สหรัฐอเมริกาพบยาพาราเซตามอลมีผลทำให้ตับไม่ทำงาน

#news#

เจ้าหน้าที่หน่วยงาน Therapeutic Goods Administration (TGA) เตรียมตรวจสอบคุณภาพของยาแก้ปวดพาราเซตามอล หลังจากพบผลข้างเคียงของยามีผู้ใช้แล้วตับไม่ทำงานในประเทศสหรัฐอเมริกา

ทางคณะกรรมการที่ปรึกษาในประเทศสหรัฐอเมริกาได้ออกมาแนะนำให้ใช้จำนวนยาลดลงจากจำนวนที่เคยได้แนะนำให้รับประทานได้ต่อวัน แต่หน่วยงานดูแลตัวยาโดยตรงนั้นยังไม่ได้ออกมาตัดสินใจแน่นอนแต่อย่างใดว่าจะต้องทีการลดปริมาณการใช้หรือไม่

ทาง TGA เองนั้นก็ได้ติดตามผลการวิเคราะห์ของสหรัฐอเมริกาอย่างใกล้ชิด และจะทำการตรวจสอบเองในประเทศออสเตรเลีย ว่าตัวยาที่มีส่วนผสมของพาราเซตามอลนั้นว่าได้รับการรับรองว่าปลอดภัยสำหรับผู้ป่วยหรือไม่

โฆษกของ TGA ยืนยันว่าการใช้ยาพาราเซตามอลเพื่อบรรเทาอาการปวดและการมีไข้นั้นจะไม่ก่อให้เกิดผลกระทบค้างเคียงใดๆทั้งสิ้นหากผู้ใช้นั้นปฏิบัติตามคำแนะนำบนฉลากข้างกล่อง

การใช้ยาพาราเซตามอลเป็นจำนวนมากเกินจะไปส่งผลกระทบแก่การทำงานของตับและหากใช้เป็นปริมาณจำนวนมากที่สุดอาจจะทำให้เกิดอันตรายต่อชีวิตได้

ประธานของ Australian Medical Association, ดร Andrew Pesce กล่าวว่ายาพาราเซตามอลอาจทำให้เกิดอันตรายต่อชีวิตหากใช้ในปริมาณที่มากเกิน นอกจากนี้ยาพาราเซตามอลนั้นเป็นยาแก้ปวดที่มีฤทธิ์ไม่รุนแรงมากเท่าไรนัก และตนคิดว่าประชาชนชาวออสเตรเลียทั่วไปไม่ได้ใช้ตัวยาประเภทนี้ในปริมาณมากเท่าไรนัก

ดร Andrew กล่าวต่อไปว่าอันตรายที่แท้จริงจากการใช้ยาพาราเซตามอลนั้นคือการใช้ยาในปริมาณที่สูงโดยไม่รู้ตัว ประชาชนควรจะทราบว่าแก้ปวดดังกล่าวนี้ได้กลายมาเป็นส่วนผสมในยาแก้หวัด และยาอื่นๆในปัจจุบัน และการรับประทานยาจะต้องมีความระมัดระวังให้ดีเป็นอย่างยิ่ง