
จากการศึกษาการรับประทานวิตามินรวมของสตรีพบว่า ทำให้มีแนวโน้มเกิดการเป็นมะเร็งเต้านมเกือบมากถึง 20% การค้นพบดังกล่าวถึงกับทำให้อุตสาหกรรมอาหารเสริมของประเทศออสเตรเลียถึงกับต้องได้รับผลกระทบ และต้องออกมาออกมากล่าวกับประชาชนว่าไม่ให้ตกใจกับผลการวิจัยนัก
ในการค้นคว้าศึกษาถึงผลกระทบของวิตามินรวมในสตรีกว่า 35,000 คนเป็นเวลากว่า 10 ปีที่ผ่าน ทำให้สตรีที่มีความเชื่อว่าการรับประทานวิตามินจะช่วยป้องกันโรคที่มีอาการเรื้อรังเช่นมะเร็งได้ ต้องถึงกับตื่นตระหนก
#news#
แต่คำอธิบายทางชีววิทยาที่สนับสนุนการค้นคว้าในครั้งนี้ ได้อธิบายไว้ว่าการรับประทานอาหารเสริมประเภทวิตามินรวมหรือแร่ธาตุ จะไปเป็นตัวเพิ่มปริมาณเนื้อเยื่อในหน้าอก ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่จะนำไปสู่การเกิดมะเร็ง นอกจากนี้ สารประเภทกรด Folic ซึ่งมักจะพบได้ในวิตามินรวมยังเป็นตัวเร่งการเจริญเติบโตของเนื้องอกได้อีก
มะเร็งเต้านมเป็นมะเร็งที่พบได้มากในหมู่สตรีในประเทศออสเตรเลีย และตรวจพบเป็นจำนวน 12,000 ต่อปีและมีผู้เสียชีวิตจากมะเร็งชนิดเดียวกันจำนวน 2,700 ต่อปี
การศึกษาในครั้งนี้จัดทำขึ้นโดยสถาบัน Karolinska Institute ในประเทศสวีเดน และได้มีการตีพิมพ์ในวารสาร Clinical Nutrition ในประเทศสหรัฐอเมริกา สตรีผู้ที่รับประทานวิตามินรวมมีเนื้อเยื่อในหน้าอกมากกว่าสตรีที่ไม่ได้รับประทานวิตามินเสริม
อุตสาหกรรมการผลิตวิตามินรวมเสริมเป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ในประเทศออสเตรเลีย โดยเฉพาะ Blackmores ซึ่งมีรายได้กว่า 30.6 ล้านเหรียญในไตรมาสที่แล้ว แต่นักโภชนาการออกมากล่าวว่าวิตามินเสริมไม่ได้มีความจำเป็นเท่าไหร่เนื่องจากร่างกายสามารถดูดซึมวิตามินได้ดีมากกว่าจากอาหารปรกติ
เจ้าหน้าที่จาก Cancer Council Australia, Kathy Chapman กล่าวว่าการวิจัยจากประเทศสวีเดนแสดงให้เห็นว่าประโยชน์ของวิตามินไม่ได้ดีอย่างที่หลายๆคนเข้าใจ
อย่างไรก็ตาม ทาง Complementary Healthcare Council of Australia ออกมากล่าวไม่ให้ประชาชนตกใจไปอย่างไรเนื่องจาก การวิจัยครั้งนี้ยังไม่ลึกพอ ไม่ว่าจะเป็นการศึกษาปฎิกิริยาขององค์ประกอบของสารประกอบในวิตามินต่อร่างกายมนุษย์และการควบคุมการตอบคำถามของผู้เข้าร่วมในการวิจัยในแบบสอบถามเองอีกด้วย