ในปัจจุบันอุณหภูมิของโลกกำลังเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งผลที่ตามมาทำให้แผ่นน้ำแข็งใน Greenland และที่ Antarctic ละลายสูงขึ้นตามมาในอัตราที่เร็วมากขึ้นไปอีก และก่อนที่ศตวรรษนี้จะหมดลงความร้อนในโลกอาจมากเพิ่มมาอีก 7C หากปรากฏการณ์เรือนกระจกไม่ได้รับการแก้ไข
ในการศึกษาผลกระทบระยะยาวจากปรากฎการณ์สภาวะโลกร้อนภายใต้ชื่อ The Copenhagen โดย Matthew England จากมหาวิทยาลัย University of New South Wales และนักวิจัยอื่นๆ พบว่าอุตสาหกรรมการเกษตรของในประเทศออสเตรเลียในแถบลุ่มแม่น้ำ Murray Darling Basin จะได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง สิ่งมีชีวิตจะตายลงมากอันเป็นผลมาจากความร้อนอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ระดับน้ำทะเลสูงขึ้นจนทำให้ประชาชนที่อาศัยใกล้กับทะเลในประเทศออสเตรเลียและภูมิภาคเอเชียต้องอพยพ
รายงานฉบับนี้ได้ถูกจัดทำก่อนที่จะมีการประชุมสภาพอากาศโลกที่นคร Copenhagen โดยนักวิทยาศาสตร์ 26 คนจาก 8 ประเทศ ในการรวบรวมเอาข้อมูลล่าสุดของปรากฎการณ์โลกร้อนมาวิจัยถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นในอนาคตหลังจากที่ได้มีการจัดทำขึ้นมาแล้วครั้งหนึ่งในปี 2007
ในรายงานได้มีการกล่าวไว้ว่า ถึงแม้อุณหภูมิโลกจะไม่ได้สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องมาตลอด แต่ก็ยังคงมีการออกมาเตือนเรื่อยๆถึงอันตรายที่ตามมา อย่างไรก็ตามมีนักวิทยาศาสตร์หลายๆคนตั้งข้อสงสัยว่าในความเป็นจริงแล้วไม่ได้มีปรากฎการณ์โลกร้อนแต่อย่างใด และในทางตรงกันข้ามอุณภูมิโลกกลับต่ำลงเรื่อยๆ
#news#
เดือนมีนาคมปีที่แล้วเป็นเดือนที่มีอุณภูมิบนแผ่นดินสูงที่สุดหากเทียบกับเดือนมีนาคมในหลายๆปีที่ผ่านมา ส่วนนปีนี้อุณภูมิน้ำทะเลและแผ่นดินทางซีกโลกใต้สูงที่สุดเท่าที่เคยมีการบันทึกมาในเดือนมิถุนายนและเดือนสิงหาคม ส่วนอุณหภูมิน้ำทะเลสูงที่สุดเป็นระยะเวลาสามเดือนตั้งแต่มิถุนายน กรกฏาคมและสิงหาคมติดต่อกัน และที่น่ากลัวที่สุดที่ได้มีการกล่าวในรายงานฉบับนี้ คือจำนวนการเกิดปรากฎการณ์เรือนกระจกมากเสียจนผ่านจุดที่ไม่สามารถแก้ไขอะไรได้แล้วทั้งสิ้น
การละลายของน้ำแข็งในขั้งโลกเหนือเป็นไปด้วยความเร็วมากกว่าที่นักวิทยาศาสตร์หลายๆคนได้ประเมินไว้ในตอนแรก ในขณะเดียวกันจากการรายงานของ World Meteorological Organization ยังพบอีกว่าปริมาณคารบอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศได้เพิ่มขึ้นมา 38% ตั้งแต่สมัยของการปฎิวัติทางอุตสาหกรรม
หากจะต้องมีการควบคุมอุณหภูมิโลกให้อยู่ในระดับที่ 2C เหนือระดับก่อนยุคที่จะมีการนำเครื่องจักรมาใช้ในสมัยก่อน การปล่อยไอเสียไปในชั้นบรรยากาศนั้นจะต้องถึงจุดสูงสุดได้ในระหว่างปี 2015 – 2020 เท่านั้น
