เมื่อพูดถึงการทดสอบความรู้ภาษาอังกฤษก่อนไปเรียนต่อต่างประเทศ คนไทยส่วนใหญ่จะนึกถึงการสอบ TOEFL ซึ่งเป็นการทดสอบระบบอเมริกัน แต่สำหรับผู้ที่กำลังเตรียมตัวไปเรียนต่อที่ประเทศออสเตรเลีย อังกฤษ หรือ นิวซีแลนด์ แล้วมักจะได้รับคำแนะนำให้สอบ IELTS แทนเนื่องจากในปัจจุบัน มีแนวโน้มว่า สถานศึกษาในประเทศเหล่านี้จะนิยมใช้ผลการทดสอบของ IELTS มากขึ้นเรื่อยๆ แม้แต่ในแคนาดาและอเมริกาเองก็เริ่มยอมรับผลสอบ IELTS กันมากขึ้นด้วยเช่นกันแนวโน้มดังกล่าวมีที่มาจากรูปแบบที่มีเอกลักษณ์และมีประสิทธิภาพของการสอบ IELTS นั่นเอง
IELTS คืออะไร
IELTS คือชื่อย่อของระบบการวัดผลภาษาอังกฤษนานาชาติ (International English Language Testing System) ซึ่งเป็นระบบทดสอบความรู้ภาษาอังกฤษสำหรับผู้ที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลักแต่มีความประสงค์ที่จะใช้ ภาษาอังกฤษในการศึกษาต่อ จัดทำและพัฒนาโดย British Council, IDP Educationa Australia : IELTS Australia และ University of Cambridge Local Examinations Syndicate (UCLES) นอกจากนี้ข้อสอบยังแบ่งออกเป็น 2 ชุดคือ
IELTS เป็นระบบวัดความรู้ด้านภาษาอังกฤษสำหรับการศึกษาต่อชนิดเดียวที่ให้ความ สำคัญต่อการใช้ภาษาอังกฤษ ทั้ง 4 ทักษะคือ อ่าน พูด ฟัง เขียน โดยให้คะแนนทักษะทั้งสี่แยกจากกัน สามารถวัดผลได้ชัดเจน แม่นยำ และถูกต้องตรงกับความสามารถในการใช้ภาษาที่แท้จริงของผู้สอบ IELTS จะทดสอบทั้งสี่ทักษะ โดยแบ่งการทดสอบเป็นสองช่วง ช่วงเช้า: สอบข้อเขียน ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที (การฟัง 30 นาที, การอ่าน 60 นาที และการเขียน 60 นาที) ช่วงบ่าย: สอบสัมภาษณ์รายบุคคลกับอาจารย์ชาวต่างประเทศใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที Academic Module สำหรับผู้ที่ต้องการเรียนต่อในระดับอุดมศึกษาหรือสูงกว่า ในทุกๆ สาขา
General Training Module สำหรับผู้ที่ต้องการศึกษาต่อในระดับ ที่ต่ำกว่าปริญญาตรี ระดับมัธยมศึกษา หลักสูตรระยะสั้นและหลักสูตรฝึกอบรมต่างๆ แต่บางสถาบันต้องการให้ผู้ที่สมัครเรียนสอบ Academic Module อันเนื่องมาจากความยากง่ายของสาขาวิชา ซึ่งผู้สมัครจะต้องสอบถามเจ้าหน้าที่แนะแนวของ IDP หรือสามารถสอบถามโดยตรงกับสถาบัน
