
โรงกลั่นน้ำทะเลของ Sydneyได้ถูกกลุ่มอนุรักษ์ออกมาติว่าเป็นความผิดพลาดมูลค่าหลายร้อยล้าน และนโยบายการประหยัดน้ำของรัฐบาลนั้นมีราคาแพงเกินไป และควรจะหันมาแก้ปัญหาเรื่องน้ำด้วยราคาแทน
ศาสตราจารย์ Quentin และ Michael Ward จากมหาวิทยาลัย Australian National University ได้ออกมากล่าวว่าการสร้างโรงกลั่นน้ำทะเลในขณะที่ปริมาณน้ำในเขื่อนยังมากอยู่นั้น จะส่งผลให้เกิดสภาวะภาระทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้เสียภาษี และในแต่ละครัวเรือนนั้นอาจจะต้องจ่ายเป็นเงินมากกว่า 700 เหรียญในระยะเวลาไม่นานนี้
อย่างไรก็ตามรัฐบาลออกมาแก้ต่างว่าการสร้างโรงน้ำกลั่นนั้นเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าหากเกินเกิดสภาวะภัยแล้งเนื่องมาจากอุณหภูมิโลกสูงขึ้น แต่ศาตราจารย์ทั้งสองนั้นได้ระบุว่าค่าใช้จ่ายในการสร้างโรงงานกลั่นน้ำนั้นจะมีมูลค่ามากกว่าหลายพันล้านเหรียญ และนโยบายการประหยัดน้ำและข้อห้ามต่างๆในการใช้น้ำของรัฐบาลนั้นไม่มีประสิทธิภาพในทางเศรษฐกิจเท่าไรนัก
และวิธีที่ดีที่สุดในการควบคุมการใช้น้ำนั้นคือการกำหนดราคาของน้ำตามตวามต้องการและปริมาณที่มีอยู่ ราคาน้ำนั้นควรจะสูงขี้นในหน้าแล้ง และน้อยลงในระยะเวลาที่มีฝนตกลงมา
แต่รัฐมนตรีที่ดูแลเรื่องน้ำนั้น Nathan Rees กล่าวว่าระบบราคานั้นจะก่อให้เกิดความไม่สมดุลขึ้นโดยเฉพาะผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับผู้ประกอบการที่จำเป็นจะต้องใช้น้ำและหากราคานั้นจะต้องขึ้นๆลงๆอยู่ตลอดเวลา ในขณะเดียวกันนักเศรษฐศาตร์ออกมากล่าวว่าการสร้างโรงกลั่นขึ้นมานั้นจะสมเหตุสมผลก็ต่อเมื่อระดับน้ำฝนเขื่อนนั้นลดลงมามากถึง 20% ซึ่งรัฐมนตรี Nathan กล่าวว่าจะเป็นการเสี่ยงเกินไป