นักวิจัยชาวออสเตรเลียออกมาเปิดเผยว่านักศึกษาคณะวิทยาศาสตร์เพศชายนั้นเป็นกลุ่มคนที่มีแนวโน้มที่ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์มากที่สุดในขณะนี้นักศึกษาเพศหญิงจากคณะศิลป์ศาสตร์นั้นมีความตื่นตัวทางเพศสูงเป็นพิเศษ
จากการวิจัยดังกล่าวนี้ซึ่งเป็นการศึกษาครั้งแรกของมหาวิทยาลัย University of Sydney ซึ่งได้สำรวจกลุ่มนักศึกษาเป็นจำนวน 185 คนอายุระหว่าง 16-25 ปี โดยคำถามนั้นเกี่ยวกับประวัติการมีเพศสัมพันธ์และความรู้เกี่ยวกับโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์“chlamydia”
นักศึกษาคณะศิลป์ศาสตร์นั้นเริ่มมีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุน้อยกว่านักศึกษาจากคณะอื่นๆและมีความรู้เกี่ยวกับโรคติดต่อ Chlamydia น้อยมาก นอกจากนี้ในกลุ่มตัวอย่างที่ถูกศึกษานั้น นักศึกษาชายมีแนวโน้มที่จะมีสัมพันธ์น้อยกว่าผู้หญิงเสียอีก
นักศึกษาจากคณะวิทยาศาสตร์นั้นมีแนวโน้มที่จะมีเพศสัมพันธ์น้อยกว่านักศึกษาในภาควิชาอื่นๆ นอกจากนี้นักจิตวิทยาใน Sydney อย่าง Stephen Carroll ยังได้กล่าวว่าปัจจัยทางด้านวัฒนธรรมนั้นมีส่วนสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากนักศึกษาจากต่างประเทศนั้นเดินทางมาเรียนที่ประเทศออสเตรเลียเป็นจำนวนมาก แต่ถึงอย่างไรก็ตามเด็กผู้ชายนั้นเริ่มมีเพศสัมพันธ์หลังเด็กผู้หญิง
นักศึกษาสตรีกว่า 78% มากกว่านักศึกษาชาย 22% ที่สมัครใจในการเข้าร่วมทำแบบสอบถามของทางมหาวิทยาลัย ผู้ตอบแบบสอบถามมากว่าครึ่ง (66%) นั้นกล่าวว่าตนนั้นยอมให้แพทย์นั้นตรวจหาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์กับตนได้ ซึ่งเชื้อ Chlamydia นั้นสามารถทำให้ผู้หญิงนั้นเป็นหมันได้
การวิจัยดังกล่าวนั้นจัดทำโดยทีมงานนักวิจัยโดยมี ดร Melissa Kang เป็นหนึ่งในสมาชิก ซึ่งเคยศึกษาอัตราการเกิดการติดต่อ Chlamydia และได้พบว่าสตรีอายุระหว่าง 20 ถึง 24 ปีติดเชื้อดังกล่าวมากขึ้นถึง 4 เท่าตั้งแต่ 1999 ที่ผ่านมาส่วนสตรีอายุระหว่าง 15-19 ปีนั้นมีอัตราการติดเชื้อสูงที่สุด ส่วนผู้ชายวัยรุ่นอายุระหว่าง 20-24 ปีนั้นติดเชื่อมาเป็นอันดับสาม