ลักษณะข้อสอบ IELTS จะทดสอบทักษะทั้งสี่โดยแบ่งการทดสอบออกเป็น 2 ช่วง
ช่วงเช้า สอบข้อเขียนใช้เวลา 2 ชั่วโมงครึ่ง ทดสอบการฟัง อ่าน และเขียน
ช่วงบ่าย สอบสัมภาษณ์รายบุคคลใช้เวลาคนละประมาณ 10-15 นาที
ข้อดีของการสอบ IELTS
สำหรับผู้ที่มีพื้นฐานภาษาอังกฤษอยู่ในเกณฑ์ดีแล้ว สอบเพื่อที่จะนำผลสอบ ไปใช้ในการสมัครเรียนโดยไม่ต้องไปเรียนภาษาเพิ่ม หรืออาจจะเรียนภาษาอังกฤษ เพื่อเรียนต่อในระยะสั้นก่อนที่มหาวิทยาลัยจะเปิด สำหรับผู้ที่มีพื้นฐานภาษาอังกฤษอยู่ในเกณฑ์ปานกลางสามารถที่จะทราบว่า ภาษาอังกฤษของตนเองอยู่ในระดับใด ซึ่งผลสอบจะเป็นส่วนช่วยในการวางแผนการเรียนของคุณว่าต้องใช้เวลาเรียนภาษาประมาณกี่สัปดาห์จึงจะสามารถสอบได้ตามเกณฑ์ที่สถาบันกำหนดไว้ ผลภาษาอังกฤษและในช่วงนั้นที่มหาวิทยาลัยหรือสถาบันกำลังเปิดรับอยู่ หรือไม่ ในการสมัครเรียนหากมีผลคะแนนตั้งแต่ 4.5-5.5 ขึ้นไปคุณสามารถ เลือกเรียนอังกฤษเฉพาะด้าน โดยไม่ต้องไปเรียนภาษาอังกฤษทั่วไป ดังที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า การสอบ IELTS เป็นการทดสอบทั้ง 4 ทักษะ ซึ่งเมื่อผลสอบออกมาคุณจะรู้ได้ว่าการอ่าน การเขียน การฟัง การพูด ทักษะไหนที่คุณ จะต้องปรับปรุงมากน้อยเพียงใด IELTS เป็นการสอบที่ใกล้เคียงกับการที่คุณจะต้องไปใช้มากที่สุด เนื่องจาก การเรียนการสอนในสถาบันคุณจะต้องใช้ทั้ง 4 ทักษะ เช่น ในจดบันทึกจาก อาจารย์ผู้สอน คุณก็จะต้องมีความสามารถในการฟังและการเขียนที่ดี ในการ บรรยายหน้าชั้นเรียนหรือการสื่อสารกับอาจารย์ผู้สอนและเพื่อนร่วมชั้นเรียน คุณก็จะใช้ทักษะการพูด ส่วนการอ่านคุณจะต้องอ่านหนังสือเรียนเพื่อทำความ เข้าใจก่อนการเรียน จะเห็นได้ว่าทุกทักษะจะมีความสำคัญทั้งสิ้นจะขาดทักษะใด ทักษะหนึ่งไม่ได้ แต่ถ้าคุณสอบวัดผลชนิดอื่นซึ่งจะมีไม่ครบทุกทักษะก็จะทำให้ คุณไม่มีความพร้อมทุกทักษะและยังขาดความมั่นใจในการศึกษาต่ออีกด้วย
ค่าใช้จ่ายในการสอบ IELTS
สำหรับค่าธรรมเนียมการสอบ IELTS คิดเป็นเงิน 100 ดอลล่าร์สหรัฐซึ่งมี ผู้กล่าวว่าแพงเกินไปโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเปรียบเทียบกับ TOEFL แต่อย่างไร ก็ตามเนื่องมาจากหลักเกณฑ์ในการสอบที่ต่างกัน การสอบ IELTS จะเป็นการสอบทุกทักษะโดยเฉพาะการพูดจะมีเจ้าหน้าที่ชาวต่างชาติมาทำการทดสอบ บรรยากาศการสอบอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้การสอบ IELTS แตกต่างจากการสอบ TOEFL อย่างเห็นได้ ชัดก็คือ บรรยากาศการสอบที่ค่อนข้างจะผ่อนคลาย ไม่เป็นทางการ แต่ในขณะเดียวกันก็สามารถวัดผลได้อย่างละเอียดถี่ถ้วน แม่นยำ เพราะในการสอบแต่ละครั้งจะจำกัดจำนวนผู้สอบไว้เพียงไม่เกิน 100 คนเท่านั้น ผู้คุมสอบจึงสามารถเอาใจใส่ต่อผู้สอบแต่ละรายได้อย่างเต็มที่
ศูนย์สอบ IELTS ในประเทศไทย
ในประเทศไทยมีศูนย์สอบ IELTS อยู่เพียงสามแห่งคือ ที่กรุงเทพฯ IDP Education Australia, British Council และ Australia Centre ที่เชียงใหม่ สำหรับที่ศูนย์ IDP นั้น มีการจัดสอบในวันเสาร์ อย่างไรก็ดีทาง IDP สามารถให้บริการจัดสอบนอกสถานที่ได้ในกรณีที่มีจำนวนผู้สอบเพียงพอ
การเตรียมตัวสอบ IELTS
สำหรับผู้ที่สนใจเตรียมตัวสอบ IELTS อย่างจริงจังด้วยการเข้าเรียนกับอาจารย์ ผู้มีประสบการณ์สำนักงาน IDP และศูนย์ภาษาอังกฤษแห่งออสเตรเรีย (ELCA) ร่วมกันจัดหลักสูตรเตรียมสอบ IELTS หากมีเวลาเตรียมตัวมากพอ นักศึกษาควรลงทะเบียนเรียนคอร์ส เตรียมสอบ IELTS หลักสูตรหนึ่งเดือน (30 ชั่วโมง) ซึ่งจัดสอนภาคค่ำ สามวันต่อสัปดาห์ (จันทร์, พุธ, ศุกร์) ที่ IDP ส่วนผู้ที่ไม่มีเวลามากพอในการเตรียมตัว ก็มีหลักสูตร เร่งรัด 12 ชั่วโมง ในวันหยุดสุดสัปดาห์ (เสาร์และอาทิตย์) โดยจัดสอนก่อนวันสอบ IELTS หนึ่งสัปดาห์ที่ IDP เช่นกัน หลักสูตรหลังนี้ กำลังเป็นที่นิยมอย่างมาก สำหรับนักศึกษาที่มีเวลาจำกัด ในการเตรียมตัวไปเรียนต่อ
สำหรับผู้ที่ต้องการเตรียมตัวสอบด้วยตนเอง อาจทำตามข้อเสนอแนะง่ายๆ ดังต่อไปนี้
ฝึกฝนด้านเวลา
ปัญหาที่สำคัญที่สุดในการสอบของนักศึกษาส่วนใหญ่คือเวลา เพราะฉะนั้นควรฝึก อ่านและเขียนในเวลาที่จำกัดอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้คุ้นเคยกับเวลาที่จำกัดในการสอบ ไม่ละเลยความแม่นยำ ความเร็วอย่างเดียวไม่เพียงพอสำหรับการสอบ นักศึกษาต้องฝึกฝนการใช้ภาษา ที่ถูกต้องด้วย ซึ่งอาจทำได้โดยการหาหนังสือคู่มือภาษาอังกฤษต่างๆ มาอ่าน และทำแบบฝึกหัด
ขวนขวายเพิ่มเติม
