บทบาทสถานทูตออสเตรเลียในต่างประเทศเปลี่ยนแปลง บทบาทการทูตน้อยลง!

นักวิเคราะห์สถานการณ์ในต่างประเทศออกมาเตือนประชาชนชาวออสเตรเลียที่เคยชินกับการที่รัฐบาลจะต้องออกมาช่วยแก้ปัญหาให้ในต่างประเทศตลอดเวลาจะทำให้ สถานทูตของประเทศออสเตรเลียถูกมองว่าเป็นสถานที่ป้องกันภัยแทนไปโดยปริยาย

จากการวิจัยจาก Lowly Institute พบว่าเจ้าหน้าที่พนักงานของสถานทูตกว่า 1 ใน 5 คนจาก Department of Foreign Affairs and Trade (DFAT) ที่ให้บริการด้าน passport หรือด้านการทูต นั้นทำงานมากขึ้นจากกว่า 57,706 คนในปี 1997 ไปเป็น 185,000 คนเมื่อปีที่แล้ว โดยให้บริการความช่วยเหลือจากการตามหาชาวออสเตรเลียที่หายตัวไปหรือการกรอกเอกสารหรือตอบคำถามทั่วไป

ผู้อำนวยการของศูนย์ Lowly Institute, Andrew Shearer กล่าวว่าจำนวนของประชาชนชาวออสเตรเลียที่ออกท่องเที่ยวในต่างประเทศและการบริการของสถานกงสุลในต่างประเทศที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้หน้าที่ของพนักงานการทูตมีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมโดยบทบาทของการเชื่อมสัมพันธไมตรีนั้นลดลง

แหล่งข่าวจาก DFAT ให้สัมภาษณ์กับ นสพ Sydney Morning Herald ว่าจำนวนงานของสถานกงสุลที่มากขึ้นทำให้ประชาชนมีความเชื่อว่าสถานทูตนั้นทำงานคอยช่วยเหลือชาวออสเตรเลียที่ตกทุกข์ได้ยากมากกว่าที่เชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

รัฐบาลออสเตรเลียได้ทำการบันทึกจำนวนประชาชนชาวออสเตรเลียกว่า 6 ล้านคนที่ได้เดินทางออกจากประเทศออสเตรเลียเมื่อปีที่แล้วซึ่งเป็นจำนวนเพิ่มขึ้นมามากถึง 2 เท่าหากเทียบกับในปี 1998

นอกจากนี้ทาง Lowly Institute พบอีกว่าเงินที่ใช้ไปด้านการบริการให้กับประชาชนชาวออสเตรเลียนั้นเพิ่มขึ้นมา 4.2% ในด้านการการป้องกันรักษาความปลอดภัยให้กับพลเมือง ส่วนประชาชนที่ขอความช่วยเหลือในการดำเนินการเรื่อง passport เพิ่มขึ้น 18%

งานด้านการดูแลประชาชนของสถานทูตออสเตรเลียในประเทศต่างๆนั้นทำให้งานด้านการทูตนั้นมีบทบาทลดลงเป็นอย่างมากที่ผ่านมา