ประชาชนชาวออสเตรเลียกว่าหลายล้านคนไม่รู้ตัวว่าตัวเองนั้นสามารถใช้เทคโนโลยีรูปแบบใหม่ในการจ่ายเงินได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิตแต่อย่างใด
ลูกค้าของธนาคาร Commonwealth Bank กว่า 3 ล้านคนและอีกเป็นจำนวนมากของ National Australian Bank ก็สามารถใช้บริการดังกล่าวได้เช่นเดียวกัน บัตรดังกล่าวใช้วิทยาการของคลื่นความถี่วิทยุในลักษณะเดียวกันกับการเก็บเงินทางด่วน e toll ระหว่างบัตรเครดิตหรือเดบิตของลูกค้าและเครื่องจับสัญญาณ
บริษัทผลิตบัตรเครดิต Visa พร้อมกับหุ้นส่วนอย่าง National Australia Bank, ANZ และ Macquarie Bank ร่วมมือกับ MasterCard และ Commonwealth Bank ได้นำเทคโนโลยีดังกล่าวมาใช้กับบัตรของประชาชน แต่ยังไม่ได้มีการออกมาโปรโมทกันอย่างมากมายเท่าไหรนัก จนกว่าร้านค้าน้อยใหญ่จะสามารถนำเครื่องมือในการอ่านบัตรในรูปแบบคลื่นวิทยุมาใช้ได้เสียก่อน
#news#
ร้านค้ากว่าหายพันแห่งรวมทั้ง Sumo Salad และ 7-Eleven ได้มีการนำวิทยาการดังกล่าวมาใช้แล้ว นอกจากนี้ผู้ที่ถือบัตร MasterCard สามารถใช้ซื้อสินค้าด้วยวิธีดังกล่าวได้ราคาต่ำกว่า 35 เหรียญได้ส่วน Visa นั้นใช้ได้ต่ำกว่าราคา 100 เหรียญลงไปได้
โฆษกของ Visa, Judy Shaw ออกมากล่าวว่ากลยุทธ์ในการจ่ายเงินผ่านบัตรในรูปแบบดังกล่าวนั้นมีจุดประสงค์เพื่อนำมาทดแทนการใช้เงินสดซึ่งเป็นวิธีการใช้จ่ายของประชาชนกว่า 70% ในประเทศออสเตรเลีย ส่วนความเชื่อที่ว่าการใช้วิธีดังกล่าวในการเก็บเงินจะทำให้มีการโกงเงินได้ง่ายกว่าการใช้บัตรรูดดังที่ในสหรัฐอเมริกาได้ออกมาแสดงความเกรงกลัวนั้น ทาง Visa ออกมาปฎิเสธความเชื่อดังกล่าว
จากการศึกษาโดยนักวิทยาศาสตร์ในประเทศสหรัฐอเมริกาในปี 2006 พบว่าการใช้วิธีส่งคลื่นใปยังบัตรเครดิตในการเก็บเงิน สามารถถูกผู้ไม่หวังดีแอบขโมยข้อมูลบัตรได้ง่าย หากมีเครื่องอ่านบัตรไว้ในครอบครองด้วยวิธีการสร้างเครื่องมือเลียนแบบขึ้นมาอย่างง่ายๆขึ้นมาในการอ่านบัตรของประชาชน
ทาง MasterCard ออกมาแย้งว่าลูกค้าจะต้องนำบัตร Paypass มาสัมผัสกับเครื่องแสกนเสียก่อนถึงจะมีการจ่ายเงินได้ ส่วนโฆษกของทาง Commonwealth Bank ได้อธิบายว่าเครื่องแสกนจะสามารถทำงานได้ก็ต่อเมื่อบัตรนั้นอยู่ในระยะห่างจากบัตรไกลที่สุด 4 ซมเท่านั้น
อย่างไรก็ตามผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัย Roger Clarke กลับออกมาแสดงความกังวลเนื่องจากธนาคารและบริษัทที่รับทำบัตรเครดิตเหล่านี้ไม่ได้ทำการปรึกษาเกี่ยบกับความปลอดภัยของการเก็บกักข้อมูลของบัตรลูกค้าเสียก่อนที่จะนำบัตรเหล่านี้ออกมาใช้ เนื่องจากประชาชนหลายคนไม่ทราบมาก่อนว่า บัตรที่ตนมีสามารถนำมาแสกนจ่ายแทนการรูดได้
