของเนื้อส่งออกเป็นมูลค่ามากถึง 800 ล้านเหรียญต่อปีเลยทีเดียว
ประเทศเกาหลีใต้นั้นยังคงเป็นประเทศนำเข้าเนื้อวัวใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศออสเตรเลียถึงแม้ว่าเนื้อนำเข้าต่างๆในประเทศเกาหลีใต้นั้นได้ลดลงถึง 13% แล้วก็ตาม
David กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวนั้นเป็นกระแสความกลัวจากปากต่อปากกันซึ่งทำให้เกิดความกลัวของโรคดังกล่าวเกิดขึ้นกันเป็นวงกว้างอย่างมาก และขณะนี้ทางออสเตรเลียเองก็กำลังจับตาดูสถานการณ์อยู่อย่างใกล้ชิด
การประท้วงดังกล่าวนั้นทำให้เกิดความไม่ไว้วางใจของรัฐบาลประธานาธิบดี Lee Myung bak เป็นอย่างมากสืบเนื่องมาจากการทำการค้าเสรีกับสหรัฐอเมริกา
ในปี 2003 ที่ผ่านมาสหรัฐอเมริกาได้ยินยอมตกลงกับประเทศเกาหลีใต้ที่จะไม่มีการนำเข้าเนื้อวัวหลังจากพบเชื้อวัวบ้าในเนื้อขึ้น แต่ผู้บริโภคไม่พอใจที่จะให้มีการนำเข้าเนื้อวัวอีกต่อไปและได้จุดชนวนให้เกิดการประท้วงของกลุ่มผู้ชุมนุมมากกว่า 100,000 คนในประเทศเกาหลีใต้
อย่างไรก็ตามประเทศออสเตรเลียได้เจรจาการค้าเสรีกับประเทศเกาหลีใต้และได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการรักษาสัดส่วนของตลาดสินค้าส่งออกหลังจากที่คู่แข่งสำคัญของออสเตรเลียอย่างสหรัฐอเมริกาได้รับอภิสิทธิ์ส่วนลดอัตราภาษีสำหรับสินค้าส่งออกไปยังประเทศต่างๆเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้การประท้วงในประเทศเกาลีนั้นยังให้เป็นอุปสรรคต่อการเจรจาเป็นอย่างมาก แต่ในขณะปัจจุบันนี้องค์กรส่งออกเนื้อของสหรัฐอเมริกาได้เตรียมวางแผนกับทางรัฐบาลในการรับมือกับปัญหาดังกล่าวอยู่ในขณะนี้
