ประเทศออสเตรเลียได้เข้าพูดคุยกับเจ้าหน้าที่รัฐของประเทศไทยเกี่ยวกับชาวพม่าลี้ภัยทางเรือและถูกทหารไทยนั้นส่งออกกลับไปในทะเลโดยมีน้ำและอาหารเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ผู้ลี้ภัยจำนวนทั้งหมด 200 คนซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อยชาวพม่าที่นับถือศาสนามุสลิม Rohinya ได้กล่าวกับเจ้าหน้าที่ในต่างประเทศว่าพวกตนนั้นต้องอยู่ในทะเลกว่า 3 อาทิตย์หลังจาก และก่อนที่จะถูกให้ขึ้นเรือที่ไม่มีแม้แต่มอเตอร์ออกไปในทะเลอีกครั้งนั้น และพวกตนถูกเจ้าหน้าที่ในประเทศไทยทำร้ายร่างกายอีกด้วย
กลุ่มมนุษย์ชนได้ออกมากล่าวว่ามีผู้ลี้ภัย Rohinya จำนวนกว่า 1,000 คนลี้ภัยเข้ามายังในประเทศไทยเมื่อปีที่แล้ว และได้ถูกส่งตัวกลับไปในทะเลบนเรืออีกครั้งด้วยข้าวปลาอาหารเพียงนิดเดียวเท่านั้นในเดือนธันวาคมปีที่แล้ว
หนึ่งในผู้ที่รอดชีวิตจากกลางทะเลนั้นได้กล่าวกับนักข่าวจาก AFP ว่าตนได้ถูกคุมตัวบนเกาะแห่งหนึ่งในประเทศไทย และถูกทำร้ายร่างกายด้วยรองเท้า ทุบตีด้วยกำปั้นและไม่เท้า เป็นเวลากว่า 2 เดือนก่อนที่จะถูกนำตัวไปปล่อยไว้บนเรือไม้ที่ไม่มีมอเตอร์บังคับ
ชายผู้นี้กล่าวต่อไปว่า มีผู้ลี้ภัยเหมือนกันกว่า 225 คนบนเรือลำเดียวกับตน นอกจากนี้ตนยังได้เห็นกับตาว่าเรืออีก 4 ลำนั้นได้ถูกเจ้าหน้าที่ทางการทหารของไทยลากไปปล่อยไว้ในทะเล
ทางประเทศออสเตรเลียเองนั้นได้นำเรื่องดังกล่าวแจ้งไปยังประเทศไทยหลายต่อหลายครั้ง ตั้งแต่เรื่องดังกล่าวนั้นได้ออกมาเป็นข่าว โดยเมื่อเดือนที่แล้วที่ผ่านมมานั้น เจ้าหน้าที่ทางการทูตจากนคร
ทาง Department of Foreign Affairs and Trade ของประเทศออสเตรเลียได้ออกมาแสดงความกังวลเกี่ยวกับชีวิตของผู้ลี้ภัยที่ต้องออกไปล่องลอยอยู่ในทะเลหลังจากที่ได้ยินข่าวรายงานเกี่ยวกับการปฏิบัติตนกับผู้ลี้ภัยของทหารไทยแล้ว
ทางโฆษกของของกระทรวงดังกล่าวนั้นได้ออกมากล่าวอีกว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของประเทศออสเตรเลียในประเทศอินโดนีเชียและในกรุงเทพเองนั้นได้ติดตามข่าวคราวดังกล่าวอย่างใกล้ชิด ส่วนผู้ลี้ภัยบางคนนั้นยังไม่ได้รับการช่วยเหลือในขณะนี้และคาดว่ายังคงอยู่ในทะเล นอกจากนี้ทางการออสเตรเลียเองนั้นเตรียมตัวดำเนินการสืบสวนหาข้อเท็จจริงดังกล่าวไปพร้อมๆกับประเทศไทย