
รัฐบาล New South Wales ใช้เทคโนโลยีถูกในการติดตั้งระบบเตือนภัยการก่อการร้ายใน Sydney จนถูกสื่อตำหนิ เพิ่มความไม่มั่นคงให้กับประชาชน
นสพ Daily Telegraph รายงานมาว่า ตั้งแต่ปี 2006 ที่ผ่านมารัฐบาลทราบดีว่าระบบเทคโนโลยีการสื่อสารใน Sydney ไม่ได้มีกำลังไฟฟ้าสำรองหากเกิดสภาวะฉุกเฉิน และสาเหตุหลักๆ เนื่องมาจากจะทำให้รัฐต้องลงทุนจ่ายเงินเพิ่มมากขึ้น
ทางด้านโฆษกของรัฐบาล NSW ได้ออกมายอมรับว่าภายในระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา ได้มีการจัดตั้งงบประมาณกว่า 1.8 ล้านเหรียญเพื่อที่จะใช้ในการปรับปรุงและพัฒนาระบบเตือนภัยมาแล้ว แต่เพิ่งจะเริ่มทำการพิจารณาที่จะนำงบมาใช้ในตอนนี้
#news#
นสพ Daily Telegraph ได้รายงานต่อไปว่า เรื่องราวการทำงานระบบเตือนภัยได้ถูกเปิดเผยหลังจากที่ ไฟใน Sydney ดับสนิท โดยไม่มีกำลังไฟฟ้าสำรองใช้ เมื่อต้นปีที่ผ่านมา และระบบการสื่อสารเดิมที่มีอยู่ ระหว่างทางการกับประชาชน เพื่อเป็นการแจ้งถึงเหตุการณ์คับขันกลับใช้ไม่ได้
แต่หลังที่นายกเทศมนตรี NSW, Nathan Rees ออกมายอมรับว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่ตนนั้นรับไม่ได้ และสั่งให้มีการตรวจสอบการทำงานของระบบดังกล่าวมาแล้วเป็นเวลากว่า 5 เดือน แต่ก็ไม่มีความคืบหน้าอะไรแต่อย่างใด
ทางโฆษกเพียงแต่ออกมากล่าวว่าทางรัฐบาลจะมีการสรุปผลการศึกษาการพัฒนาระบบเตือนภัยภายในสิ้นเดือนนี้ ทางฝ่ายค้าน รัฐบาลด้านการให้ความช่วยเหลือประชาชนในสภาวะฉุกเฉิน Melinda Pavey กล่าวว่ารัฐบาล NSW ว่าสร้างความไม่ปลอดภัยให้กับประชาชน เพราะเพียงแค่ต้องการประหยัดงบประมาณ และเรียกร้องให้รัฐบาลเปิดเผยว่า ผู้เสียเงินภาษีจะต้องเสียเงินเพิ่มอีกเท่าไหร่ เพื่อที่จะได้นำเงินมาพัฒนาระบบเดือนภัยให้กับประชาชนหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น ไม่ว่าจะเป็นภัยธรรมชาติหรือการก่อการร้าย