
นักศึกษามหาวิทยาลัยกว่า 1 ใน 3 ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในระดับที่มีอันตรายและอาจทำให้สมองถูกทำลาย นักวิจัยได้ทำการศึกษานักศึกษาของมหาวิทยาลัย 7,237 คนอายุระหว่าง 17 – ปี จาก Curtin University ใน Perth ในปี 2007 พบว่านักศึกษาจำนวน 34% นั้นดื่มในปริมาณที่เป็นอันตรายและเป็นพิษต่อร่างกาย
ถึงแม้ว่านักศึกษาเหล่านี้นั้นทราบเป็นอย่างดีถึงความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้น มีเพียงจำนวนแค่ 5% เท่านั้นที่เข้าขอความช่วยเหลือภายในระยะเวลา 6 เดือนทีผ่านมา นักวิจัยอย่าง Kypros Kypri ผู้นำในการทำวิจัยนี้กล่าวว่านักศึกษาอายุ 18 และ 19 ปีนั้นเป็นกลุ่มที่ดื่มหนักที่สุดจากจำนวนทั้งหมด และเป็นกลุ่มเป้าหมายของผู้ผลิตสินค้าเครื่องแอลกอฮอล์เหล่านี้
#news#
นักศึกษามหาวิทยาลัยหลายคนมีความเชื่อที่ว่าวัยรุ่นในวัยเดียวกันนี้ดื่มมาก เล่นยาเยอะ และยังมีเพศสัมพันธ์มากขึ้นอีกด้วย ทำให้คนเหล่านี้ยิ่งดืมมากขึ้นไปอีก นอกจากนี้นักวิจัยยังได้ทำการทดสอบวามมีประสิทธิภาพของเวปไซต์ที่ใช้ในการตรวจสอบระดับการดื่มของนักศึกษา พบว่านักศึกษาที่เข้าไปทดสอบตัวเองนั้น บริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ลดลง 11% ภายในระยะเวลา 6 เดือนที่ผ่านมา
นักวิจัยยังได้ออกมาแนะนำให้มีการนำเวปไซต์ดังกล่าวมาใช้กับนักศึกษาจากทั่วทุกพื้นที่ของประเทศออสเตรเลียอีกด้วย เจ้าหน้าที่จาก Drug and Alcohol Research and Training Australia, Paul Dillon ออกมากล่าวว่าการดื่มแอลกอฮอล์เป็นระยะเวลานานจะทำให้เกิดโรคตับ สมองเสื่อมบ้าง นอกจากนี้อาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุ คนไม่อยากมีเพศสัมพันธ์ด้วย หรือถูกกระทำชำเราทางเพศ