
สาวประเภทสองชาวออสเตรเลียได้รับคำกล่าวขออภัยจาก Department of Foreign Affairs and Trade (DFAT) ในฐานะที่ต้องทนทุกข์กับความกดดันหลายๆอย่างในขณะที่ต้องเดินทางท่องเที่ยวไปยังต่างประเทศด้วย passport เพศชาย
สาวประเภทสอง Stefanie Imbruglia อายุ 42 ปีซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องของนักร้องสาว Natalie Imbruglia ได้ทำข้อตกลงร่วมกับทาง DFAT ในการใช้มาตรการใหม่สำหรับสาวประเภทสองที่จะต้องยื่นเรื่องทำ passport
Stefanie ได้ชีวิตเหมือนผู้หญิงมาเป็นเวลาสองปีก่อนที่จะยื่นเรื่องทำ passport เพื่อที่จะเดินทางไปยังประเทศไทยเพื่อรับการผ่าตัดแปลงเพศนในเดือนตุลาคม 2007 โดยได้แจ้งความประสงค์ต้องการให้ระบุเพศว่าเป็นผู้หญิง แต่รัฐบาลชุดที่แล้วนำทีมโดยอดีตนายกรัฐมนตรี John Howard ปฏิเสธที่จะมีการออก passport เพศหญิงเป็นกรณีพิเศษเป็นเวลา 1 ปีสำหรับสาวประเภทสองที่ต้องการจะเดินทางไปรับการผ่าตัดในต่างประเทศ
หลังจากที่ต้องจำใจเดินทางมายังประเทศไทยด้วย passport ซึ่งระบุเพศของ Stefanie ไว้ว่าเป็นผู้ชาย ทำให้ต้องถูกล้อเลียนจากเจ้าหน้าที่ตรวจ passport ในประเทศซึ่งได้คำว่า “sir” (เป็นคำขานหากผู้ฟังเป็นผู้ชาย) ในการพูดคุยกับ Stefanie ซึ่งก็แต่กายใส่กระโปรงเหมือนกับผู้หญิงทั่วไป
เจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองที่สนามบินในประเทศไทยได้ตั้งข้อสงสัยเนื่องจากข้อมูลใน passport และรูปพรรณสัณฐานของ Stefanie ไม่ตรงกัน เจ้าหน้าที่คนไทยพูดด้วยถ้อยคำเสียงดังแล้วหันมาถามตนว่าเป็น ผู้ชายหรือผู้หญิงกันแน่ จนหลายๆคนที่ต้อคิวต่างก็หันมาดูตามๆกัน และทำให้ตนนั้นถึงกับรู้สึกกลัวขึ้นมาทันที
#news#
สำหรับสาวประเภทสองแล้ว Stefanie กล่าวว่า หากตนหรือคนอื่นๆที่จะต้องเดินทางไปยังต่างประเทศด้วย passport ที่ระบุไว้ว่าเป็นเพศชาย อาจได้รับอันตรายไม่ว่าจะเป็นการข่มขู่ ความรุนแรงหรือแม้แต่การถูกจับกุม Passport อายุ 1 ปีแบบเฉพาะกิจได้ถูกกำหนดให้มีขึ้นมาภายหลังจากที่สาวประเภทสองได้ถูกจับกุมในประเทศสิงค์โปร์เนื่องจากใน passport ได้ระบุไว้ว่าเป็นเพศชาย
หลังจากที่ Stefanie ได้เดินทางกลับมาจากประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้วก็ได้ทำการร้องเรียนไปยัง DFAT กับหน่วยงาน Australian Human Rights Commission โดยกล่าวว่าทาง DFAT ได้ฝ่าฝืนสิทธิในฐานะพลเมืองและทางการเมือง โดยรู้ว่าหากไม่ให้เปลี่ยน passport แล้วตนจะต้องตกมาอยู่ในอันตราย และถือเป็นการกีดกันทางเพศอีกต่างหากด้วย
หลังจากที่ได้มีการไกล่เกลี่ยกันเป็นที่เรียบร้อยแล้วทาง DFAT ได้เขียนจดหมายมาขอโทษแก่ Stefanie ที่ทำให้ต้องพบกับความอับอายที่ผ่านมา และทาง DFAT ได้ออกมาตราเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก และจะมีการออก passport ในเพศที่เหมาะสมแก่ชาวออสเตรเลียที่ตะเดินทางออกไปยังต่างประเทศเพื่อรับการผ่าตัด