
การทะเลาะวิวาทระหว่างผู้หญิงด้วยกันเริ่มมีมากขึ้น ทำให้โรงเรียนแห่งหนึ่งต้องจัดฝึกอบรบให้กับนักเรียนหญิง เกี่ยวกับผลที่ตามมาของการทำร้ายร่างกายกัน
จากการวิจัยล่าสุดแสดงให้เห็นว่า การทำร้ายร่างกายกันระหว่างผู้หญิงนั้นมีมากขึ้นกว่าที่ผ่านมา และเมือไม่นานมานี้ สตรีผู้หนึ่งถูกศาลตัดสินให้ทำคุณประโยชน์แก่สังคมเป็นเวลา 50 ชั่วโมงหลังจากออกมายุยงให้ลูกสาววัย 14 ปีต่อสู้ใช้กำลังกับเด็กผู้หญิงอีกคน
สตรีดังกล่าวถึงกับขับรถพาลูกสาวของตนไปหาเรื่องคู่กรณีอีกคนในสวนสาธารณะแห่งหนึ่ง และกล่าวยุให้ลูกสาวตนนั้นชกไปที่จมูกของอีกฝ่าย
ผู้ก่อตั้ง Generation Next นายแพทย์ Ramesh Manocha ได้จัดตั้งศูนย์ดังกล่าวขึ้นมาเพื่อให้ความรู้แก่ผู้ปกครองเกี่ยวกับปัญหาของวัยรุ่นสมัยนี้ และที่เห็นได้ชัดนั้นคือพฤติกรรมของเด็กผู้หญิงที่รุนแรงมากขึ้น
Ramesh กล่าวต่อไปว่าปัญหาอันดับแรกของผู้ปกครองที่จะต้องแก้ไขนั้นคือสอนไม่ให้ลูกหลานแกล้งผู้อื่น ในปี 2006 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ถูกเรียกเข้าไปจัดการกับปัญหาการใช้ความรุนแรงในครอบครัวในรัฐ Victoria กว่า 3500 ครั้งโดยมีเด็กวัยรุ่นเป็นผู้ใช้กำลัง และ 1ใน3 เป็นวัยรุ่นเพศหญิง อายุระหว่าง 12-17 ปี
#news#
เจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้เปิดเผยอีกว่าวัยรุ่นเพศชายที่ทำร้ายพ่อแม่ตัวเองนั้นเพิ่มมากขึ้น 19% ระหวางปี 2003-2007 ส่วนวัยุร่นผู้หญิงนั้นเพิ่มมากขึ้นถึง 33% ในระยะเวลาเดียวกัน นักจิตวิทยาผู้ที่เชี่ยวชาญด้านการใช้ความรุนแรงในครอบครัว Eddie Gallagher กล่าวว่าสมัยนี้มีวัยรุ่นผู้หญิงมากมายมีทัศนคติเกี่ยวกับความรุนแรงไม่ต่างไปจากเด็กผู้ชาย และมักจะมีความภูมิใจกับอำนาจที่ตัวเองมี ซึ่งมักจะเกี่ยวข้องกับ ความตื่นเต้นและความภาคภูมิใจในตัวเอง
จากการสำรวจความเห็นของครอบครัวประชาชนกว่า 260 ครัวเรือน Eddie กล่าวว่าวัยรุ่นกว่า 1 ใน 4 ที่ก่อเรื่องทะเลาะวิวาทในครอบครัวนั้นเป็นเพศหญิงและเหยื่อส่วนมากนั้นเป็นแม่ของพวกเขาเหล่านี้