รัฐบาลของนาย Kevin Rudd เตรียมแนะนำนโยบายจ่ายค่าเล่าเรียนในระดับมหาวิทยาลัยใหม่เพื่อตัดปัญหาการจำนวนกิจกรรมในมหาวิทยาลัยไม่ว่าจะเป็นกีฬาหรือ การบริการทางสังคมที่ได้ลดลง
การตัดสินใจดังกล่าวนั้นจะได้มีการประกาศออกมาอย่างเป็นทางการในเดือนหน้าภายในระบบแนวใหม่ “opt out” ซึ่งนักศึกษาสามารถเลือกได้ว่าต้องการจะให้เงินบำรุงการศึกษานั้นไปใช้จ่ายให้กับกิจกรรมประเภทใดของมหาวิทยาลัยและเพื่อให้แน่ใจว่าเงินที่เสียไปกับกิจกรรมของมหาวิทยาลัยนั้นเป็นส่วนหนึ่งของ Student Union
นโยบายดังกล่าวนั้นมุ่งเน้นไปที่การแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นมาจากรัฐบาลชุดที่แล้วที่ได้พยายามลบล้างระบบ Student Union เมื่อปลายปี 2005 และได้ใช้ตั้งระบบของนักศึกษาแบบชั่วคราวขึ้นมาแทน
จากรายงานที่จัดทำโดยรัฐมนตรีด้านเยาวชน Kate Ellis ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาได้มีออกความเห็นกว่า 162 คนโดยส่วนมากนั้นออกมาสรุปว่าการกำจัดระบบค่าธรรมเนียมให้กับ Student Union นั้นส่งผลต่อกิจกรรมและการบริการที่จำเป็นให้กับนักศึกษามหาวิทยาลัย
ตัวอย่างเช่นที่มหาวิทยาลัย University of Technology Sydney นั้นได้แจ้งมาว่าเงินค่าธรรมเนียมจากนักศึกษานั้นโดยปรกติได้มากถึง 6.2 ล้านเหรียญต่อปี และหลังจากได้มีการยกเลิกในสมัยรัฐบาลชุดที่แล้วนั้นเงินจำนวนดังกล่าวได้ลดลงมากถึง 190,000 เหรียญต่อปีเลยทีเดียวและทางมหาวิทยาลัยเองนั้นเองต้องออกเป็นเงินเอง 500,000 เหรียญในการสนับสนุนกิจกรรมนักศึกษา
และเพื่อเป็นการแก้ปัญหานั้นทางมหาวิทยาลัยได้ขึ้นราคาอาหาร 15% และลดจำนวนเงินเพื่อสนับสนุนชมรมกิจกรรมต่างๆและจำนวนสมาชิกลงไปอย่างไรก็ตามถึงแม้ว่ารัฐบาลชุดที่แล้วได้ทุ่มเงินสนับสนุนกว่า 80 ล้านเหรียญในการช่วยเหลือสนับสนุนกิจกรรมซึ่งจะหมดลงสิ้นเดือนมิถุนายนปีหน้า แต่มหาวิทยาลัยส่วนใหญ่นั้นต้องควักเงินจ่ายเองไม่ง่าจะเป็นในเรื่องการสนับสนุนการเรียนรู้หรือการทำวิจัย
