
นสพ The Australian รายงานมาว่า ทีมงานนักวิทยาศาสตร์ขององค์กรสหประชาชาติต้องเผชิญหน้ากับคำวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักหลังจากได้ อ้างความเชื่อมโยงของปรากฎการณ์ของสภาพอากาศที่แปรปรวนและความรุนแรงทางธรรมชาติว่าเป็นผลมาจากสภาวะโลกร้อน
คณะกรรมการของ Intergovernmental Panel on Climate Change (IPCC) ได้อ้างความสัมพันธ์ของปรากฎการณ์ทั้งสอง โดยไม่ได้รับการตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์ก่อนแต่อย่างใด และละเลยต่อคำแนะนำของที่ปรึกษาทางวิทยาศาสตร์อีกด้วย
ผู้ที่จัดเขียนข้ออ้างดังกล่าวได้ในที่สุดถอนความเห็นออกเนื่องจากหลักฐานทางวิทยาศาสตร์มีไม่เพียงพอ นอกจากนี้คำกล่าวเกี่ยวกับสภาวะโลกร้อนและภัยทางธรรมชาติยังได้กลายมาเป็นอีกเหตุผลที่ประเทศในทวีปแอฟฟริกาออกมาเรียกร้องให้ประเทศร่ำรวยอย่างสหรัฐออกมาเป็นเงินจำนวน 100 พันล้านเหรียญ
อย่างไรก็ตามทาง IPCC ทราบตั้งแต่ในปี 2008 แล้วว่าความสัมพันธ์ระหว่างภัยธรรมชาติและสภาวะโลกร้อน แต่ได้นำผลกระทบที่เกิดจากภัยธรรมชาติมาเป็นเหตุผลในการเรียกร้องให้มีการต่อต้านสภาวะโลกร้อน
#news#
ผู้นำจากประเทศออสเตรเลีย นาย Kevin Rudd เองก็ได้มีการนำปัจจัยทางธรรมชาติมาเป็นตัวตัดสินว่าควรจะมีการเก็บภาษีทางมลภวาะแก่ธุรกิจในประเทศหรือไม่ ส่วนรับมนตรีด้านสภาพอากาศโลกจากประเทศอังกฤษนาย Ed Miliband ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นว่าอุทกภัยขนาดใหญ่ที่เกิดขึ้นในบังคลาเทศในมีส่วนเกี่ยวข้องกับสภาวะโลกร้อน
ประเทศร่ำรวยทั้งหลายจะต้องเสียเงินไปเป็นจำนวนมากให้แก่ประเทศยากจนหากหลักฐานทางวิทยาศาสตร์สามารถพิสูจน์ได้ว่ามลภาวะทางอากาศจากอุตสาหกรรมในประเทศเหล่านีที่ก่อให้เกิดสภาวะโลกร้อนเป็นเหตุทำให้เกิดภัยทางธรรมชาติจริง
ในตอนนี้หน่วยงาน IPCC ได้ถูกบังคับให้ทำการสำรวจหาข้อเท็จจริงอีกครั้งว่าภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นนั้นมีส่วนเกี่ยวข้องกับสภาวะโลกร้อนหรือไม่