
หลังจากที่ได้เกิดเหตุการณ์ ในการพยายามวางระเบิดบนเครื่องบินโดยสารในประเทศสหรัฐอเมริกาเมื่อวานนี้ทำให้สนามบินในประเทศออสเตรเลียได้เพิ่มกำลังรักษาความปลอดภัยกันอย่างหนาแน่นขึ้นเป็นอย่างมาก
นักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลียกว่าหลายพันคนที่เดินทางไปยังสหรัฐอเมริกาจะถูกตรวจสอบเป็นรายบุคคลก่อนออกเดินทางและจะต้องนั่งประจำอยู่กับที่นั่งเป็นเวลา 1 ชมก่อนที่จะออกจากเครื่องได้
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม Anthony Albanese กล่าวว่ามาตรการดังกล่าวได้ถูกนำมาใช้หลังจากที่ทางสหรัฐอเมริกาได้ออกมาแนะนำมาตรการในการรักษาความปลอดภัย ส่วนมาตรฐานความปลอดภัยของสนามบินในประเทศออสเตรเลียอยู่ในระดับที่มีความปลอดภัยปานกลาง ส่วนเที่ยวบินในประเทศจะไม่มีการนำมาตรการเดียวกันมาใช้กับผู้โดยสารแต่อย่างใด
#news#
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่สหรัฐอเมริกามีผู้ต้องสงสัยเป็นชาว Nigerian อายุ 23 ปีซึ่งข่างรายงานมาว่ามีส่วนพัวพันกับเครือข่ายผู้ก่อการร้าย al Qaeda ได้นำอุปกรณ์ระเบิดขึ้นไปบนเครื่องบินและเตรียมที่จะปลดชนวนบนสายการบิน Northwest 253 ก่อนที่จะถึง Detroit ประเทศสหรัฐอเมริกาเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา แต่ถึงตอนนี้เจ้าหน้าที่ก็ยังไม่สามารถที่จะหาสาเหตุได้ว่าทำไมนาย Umar Farouk Abdulmutallab ถึงสามารถผ่านด่านตรวจความปลอดภัยที่สนามบินที่ Nigeria และที่ Netherlands ได้
หลังจากที่ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้ นาย Umar ได้กล่าวกับเจ้าหน้าที่สหรัฐว่าตนนั้นทำตามคำสั่งของ al Qaeda และได้นำผงระเบิดผูกติดกับขาและใช้สายน้ำเกลือ เป็นตัวผสมผงระเบิดกับสารเคมีในการก่อการร้าย
สนามบิน Sydney, Melbourne และที่ Brisbane รวมไปถึงสายการบิน Qantas และ V Australia ได้เพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยไปจนกว่าจะถึงวันพุธนี้เป็นอย่างน้อย โดยจะทำการตรวจกระเป๋าสิ่งของเดินทางของผู้โดยสารอย่างเข้มงวด
ผู้โดยสารที่จะเดินทางไปยังประเทศสหรัฐอเมริกาจากทั่วโลกได้ถูกตรวจเข้มเมื่อวานนี้ ที่ Hong Kong สายการบิน Cathay Pacific ออกมากล่าวว่าผู้โดยสารที่จะเดินทางไปยังประเทศสหรัฐอเมริกาถูกห้ามไม่ให้โทรศัพท์บนเครื่องบินระหว่างเดินทาง ส่วนที่ประเทศนิวซีแลนด์นั้น ผู้โดยสารที่จะเดินทางไปยังประเทศสหรัฐอเมริกา ถูกแยกตัวออกมาตรวจต่างหากไม่ปนกับผู้โดยสารที่จะเดินทางไปยังประเทศอื่นๆ