
อีกไม่นานโรงแรมทุกๆแห่งในรัฐ New South Wales จะต้องไม่รับนักท่องเที่ยวหลังตี 1 เป็นต้นไปหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ แพทย์และเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้ออกมาเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงเวลาการรับนักท่องเที่ยวในตอนกลางคืนเพื่อเป็นการลดจำนวนการดื่มสุรา
นอกจากนี้พรรคร่วมรัฐบาลแนวหน้ายังได้มีการเรียกร้องให้มีการห้ามไม่ให้ขายเครื่องดื่มเป็นชอต ค้อกเทล และเครื่องดื่มผสมที่มีปริมาณแอกอฮอล์ผสมมากอยู่กว่า 5% ในร้านที่ขายเครื่องดื่มทุกที่ในรัฐ NSW หลังเวลาสี่ทุ่มเป็นต้นไป
เจ้าหน้าหน่วยกู้ภัยฉุกเฉินเชื่อว่ากฎระเบียบข้อบังคับในการควบคุมการดื่มสุราของรัฐบาลยังไม่มีความเข้มงวดพอและทางหน่วยงานต้องการให้มีการนำมาตรการใหม่มาทดลองใช้ที่ Newcastle ก่อนที่จะนำมาใช้ทั่วทุกพื้นที่ในรัฐ NSW
#news#
ที่ผ่านมาในอดีตหลังจากที่ได้มีการนำมาตรการต่างๆในการลดปัญหาที่เกิดมาจากการดื่มแอกอฮอล์ใน Newcastle ทำให้ความรุนแรงลดลงมา 29% ในระยะเวลา 5 ปีไปจนถึงปี 2009 ที่ผ่านมา ไม่ว่าจะด้วยมาตรการลดเวลาเปิดทำการของผับและคลับถึงตี 3 หรือห้ามไม่ให้มีการขายเครืองดื่มแก่ลูกค้าเกินกว่า 4 แก้ว รวมไปถึงการห้ามไม่ให้มีการขายเครื่องดื่มเป็นเวลาครึ่งชั่วโมงก่อนที่ผับจะปิด
มาตรการเดียวกันนี้ได้ถูกนำมาใช้กับสถานบันเทิงบางแห่งใน Sydney และในรัฐ NSW แห่งอื่นๆ แต่ได้มีการออกมาเรียกร้องให้มีการนำมาตรการในรูปแบบนี้มาใช้ในทุกที่ในรัฐ
กลุ่มที่ออกมาเรียกร้องให้มีการเพิ่มความเข้มงวดในครั้งนี้ได้แก่ Australian Medical Association, NSW Police Association, NSW Nurses Association และ Health Services Union เนื่องจากเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานเหล่านี้มกจะตกเป็นเหยื่อของการทำร้ายร่างกายจากประชาชนที่มีอาการมึนเมาอยู่เป็นประจำ
จากสถิติที่ได้มีการรวบรวมโดยพรรคร่วมรัฐบาลพบว่าระหว่างปี 2004 – 2008 จำนวนการใช้ความรุนแรงอันเนื่องมาจากการดื่มสุรา ไม่ว่าจะเป็นในครัวเรือนเพิ่มมากขึ้นจาก 15,398 ไปเป็น 19,735 ครั้ง
ในจำนวนดังกล่าวมีการทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นจำนวน 2,855 ครั้ง โดยมีสาเหตุมาจากอาการมึนเมาด้วย 70% ส่วนการทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ของรัฐอื่นๆมีจำนวน 6,370 ครั้งด้วยกัน นอกจากนี้เองยังมีข้อหาอื่นๆนอกเหนือจากนี้ที่มีสาเหตุมาจาก เครื่องดื่มสุราในรัฐ NSW อีกจำนวน 10,185 ครั้ง และคิดเป็น 56% ในที่ๆมีการขายเครื่องดื่มที่มีแอลกฮอล์เป็นส่วนผสม