จากการศึกษาและวิจัยในประเทศออสเตรเลียพบว่าสตรีคนใดที่สูบบุหรี่นั้นมีโอกาสที่จะทำให้บุตรในท้องขณะตั้งครรภ์นั้นมีโอกาสเป็นมะเร็งได้ นักวิจัยได้ออกมาประเมินจำนวนเด็กที่คลอดออกมาทั่วรัฐ New South Wales กว่าล้านคนตั้งแต่ในปี 1994 ไปจนถึง 2005 พบว่ามีเด็กกว่า 948 คนนั้นได้เป็นมะเร็งในเวลาหลายปีต่อมา
ศาสตราจารย์ Jim Bishop ซึ่งเป็นผู้บริหารของ Cancer Institute of NSW กล่าวว่าผู้หญิงชาวออสเตรเลียกว่า 17% นั้นสูบบุหรี่ระหว่างตั้งครรภ์
การวิจัยยังได้พบอีกว่าเด็กที่เกิดออกมาและมีน้ำหนักตัวน้อยกว่าน้ำหนักตัวโดยเฉลี่ยนั้นมีโอกาสเป็นลูคีเมียสูง มากถึง 1.7 เท่าและมีโอกาสเป็นโรคมะเร็งในสมองหรือระบบประสาทมากถึง 1.8 เท่า
เด็กแรกเกิดคนใดนั้นที่ต้องได้รับการดูแลจากแพทย์ใน ICU นั้นมีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งสูงมากถึง 2.7 เท่า ในขณะที่การเกิดมะเร็งที่ตานั้นมากขึ้นกว่า 4 เท่าและมะเร็งที่ไตนั้นมากถึง 5 เท่า
ศาสตราจารย์ Jim ออกมากล่าวว่าการสูบบุหรี่ในขณะตั้งครรภ์นั้นไม่ได้เป็นสาเหตุเดียวที่ทำให้เด็กนั้นคลอดก่อนกำหนดหรือโรคแทรกซ้อนต่างๆในเด็กทารกอีกด้วย และการแก้ปัญหาดังกล่าวนั้นสามารถทำได้โดยการหยุดสูบบุหรี่ในระหว่างการตั้งครรภ์
นอกจากนี้เด็กที่เกิดมายังมีโอกาสเป็นโรคหืดหอบได้ในเวลาต่อมาอีกด้วย และที่น่าเป็นห่วงไปยิ่งกว่านั้นจำนวนสตรีที่สูบบุหรี่ระหว่างตั้งครรภ์นั้นมีเป็นจำนวนมากในประเทศออสเตรเลียในปัจจุบันอีกด้วย