
สำนักข่าว AFP ได้รายงานมาว่าสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศไทยได้ทวีความรุนแรงขึ้นหลังจากกลุ่มผู้ต่อต้านรัฐบาลเสื้อแดงไม่แสดงความเกรงกลัวต่อการสลายม็อบ ในขณะที่ทาง นคร Washington ประเทศสหรัฐอเมริกาออกมาเตือนว่าเหตุการณ์อาจจะเกิดการนองเลือดขึ้น
ประเทศสหรัฐอเมริกาได้ออกมาเรียกร้องให้ทั่งสองฝ่ายนั้นออกมาหาทางแก้ปัญหากันโดยสันติวิธี เนื่องจากสภาพการเมืองทำให้ร้านค้าและศูนย์การค้าหลายแห่งนั้นต้องหยุดให้บริการมาหลายอาทิตย์และยังส่งผลกระทบให้เกิดแก่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในประเทศอีกด้วย
#news#
โฆษกของทาง State Department จากทำเนียบขาว Philip Crowley กล่าวว่าทางสหรัฐได้เกลี้ยกล่อมให้มีการเจรจาแก้ปัญหากันจากทั้งสองฝ่าย และเชื่อการใช้ความรุนแรงจะเป็นการแก้ปัญหาทางการเมืองได้ แต่เท่าที่ผ่านมาสถานการณ์ก็ไม่ได้คลี่คลายลงไปแต่อย่างใด ทางกลุ่มเสื้อแดงได้ตั้งแคมป์และสร้างกำแพงที่ทำจากไม่ไผ่และยางรถยนต์โดยรอบ
นอกจากนี้ทางกลุ่มเสื้อแดงยังได้มีการสะสมไม่ไผ่เลาปลายแหลม และก้อนหินที่แตกเป็นชิ้นๆ ซึ่งทำให้หลายๆฝ่ายต่างเกรงกลัวว่าจะเกิดการปะทะขึ้นอีก และอาจทำให้เจ้าหน้าที่ต้องใช้แก้สน้ำตาและไฟ หากมีความจำเป็น อย่างไรก็ตามทางกลุ่มเสื้อแดงได้ออกมาปฎิเสธข้อกล่าวหาว่าได้มีการสะสมอาวุธ
โฆษกรัฐบาล ดร.ปณิธาน วัฒนายากร กล่าวว่า ถึงแม้ว่าการเจรจากันระหว่างสองฝ่ายจะเป็นการแก้ปัญหาทางการเมืองของประเทศได้ดีที่สุดในตอนนี้ แต่โอกาสที่ทั้งสองฝ่ายจะยอมหันหน้าเข้าเจรจากันนั้นมีน้อยเต็มที