สำนักข่าว AFP รายงานว่าประเทศไทยได้ยกเลิกประกาศนำพระราชบัญญัติประกาศสภาวะฉุกเฉินใช้ในจังหวัดทางภาคเหนือ หลังจากเป็นเวลา สองเดือนที่รัฐบาลได้สลายม้อบไป
กฎดังกล่าวที่มอบอำนวจให้กับเจ้าหน้าที่ในการควบคุมตัวการชุมนุมของประชาชนจำนวน 5 คนขึ้นไปเป็นเวลา 30 วัน ยังคงมีผลบังคับใช้ใน 16 จังหวัด รองโฆษกรัฐบาล นายศุภชัย ใจสมุทรกล่าวว่าคณะรัฐมนตรีได้ตัดสินใจที่จะยกเลิกมาตรการสภาวะฉุกเฉินในจังหวัด ลำปาง ร้อยเอ็ด และสกลนคร เพิ่มขึ้นมานอกเหนือจากพื้นที่อื่นๆที่ได้ถูกยกเลิกมาตรการสภาวะฉุกเฉิน เนื่องจากไม่มีความเคลื่อนไหวทางการเมืองในจังหวัดดังกล่าว
#news#
ส่วนในอีก 16 จังหวัดนั้นทางการรายงานว่ายังคงมีความเคลื่อนไหวทางการเมืองไม่ว่าจะเป็นการใช้วิทยุชุมชนเพื่อก่อให้เกิดความไม่สงบสุขและการลอบสังหารบุคคลสำคัญอีกด้วย เจ้าหน้าที่ทางการทูตของสหรัฐอเมริการะดับสูง William Burns ที่ได้เดินทางมายังประเทศไทยได้กล่าวว่าการประกาศใช้พระราชบัญญัติสภาวะฉุกเฉินนั้นควรที่จะได้รับการยกเลิกทั้งหมด โดยออกความเห็นว่าจะไม่เป็นผลดีต่อระบบประชาธิปไตย
ทางกลุ่ม Human Rights Watch ใน New York ประเทศสหรัฐอเมริกากล่าวว่ารัฐบาลประเทศไทยได้ใช้มารตราการสภาวะฉุกเฉินในการจับตัวผู้ต้องสงสัยโดยที่ไม่มีข้อหาได้ถึง 30 วัน และการที่จับกุมตัวผู้ต้องสงสัยซึ่งในตอนนี้ก็ยังไม่มีใครทราบว่ามีจำนวนเท่าไหร่และอยู่ที่ใด และหากผู้ถูกคุมขังตกไปอยู่ภายใต้ความดูแลของเจ้าหน้าที่ที่ไม่ได้รับการฝึกฝนหรือประสบการณ์ในด้านกฎหมายพลเมือง อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อผู้คุมขังได้อย่างมาก
รัฐบาลได้ปฎิเสธที่จะยกเลิกใช้ประกาศสภาวะฉุกเฉินใน กทม ตามที่พรรคฝ่ายค้านได้เรียกร้องไปในวันที่ 25 กรกฏาคมซึ่งเป็นวันที่มีการเลือกตั้งซ่อม สส และในระยะเวลาเดียวกันที่ผู้นำเสื้อแดงถูกควบคุมตัวในข้อหาก่อการร้าย