ในปัจจุบันสื่อต่างๆ ที่ใช้ภาษาอังกฤษมีอยู่มากมายในประเทศไทย นักศึกษาจึงควร ขวนขวายหาความรู้และทักษะทางภาษาเพิ่มเติมจากสื่อเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็น หนังสือพิมพ์ นิตยสาร รายการวิทยุและโทรทัศน์ (โดยเฉพาะอย่างยิ่งรายการ ผ่านดาวเทียม) ตลอดจนเอกสาร คู่มือต่างๆ ที่เขียนเป็นภาษาอังกฤษ นอกจากนี้ การเข้าร่วมกลุ่มกับเพื่อนที่สนใจภาษาอังกฤษก็จะช่วยให้ได้มีโอกาสฝึกฝนมากขึ้น
มีความเชื่อมั่น
แม้การเรียนหนักจะมีความสำคัญในการเตรียมตัวสอบ แต่การดูแลรักษาสุขภาพ ก็เป็นเรื่องจำเป็น นอกจากนี้หลายคนมักตื่นเต้น วิตกกังวลเป็นอย่างมากเมื่อใกล้สอบวิธีการกำจัดความกังวลอาจทำได้ หลายวิธีโดยเฉพาะอย่างยิ่งเตรียมตัวให้พร้อมเพื่อจะได้มีความเชื่อมั่น อีกวิธีหนึ่งในการสร้างความเชื่อมั่น (หากจำเป็น) คือการทดลองเข้าสอบก่อนการสอบจริงเสียครั้งหนึ่งก่อน เพื่อทำความคุ้นเคยกับข้อสอบ ขั้นตอน และบรรยากาศการสอบ เมื่อถึงเวลาต้องสอบจริงนักศึกษาจะได้มีความมั่นใจมากขึ้น อย่างไรก็ดีผู้สอบควรพิจารณาเรื่องวันสอบโดยละเอียด เนื่องจากการสอบแต่ละครั้ง จะต้องเว้นห่างกันอย่างน้อยสามเดือน
การปฏิบัติตัวในการสอบ
ไม่มีสูตรลับใดๆ ที่นักศึกษาจะสามารถนำมาใช้ เพื่อพิชิตข้อสอบ IELTS แต่ข้อเสนอแนะต่อไปนี้ อาจช่วยให้นักศึกษาทำดีที่สุดในระหว่างการสอบได้
ไม่กังวลจนเกินไป
แม้จะรู้สึกท้อถอยและไม่มั่นใจเมื่อทำข้อสอบส่วนหนึ่งเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้ลืมเสีย เริ่มทำส่วนต่อไปและคิดเสียว่าเริ่มทำข้อสอบครั้งใหม่
ไม่ท่องจำคำตอบ
ไม่มีประโยชน์เลยที่จะเสียเวลา ท่องจำคำตอบเข้ามาในห้องสอบ เพราะนักศึกษา ไม่อาจแน่ใจได้ว่าจะมีคำถามตรงกับสิ่งที่ท่องจำมา และอาจทำให้ลืมกฎสำคัญต่างๆ ได้เนื่องจากตั้งใจท่องจำสิ่งที่ไม่จำเป็น
ไม่ลืมอ่านคำถาม
ต้องตั้งใจอ่านคำถามให้ดี เพราะนักศึกษาจะไม่ได้คะแนนเลย หากตอบไม่ตรงคำถาม แม้จะใช้ไวยากรณ์ได้ถูกต้องก็ตาม
บริหารเวลาให้เป็น
ต้องรู้ว่าในแต่ละส่วนมีเวลาให้เท่าใดจากนั้นจึงแบ่งเวลาอย่างรอบคอบ หากทำเสร็จก่อนเวลาที่แบ่งไว้ ควรตรวจเช็คคำตอบ ในขณะเดียวกันอย่าเสียเวลา กับส่วนใดส่วนหนึ่งจนไม่มีเวลาทำส่วนอื่นๆ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการสอบ IELTS คุณสามารถอีเมล์มาที่ IELTS staff หรือโทรมาที่ 231-0531-3 และ 231-0923 ทุกวันจันทร์-เสาร์ เวลา 10.00 - 17.00 น.
หลักฐานการสมัครสอบ
**จัดสอบครั้งละ 100 คน **
ขอขอบคุณ แหล่งที่มาของข้อมูล: http://www.idp.co.th